เผยปมสลด! ลูกชายฆ่าพ่อตาย แสยะยิ้มไม่สำนึก นั่งเล่นเกมข้างศพ
ความคืบหน้า ภายหลัง พ.ต.อ.สุวัฒน์ สมจิตต์ ผกก.สภ.น้ำพอง พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมเพชร นารี ผกก. (สอบสวน) สภ.น้ำพอง และ พ.ต.ท.อภินันท์ รักศิลป์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.น้ำพอง ร่วม สอบปากคำ นายอนุพงษ์ หรือ ท็อป อายุ 21 ปี อยู่บ้าน ผู้ต้องหาที่ฆ่าพ่อตัวเองตายคาบ้าน โดยผู้ต้องหานั่งให้การด้วยหน้าตาที่นิ่งเฉย ยิ้มแสยะ ไม่มีสลดจากการก่อเหตุแต่อย่างใด
พ.ต.อ.สุวัฒน์ สมจิตต์ ผกก.สภ.น้ำพอง กล่าวว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อเวลา ประมาณ 10.00 น. ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.น้ำพอง ได้รับแจ้งเหตุลูกฆ่าพ่อที่บ้านเลขที่ดังกล่าว หลังรับแจ้งจึงไปตรวจที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบศพ นายอาคม อายุ 51 ปี ถูกทำร้ายด้วยของมีคม ที่บริเวณศีรษะ ใบหน้าจนเละ นอนตายอยู่กลางห้องโถงของบ้าน ข้างศพพบมีดอีโต้ยาวประมาณ 1 ฟุต ตกอยู่ข้างศพผู้ตาย ส่วนผู้ก่อเหตุ คือ นายอนุพงษ์ หรือ ท๊อป ซึ่งเป็นลูกชายคนโตของผู้ตาย หลังก่อเหตุไม่ได้หลบหนีไปไหน นั่งเล่นเกมอยู่บนที่นอนใกล้ศพพ่อตัวเอง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวมาทำการสอบสวน ที่ สภ.น้ำพอง
“ตำรวจได้สอบสวนน้องทีม (นามสมมุติ) น้องชายของผู้ต้องหา ซึ่งเป็นพยานปากสำคัญที่เห็นเหตุการณ์ ให้การว่า ขณะนอนหลับอยู่บนที่นอนที่อยู่บริเวณห้องโถงของบ้าน พ่อก็มาปลุกให้ลูกๆไปกินข้าว น้องทีมจึงลุกไปล้างหน้า พอกลับออกจากห้องน้ำก็ได้ยินเสียงพ่อบ่นให้พี่ชาย พร้อมกับเอาน้ำใส่แก้วไปพรมใส่หน้าพี่ชายที่นอนอยู่บนที่นอน พี่ชายโมโหและมีอาการฉุนเฉียว ทะเลาะกับพ่อและเดินไปหลังบ้าน เอามีดมาฟันที่ศีรษะพ่อจนล้มลงกับพื้น และฟันซ้ำอีกหลายครั้ง น้องทีมกลัวจึงพาน้องสาววิ่งหนีออกนอกบ้านไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน แต่เมื่อเพื่อนบ้านไปถึงบ้าน ปรากฏว่า พ่อได้เสียชีวิตแล้ว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว”
>> ลูกทรพีฆ่าพ่อตายคามือ อารมณ์คลั่งขัดจังหวะกำลังนอน ปลุกไปกินข้าวเช้า
พ.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวต่ออีกว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยได้ทำการควบคุมตัวนายท็อปผู้ก่อเหตุ มาสอบสวน โดยไม่มีทีท่าสะทกสะท้านหรือเกรงกลัวความผิด แต่กลับมีใบหน้าเรียบเฉย แสยะยิ้มเป็นบางครั้ง พูดคุยรู้เรื่อง ตลอดเวลา โดยหลังก่อเหตุไม่ได้หนีไปไหนคงนั่งเล่นเกมส์อย่างไม่สะทกสะท้าน โดยนายท๊อปให้การรับสารภาพว่า การก่อเหตุดังกล่าวเพราะถูกพ่อบ่นด่าทุกวัน เก็บกดสะสมมานาน เมื่อพ่อเอาน้ำมาพรมหน้าจึงเกิดความโมโห จึงเดินเข้าไปในครัวใช้มีดฟันคอพ่อจนตายคาที่และนั่งเล่นเกมส์รอมอบตัว ซึ่งภายหลังการสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา ฆ่าบุพการี โดยที่ผู้ต้องหาไม่ปฏิเสธข้อกล่าวหาแต่อย่างใด
นางจุฑาทิพย์ (แม่ผู้ก่อเหตุ) กล่าวว่า ที่บ้านอาศัยอยู่กันทั้งหมด 5 คน นายท็อป ซึ่งเป็นลูกชายคนโตไม่ได้ทำงาน เพราะร่างกายและสมองไม่ปกติหลังจากประสบอุบัติเหตุเมื่อปี 2560 ทั้งนี้ ก่อนเกิดเหตุ ตนเองทำกับข้าวให้สามีกับลูกไว้เรียบร้อยแล้ว โดยเมื่อถึงที่ทำงานก็มีเพื่อนบ้านโทรศัพท์แจ้งว่า ลูกชายฆ่าพ่อตายในบ้านจึงรีบกลับบ้านก็พบศพสามีนอนอยู่กลางห้องโถง ส่วนนายท็อปถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไว้ จึงถามลูกชายว่า ฆ่าพ่อทำไม ลูกชายตอบเพียงว่า ดุด่าทุกวันไม่ชอบ
“นายท็อปเป็นคนที่มีร่างกายไม่แข็งแรง ช่วงเรียนหนังสือระดับประถม ถึงระดับมัธยม ก็ถูกเพื่อนกลั่นแกล้ง จนทนไม่ได้ออกจากโรงเรียนในช่วงที่กำลังเรียน ม.4 จากนั้นช่วงอายุ 16-17 ปี นายท็อปก็ติดเพื่อน เสพยาเสพติด และไปทำงานอยู่ต่างจังหวัด กลับมาอยู่บ้านเมื่อปี 2560 ก็ประสบอุบัติจนขาหักสองท่อน ผ่าตัดสมอง รักษาตัวนานหลายเดือน เมื่อแข็งแรงก็กลับมาอยู่บ้าน เก็บตัวไม่ออกจากบ้าน วันๆเล่นแต่เกมส์ไม่ค่อยกินข้าว กินเพียงวันละมื้อ ชอบนอนตื่นสายและสูบบุหรี่จัดมวนต่อมวน มีบ้างที่พ่อดุและบ่น เพราะอยากให้ลูกมีความเข้มแข็ง
อัลบั้มภาพ 4 ภาพ