ญาติช็อก! จับแล้วมือฆ่าเด็กหนุ่มวัย 16 ปี ที่แท้ลูกพี่ลูกน้อง
จับแล้วมือยิงขมับเด็กหนุ่มปวช.วัย 16 ปี ผู้ก่อเหตุเป็นญาติลูกพี่ลูกน้องกัน คาดคิดว่าผู้ตายเป็นสายตำรวจทำเพื่อนถูกจับยกแก๊งยาบ้า พ่อเชื่อทำเป็นทีม ยันยังไม่เผาศพลูกชายจนกว่าจะสางคดีเสร็จ
จากกรณี นายไกรสร หรือ กล้า อายุ 16 ปี นักศึกษาสาขาช่างยนต์ ระดับปวช.ปี 1 วิทยาลัยแห่งหนึ่ง หลังเลิกเรียนแล้วอาศัยรถจักรยานยนต์เพื่อนกลับบ้าน แต่เกิดหายตัวไปตั้งแต่ช่วงเย็นของวันศุกร์ที่ 18 ม.ค.62 ที่ผ่านมา และญาติได้แจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.ทุ่งตะโก เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 19 ม.ค 62
จนกระทั่งช่วงค่ำของวันที่ 21 ม.ค. ชาวบ้านพบศพลอยอยู่ในร่องน้ำลำห้วยใกล้สวนปาล์มข้างถนนสายเขาทุเรียน-สถานีรถไฟ หมู่ที่ 7 ตำบลทุ่งตะไคร อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดที่ขมับขวาทะลุขมับซ้าย 1 นัด เบื้องต้น ตำรวจตั้งประเด็นสังหารไว้เรื่องความขัดแย้งกับกลุ่มวัยรุ่นด้วยกันและเรื่องชู้สาว
ล่าสุด (22 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวันบรรยากาศที่บ้านของผู้ตาย หมู่ที่ 7 ตำบลทุ่งตะไคร อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร ได้มีอาจารย์ เพื่อนๆ และชาวบ้าน มาร่วมแสดงความเสียใจและนำหรีดมาวางหน้าศพ ท่ามกลางความโศกเศร้าของญาติพี่น้องไม่ขาดสาย
นายสุคล อายุ 54 ปี พ่อผู้ตาย กล่าวว่า ตอนนี้ทราบว่าตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้วชื่อ นายโอ๊ค อายุ 16 ปี ซึ่งเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน และยังมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกับลูกชาย และยังเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เด็กๆ โตขึ้นมาลูกตนเรียนหนังสือ ส่วนผู้ก่อเหตุไม่ได้เรียนต่อ
ตนจึงไม่เข้าใจว่าทำไมถึงโหดเหี้ยมฆ่าลูกชายตนได้ และตนไม่เชื่อว่านายโอ๊คจะลงมือฆ่าเพียงคนเดียวไม่ได้ เพราะหากสู้กันตัวต่อตัวนายโอ๊คจะสู้นายไกรสรลูกชายตนไม่ได้แน่ๆ เพราะลูกตนเป็นคนรูปร่างสูงใหญ่และแข็งแรง
นอกจากนั้นตามร่างกายลูกชายตนยังมีรอยฟกช้ำตามร่างกายหลายจุดเหมือนถูกรุมทำร้าย จึงเป็นไปไม่ได้ที่ผู้ก่อเหตุจะลงมือเพียงคนเดียว ดังนั้นตนขอยืนยันว่าหากตำรวจยังไม่จับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด หรือคลี่คลายคดีให้เกิดความชัดเจนจนตนสิ้นความสงสัย ตนจะไม่ขอเผาศพลูกชายอย่างเด็ดขาด
ด้าน ป้าของนายไกรสร ผู้ตาย เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตำรวจได้มาจับกุมนายโอ๊ค ตนเองแทบไม่เชื่อเลยว่านายโอ๊คเป็นผู้ลงมือฆ่านายไกรสร จะต้องมีคนสั่งการแน่นอน สำหรับนายโอ๊คผู้ก่อเหตุเป็นเด็กกำพร้าพ่อแม่ตายนานแล้ว ปัจจุบันอาศัยอยู่กับย่าที่มีบ้านอยู่ห่างกันกับบ้านของหลานตนประมาณ 1 กิโลเมตร และถือเป็นญาติใกล้ชิดกัน
ที่ผ่านมาทางพ่อแม่ของผู้ตายก็ยังช่วยดูแลนายโอ๊คตอนเด็กๆ และยังมากินนอนที่บ้าน แล้วก็เรียนโรงเรียนระดับประถมศึกษาแห่งเดียวกัน พอโตขึ้นนายโอ๊คไม่เรียนต่อและเริ่มไม่ค่อยเข้ามาที่บ้านนายไกรสร
อย่างไรก็ตาม ตนเองไม่เชื่อว่านายโอ๊คจะลงมือฆ่าเพียงคนเดียว มันน่าจะมีคนอื่นร่วมด้วยไม่ต่ำกว่า 2-3 คน ส่วนสาเหตุตนก็คงคิดว่านายไกรสรคงจะไปรู้อะไรที่ไม่ดีเกี่ยวกับนายโอ๊คและกลุ่มเพื่อนๆ ก็เป็นไปได้จึงร่วมกันลงมือฆ่า
ขณะที่ นางสาวเอ๋ นามสมมุติ อายุ 16 ปี แฟนของนายไกรสรผู้ตาย กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ประมาณ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนที่นายไกรสรจะถูกยิงตายได้มีเพื่อนๆ ร่วมแก๊งของนายโอ๊คผู้ต้องหาถูกตำรวจจับกุมในคดีเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งนายไกรสรก็เพิ่งจะรู้จักกับเพื่อนๆ กลุ่มของนายโอ๊คได้ไม่นาน จึงอาจจะเป็นไปได้ว่านายโอ๊คอาจจะเข้าใจว่านายไกรสรเป็นสายให้ตำรวจจับกุมเพื่อนๆของตนเอง
ด้าน พล.ต.ต.สหรัฐ ศักดิ์ศิลปชัย ผบก.ภ.จ.ชุมพร กล่าวว่าเจ้าหน้าที่ สภ.ทุ่งตะโก ได้จับกุมผู้ต้องหารายดังกล่าวซึ่งเป็นเยาวชนตามหมายจับศาลจังหวัดหลังสวน เบื้องต้น ผู้ต้องหายอมรับสารภาพว่าก่อเหตุเพียงคนเดียว ส่วนสาเหตุตนไม่สามารถบอกได้เพราะจะเสียรูปคดีและผู้ต้องหาเองก็เป็นเยาวชน
ซึ่งวันนี้ได้นำตัวนายโอ๊คผู้ต้องหาไปยื่นคำร้องต่อศาลตรวจสอบอำนาจการจับกุม ต่อศาลเด็ก เยาวชนและครอบครัวจังหวัดชุมพร และศาลได้พิจารณาตามคำร้องอนุญาตให้ตำรวจควบคุมตัวไว้ในระหว่างการสอบสวนเพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนที่จะนำตัวไปขออำนาจศาลฝากขังต่อไป
สำหรับแนวทางการสืบสวนสอบสวนของตำรวจถึงปมเหตุสังหารนายไกรสรนักศึกษาในครั้งนี้ มีรายงานว่าสาเหตุมาจากเพื่อนๆ ร่วมแก๊งของนายโอ๊คผู้ต้องหาซึ่งมีทั้งหมด 5-7 คน เป็นเยาวชนอายุระหว่าง 15-17 ปี มีประวัติเสพและค้ายาบ้า และเมื่อช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อนๆ ของนายโอ๊คถูกตำรวจ สภ.ทุ่งตะโก และท้องที่ใกล้เคียงจับกุมเกี่ยวกับเสพและค้ายาบ้าจนเกือบหมดทั้งแก๊ง
ทำให้นายโอ๊คซึ่งเป็นหัวโจ๊กเกิดความสงสัยนายไกรสรซึ่งรู้จักและเที่ยวอยู่กับแก๊งดังกล่าวได้ไม่นาน แล้วเพื่อนๆ ในกลุ่มถูกตำรวจจับกุม อาจจะไปเป็นสายให้กับตำรวจมาจับกุมแก๊งของตนเอง จนวันเกิดเหตุได้ไปพบนายไกรสรซึ่งเลิกเรียน และได้มีเพื่อนมาส่งที่บริเวณสี่แยกเขาปีบ ตำบลทุ่งตะไคร อ.ทุ่งตะโก จึงวางอุบายเพื่อจะอาสาพาไปส่งที่บ้านแล้วก่อเหตุดังกล่าวขึ้น
จนกระทั่งตำรวจรวบรวมหลักฐานขอศาลอนุมัติหมายจับ และจับตัวได้พร้อมรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ 125 สีน้ำเงิน-ดำ ทะเบียน 1กจ 6731 ชุมพร ที่ใช้เป็นพาหนะในวันก่อเหตุ ส่วนอาวุธปืนหลังก่อเหตุได้นำไปทิ้งลงแม่น้ำใกล้ทะเลอยู่ระหว่างค้นหาแต่ยังไม่พบ ซึ่งตำรวจจะได้ขยายผลว่ามีร่วมก่อเหตุมากว่า 1 คนหรือไม่ ขณะที่นายโอ๊คยังยืนกรานว่าลงมือก่อเหตุเพียงคนเดียวเท่านั้น