อัญเชิญ "นางสีดา" ไปฆ่านกหัสดีลิงค์ ในพิธีพระราชทานเพลิงศพ "หลวงพ่อคูณ"
เมื่อเวลา 16.00 น. (19 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะอาญา 4 จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้เดินทางมาเชิญ น.ส.เมทินี หวานอารมย์ อายุ 45 ปี ที่ บ้านด้ามพร้า ต.ขามใหญ่ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นนางเทียม “นางสีดา” เพื่อไปทำพิธีรำฆ่านกหัสดีลิงค์ ในพิธีพระราชทานเพลิงศพหลวงพ่อคูณ ที่ฌาปนสถานชั่วคราววัดหนองแวง พระอารามหลวง ภายในเกาะกลางน้ำด้านหลังพุทธมณฑลอีสาน ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น
โดยคณะอาญา 4 ที่แต่งตั้งนั้น ประกอบด้วยเจ้าเมือง, อุปราช, ราชวงศ์และราชบุตร พร้อมมเหสี รวม 8 คน ตามขนบทำเนียมที่ทำสืบทอดต่อกันมาตั้งแต่สมัยโบราณกาล พร้อมได้นำเครื่องประกอบพิธี ประกอบด้วยทองคำแท้หนัก 10 บาท เงินจำนวน 27 ตำลึง และเครื่องคายหน้าคายหลัง ซึ่งในการประกอบพิธีเชิญนางสีดานั้น นางสีดาได้นั่งทรงนางเทียมนางสีดา เพื่อเป็นการตรวจดูว่าเครื่องประกอบพิธีนั้นครบถ้วนตามจำนวนหรือไม่ ซึ่งนางสีดาได้ตรวจดูแล้วเห็นว่าครบตามจำนวน จึงได้รับปากตอบตกลงกับทางคณะที่จะเดินทางไปรำฆ่านกหัสดีลิงค์ ในวันที่ 29 ม.ค. เวลา 18.00 น. ซึ่งวิธีฆ่านกหัสดีลิงค์ มีทั้งรูปแบบของการยิงธนูให้ตายและเผาทิ้ง หรือการฆ่าและตัดหัวนกมาเก็บเป็นที่ระลึก
ทั้งนี้บรรยากาศภายในพิธีการเชิญนางสีดา เป็นพิธีที่เรียบง่ายตามแบบพิธีอีสานโบราณ ซึ่งหลังจากการเครื่องคายประกอบพิธีแล้ว ก็มีการถามไถ่กับคณะผู้มาเชิญอย่างเป็นกันเอง อีกทั้งยังมีการพูดคุยถึงขั้นตอนพิธีการที่จะทำพิธีในวันฆ่านกกันอย่างละเอียดอีกด้วย จากนั้นอาญา 4 จาก ม.ขอนแก่น จึงได้เดินทางกลับทันที ส่วนคณะของนางสีดาจะเดินทางไปทำพิธีที่ จ.ขอนแก่น ในวันที่ 29 ม.ค.เพียงวันเดียวโดยจะไม่มีการนอนพักค้างแรมที่ไหนจนกว่าจะประกอบพิธีรำฆ่านกหัสดีลิงค์เป็นที่เรียบร้อยก่อน
โดยตำนาน นางสีดาฆ่านกหัสดีลิงค์นั้น เล่าขานกันมาว่า นครชื่อนครเชียงรุ้งตักศิลา พระเจ้าแผ่นดินถึงแก่สวรรคต พระมเหสีนำพระบรมศพแห่แหนไปถวายพระเพลิงนอกเมือง นกสักกะไดลิงค์ หรือ นกหัสดีลิงค์ บินจากป่าหิมพานต์มาเห็นเข้า จึงได้โฉบลงแย่งพระศพ พระมเหสีให้หาคนที่จะสู้นกแย่งเอาพระศพคืน มีหญิงสาวชื่อ เจ้านางสีดา เป็นบุตรีของมหาราชครู อาสาต่อสู้นกหัสดีลิงค์ เจ้านางสีดานั้นมีวิชายิงศรเป็นเลิศ ใช้ศรยิงถูกนกใหญ่ ตกลงมาตาย พระมเหสีจึงให้ประกอบพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพร้อมกับนกใหญ่ กลายเป็นธรรมเนียมสำหรับเจ้านายพื้นเมืองในแถบอีสาน และพระเถระผู้ใหญ่ ว่า เมื่อถึงแก่อนิจกรรมแล้วให้ทำเมรุรูปนกประกอบหอแก้ว แล้วเชิญศพขึ้นตั้ง ชักลากออกไปบำเพ็ญกุศลครบถ้วน 3 วัน จึงเผา ก่อนเผาต้องมีพิธีฆ่านก แล้วเผาทั้งศพทั้งนก
สำหรับตำนานนกหัสดีลิงค์ เป็นสัตว์หิมพานชนิดหนึ่งที่มีขนาดใหญ่ มีกำลังมหาศาล ลำตัวเป็นนกมีปีกและหาง แต่ส่วนหัวเหมือนช้าง มีงวงและงา
>> เปิดภาพแบบเมรุลอยนกหัสดีลิงค์ พระราชทานเพลิงสรีระสังขาร "หลวงพ่อคูณ"