หนุ่มซิ่ง "จักรยานยนต์" ชนท้าย "อีแต๋น" ร่างยังควบคาเบาะเจ็บสาหัส!

วันที่ 20 ม.ค. 62 เจ้าหน้าที่ศูนย์การแพทย์ฉุกเฉิน 1669 สุรินทร์ ได้รับแจ้งจากสายด่วน 1669 ว่ามีรถจักรยานยนต์ชนท้ายรถบรรทุกอ้อยมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ที่บริเวณทางหลวงสาย 24 (สีคิ้ว-อุบลราชธานี) ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 184-851 ขาเข้าอำเภอปราสาท หลังได้รับแจ้งได้ประสานหน่วยกู้ชีพ อบต.ปรือ และ อบต.ตานี พร้อมแจ้ง ร้อยตำรวจเอก ฉันทวัฒน์ จันทร์เกียรติกร ร้อยเวรประจำวันสถานีตำรวจภูธรทุ่งมน อ.ปราสาท เดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ในที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิก สีน้ำเงิน แผ่นป้ายทะเบียน หลุดจากตัวรถหมายเลขทะเบียน อบต 871 กรุงเทพมหานคร สภาพรถจักรยานยนต์พังยับเยิน พบผู้ได้บาดเจ็บนอนหายใจรวยริน มีแผลที่ศีรษะ เลือดออกจำนวนมาก ลักษณะร่างยังคร่อมรถจักรยานยนต์ ส่วนลำตัวและศีรษะฟุบลงกระแทกกับพื้นถนนลาดยาง จากนั้นหน่วยกู้ชีพ อบต.ปรือ ได้ให้การช่วยเหลือและให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้น ประสานรถการแพทย์ฉุกเฉิน โรงพยาบาลปราสาท เร่งนำส่งห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลปราสาท เพื่อให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ทราบชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บต่อมา คือ นายราวี นากอก อายุ 41 ปี

ห่างจากรถจักรยานยนต์ที่เกิดเหตุ ประมาณ 30 เมตร พบรถอีแต๋นเพื่อการเกษตรอเนกประสงค์ บรรทุกลำอ้อยมาเต็มคัน จอดอยู่ไหล่ทางซ้าย และพบนายวิทยากร กฐินเทศน์ อายุ 33 ปี ยืนรอพบเจ้าหน้าที่ตำรวจในที่เกิดเหตุไม่ได้หลบหนีแต่อย่างใด จากการสอบถามนายวิทยา บอกว่าตนเองขนลำอ้อยมาจาก อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ เพื่อไปส่งยังโรงงานน้ำตาลสุรินทร์ พอมาถึงที่เกิดเหตุ ตนเองได้ยินเสียงดังตูมสนั่นด้านท้ายรถ นึกว่ารถตนเองยางระเบิด จึงชะลอรถหยุดและจอดลงมาดู ห่างกันประมาณ 30 เมตร พบรถจักรยานยนต์และผู้บาดเจ็บดังกล่าว และรู้ว่ารถจักรยานยนต์ชนท้ายรถบรรทุกอ้อยของตนเองแน่นอน จึงรีบแจ้ง 1669 ศูนย์นเรนทรจังหวัดสุรินทร์ เพื่อประสานงานหน่วยกู้ชีพในตำบลให้รีบเข้าช่วยเหลือโดยเร่งด่วน

ส่วนตนเองไม่ได้หลบหนีแต่อย่างใด ยังสงสัยว่าคนขับรถจักรยานยนต์หลับใน หรือว่ามีอาการวูบ เพราะจู่ๆ ก็พุ่งชนท้ายรถอย่างแรง ขณะที่คนขับรถตามหลังมายืนยันว่า คนขับรถจักรยานยนต์ มาค่อนข้างเร็วแล้วจู่ๆ ก็พุ่งชนท้ายรถอีแต๋นบรรทุกอ้อยเต็มแรงจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะที่ร้อยตำรวจเอกฉันทวัฒน์ จันทร์เกียรติกร ร้อยเวรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรทุ่งมน ได้บันทึกภาพเก็บหลักฐานลงบันทึกประจำวัน และได้รับตัวผู้ขับรถอีแต๋นเพื่อการเกษตรดังกล่าวไปสอบสวนเพิ่มเติมหาสาเหตุการเกิดเหตุในครั้งนี้ต่อไป