รวบสองผัวเมียขับกระบะพาลูกน้อยตระเวนขโมยข้าว สำนึกผิดก้มกราบ-อ้างไม่มีเงินใช้หนี้

รวบสองผัวเมียขับกระบะพาลูกน้อยตระเวนขโมยข้าว สำนึกผิดก้มกราบ-อ้างไม่มีเงินใช้หนี้

รวบสองผัวเมียขับกระบะพาลูกน้อยตระเวนขโมยข้าว สำนึกผิดก้มกราบ-อ้างไม่มีเงินใช้หนี้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตำรวจ สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ นำหลักฐานกล้องวงจรปิดตามแกะรอยรวบสองผัวเมียขับกระบะพา 2 ลูกน้อย ตระเวนลักขโมยข้าวเปลือกตามบ้าน 17 กระสอบไปขายโรงสี อ้างทำนาขาดทุนไม่มีเงินไปใช้หนี้ สำนึกผิดก้มกราบขอโทษผู้เสียหาย บอกหากหาเงินได้มาชดใช้คืน ขณะสองผัวเมียผู้เสียหายยอมยกโทษเพราะเห็นแก่เด็กตาดำๆ

วันที่ 20 ม.ค. 62 พ.ต.ท.มานิตย์ สร้อยจิตร รองผู้กำกับการสืบสวน สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ พร้อม พ.ต.ต.รังสิวัฒน์ กังศรานนท์ สารวัตรสอบสวนฯ ร.ต.อ.พุทธิพิพัฒน์ ปราบริปู พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบ สภ.นางรอง ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.ภควัต ธรรมดี ผู้กำกับการ สภ.นางรอง ได้นำหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ และบริเวณหน้าโรงสี ไปติดตามแกะรอยจับกุมตัวนายธวัชชัย หรือไมค์ อายุ 30 ปี และ น.ส.ศุภลักษณ์ อายุ 33 ปี สองสามีภรรยา ได้ที่ อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา

หลังได้ร่วมกันใช้รถยนต์อีซูซุ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน ผธ-6948 นครราชสีมา ไปตระเวนก่อเหตุลักขโมยข้าวเปลือกของชาวบ้านบ้านก้านเหลือง ต.ก้านเหลือง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ตอนกลางวันแสกๆ เมื่อวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าของไม่อยู่บ้าน ได้ข้าวเปลือกหอมมะลิบรรจุกระสอบปุ๋ย 13 กระสอบ และกระสอบป่านอีก 3 กระสอบ รวม 17 กระสอบ น้ำหนักรวม 680 กิโลกรัม แล้วนำไปขายให้กับโรงสีแห่งหนึ่งใน อ.นางรอง ได้เงินไป 12,900 บาท แต่ที่น่าสะเทือนใจคือขณะก่อเหตุทั้งสองสามีภรรยาได้พาลูกสาว 2 คน อายุ 7 ขวบ และ 3 ขวบนั่งรถไปด้วย โดยกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่ขับรถผ่าน รวมถึงกล้องวงจรปิดของโรงสีสามารถบันทึกภาพได้อย่างชัดเจน ทั้งสองจึงจำนนด้วยหลักฐาน พร้อมเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุด้วย

จากการสอบสวนนายธวัชชัย ให้การรับสารภาพว่าได้พาภรรยาและลูกทั้งสองคนขับรถไปลักขโมยข้าวเปลือกที่บ้านของชาวบ้านเพื่อนำไปขายจริง โดยอ้างว่าตนเองทำนาขาดทุนเพราะประสบปัญหาภัยแล้ง ผลผลิตเสียหาย ส่วนภรรยาที่เปิดร้านขายน้ำปั่นก็ขายไม่ค่อยได้เพราะเศรษฐกิจไม่ค่อยดี จึงต้องไปกู้ยืมเงินนอกระบบมาใช้จ่าย ปัจจุบันมีหนี้สินสะสมอยู่เกือบ 100,000 บาทต้องจ่ายดอกทุกวัน แต่หาเงินมาจ่ายหนี้รายวันไม่ทัน ทั้งยังมีภาระต้องเลี้ยงดูลูกอีก 2 คน ทำให้หาทางออกไม่ได้จึงตัดสินใจพาภรรยาและลูกขับรถไปลักขโมยข้าวเปลือกไปขาย ซึ่งเงินที่ได้มาก็นำไปใช้หนี้สินส่วนหนึ่งแล้ว ก่อนจะมาถูกตำรวจจับกุมตัวได้

จากนั้นนายธวัชชัย พร้อมภรรยา ก็ได้ก้มกราบนายกิตติ และนางภัทรวดี สองสามีภรรยาผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของข้าวเปลือกที่ถูกลักขโมย พร้อมบอกว่าขอยอมรับผิดและจะพยายามหาเงินไปชดใช้คืนให้ เพราะเข้าใจถึงความรู้สึกว่ากว่าจะทำนาได้ผลผลิตมันยากลำบากขนาดไหน เพราะที่ตนเองก็ประสบปัญหาเช่นเดียวกัน แต่ที่ทำลงไปเพราะหาทางออกไม่ได้

ขณะที่นายกิตติ และนางภัทรวดี สองสามีภรรยาผู้เสียหาย ก็บอกว่าหลังจากที่ข้าวเปลือกหายก็เสียใจมากจนนอนไม่หลับ เพราะปีนี้ประสบปัญหาภัยแล้งได้ผลผลิตน้อยมาก ซึ่งข้าวเปลือกจำนวนดังกล่าวตนก็เก็บไว้กินในครัวเรือนและไว้ทำพันธุ์ในปีหน้าด้วย แต่พอทราบว่าตำรวจจับกุมคนขโมยได้แล้วจึงก็รีบเดินทางมาดู เมื่อมาเห็นก็ใจอ่อนอดสงสารเด็กตาดำๆ ไม่ได้ และเมื่อทั้งสองมากราบขอโทษแสดงถึงความสำนึกผิดก็ยอมให้อภัย

สำหรับข้าวที่ถูกขโมยไปก็แล้วแต่ว่าเขาจะหาเงินมาชดใช้คืนได้หรือไม่ แต่ก็ไม่ได้คาดหวังอะไร แต่อยากจะฝากว่าไม่ว่าจะลำบากแค่ไหนก็ไม่ควรจะไปสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่น น่าจะหาทางออกหรือแก้ไขปัญหาด้วยวิธีอื่น หลังสอบสวนเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้ควบคุมตัวทั้งสองส่งให้พนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งเบื้องต้นถูกแจ้งข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ”

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook