ปชช.เตรียมลงขันสร้าง พระวิหาร ของไทย

ไม่ง้อเขมร มทภ.2 เผยปชช.-เอกชนเตรียมลงขันสร้าง  ปราสาทพระวิหาร  ของไทยเอง เตรียมใช้  มออีแดง  100 ไร่สร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ จวก กัมพูชา  ไม่ทำตามข้อตกลง ใช้กำลังทหารติดอาวุธเฝ้า เขาพรระวิหาร  ชี้  อนุพงษ์  เยี่ยมกำลังพลช่วยปลุกขวัญกำลังใจทหาร

(23พ.ค.) พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาค 2 ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการลับ ลวง พราง สถานีวิทยุเอฟเอ็ม 100.5 ถึงกรณีพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ได้เดินทางขึ้นไปตรวจเยี่ยมกำลังพลที่บริเวณปราสาทเขาพระวิหารเมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า การที่ท่านเดินทางไปตรวจเยี่ยมครั้งนี้ ทำให้กำลังพลมีขวัญและกำลังใจมาก ซึ่งในการตรวจเยี่ยมครั้งนี้มีผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกัมพูชาลงมาต้อนรับด้วยจึงเชิญท่านขึ้นไปที่วัดและลงมาทางปราสาทเขาพระวิหารด้านบันไดหน้า ซึ่งจะทำให้ความสัมพันธ์ดีขึ้น และจะส่งผลต่อการท่องเที่ยวของจ.ศรีสะเกษที่เตรียมจะเปิดให้ขึ้นไปบนผามออีแดงในเร็วๆนี้ แต่ถ้าสถานการณ์เกิดอะไรขึ้นมา เราก็จะระงับการขึ้นชม ส่วนเรื่องตลาดที่เกิดเสียหาย และทางกัมพูชาได้เรียกร้องค่าเสียหายนั้น คงเป็นในเรื่องระดับนโยบาย ส่วนกำลังทหารของทั้งสองฝ่ายที่ยังอยู่เผชิญหน้ากันนั้น ทางผบ.ทบ.ให้มีการป้องกันที่ตั้ง ป้องกันตนเอง และพัฒนาสัมพันธ์กันเพื่อไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน ฝ่ายผู้บังคับบัญชาทุกระดับจึงต้องกำกับดูแล และเพิ่มความเข้มงวด รวมถึงสานสัมพันธ์เล่นกีฬากัน

เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่า ประชาชนในพื้นที่อยากให้มีการสร้างปราสาทเขาพระวิหารของเราเอง พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ กล่าวว่า เคยมีภาคเอกชนมาเสนอในช่วงไม่นานมานี้ว่า เราน่าจะสร้างปราสาทเขาพระวิหารในแผ่นดินของเราเองด้านผามออีแดงจะได้ไม่สนใจของเขาเพราะถนนเราก็ดีอยู่แล้ว แต่พื้นที่ค่อนข้างมีอยู่ค่อนข้างจำกัด อย่างไรก็ตามหากคิดจะทำก็สามารถทำได้ ทั้งนี้ภาคเอกชนและประชาชนจะร่วมกันลงขันสร้างปราสาทขึ้น เพื่อรักษาอธิปไตย และเป็นวัฒนธรรมของไทยที่ทำขึ้นในยุคนี้ โดยจะใช้บริเวณมออีแดงทั้งหมดประมาณร้อยไล่ขึ้นไป ซึ่งเขาเสนอว่า จะสร้างให้ใหญ่จนบังปราสาทเขาพระวิหาร โดยจะมีการสร้างคอนโดขึ้นมา และใช้พื้นที่ของเราเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่เลย อย่างไรก็ตามคงจะต้องมีการเสนอรัฐบาล กระทรวง หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งแนวคิดนี้แสดงให้เห็นถึงความรักชาติ รักแผ่นดินของคนไทยที่อยากจะแก้ปัญหาตรงนี้

พล.อ.วิบูลย์ศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ทางกัมพูชาได้สร้างบันไดทางขึ้นปราสาทในพื้นที่ของเขา แต่เมื่อเขาสร้างมาถึงพื้นที่อ้างสิทธิ์ เราจึงขอให้เขาหยุดการก่อสร้าง ซึ่งในช่วงแรกเกิดปัญหาเพราะเขาไม่หยุด จึงต้องมีเราอย่างเคร่งเครียดจนเขาหยุดใช้ถนน ซึ่งบางทีนักท่องเที่ยวขึ้นมาจากทางฝั่งกัมพูชา แต่อย่างไรก็ตามถ้าเขาเข้ามาในพื้นที่ทับซ้อนคงจะต้องขออนุญาตและมาตกลงกัน อย่างกรณีเจ้าหน้าที่ของยูเนสโก้ที่จะเข้ามาก็ต้องขออนุญาตทางเราเช่นกัน ซึ่งปัญหาตรงนี้หากตกลงกันได้ การพัฒนาปราสาทของเขาน่าจะดีขึ้น เพียงแต่ตกลงกันไม่ได้ ซึ่งการจะเข้า จะออกหรือจะทำอะไรต้องชัดเจน ดังนั้นเมื่อมีอะไรครั้งหนึ่งจึงต้องมาตกลงกัน

เมื่อถามว่า ขณะนี้สภาพข้างบนปราสาทเขาพระวิหารเป็นอย่างไร พล.อ.วิบูลย์ศักดิ์ กล่าวว่า มีกำลังทหาารที่มีอาวุธอยู่บริเวณรอบๆ ปราสาท ซึ่งมีการวางกำลังค่อนข้างหนาแน่น ทั้งนี้เขามักจะยิงจากบนปราสาทเขาพระวิหาร ซึ่งเราก็มีสิทธิ์ยิงโต้ตอบ แต่ความจริงถ้าปราสาทเป็นมรดกโลกจะต้องไม่มีกำลังทหาร และอาวุธอยู่บริเวณปราสาท ซึ่งถือเป็นหลักฐานหนึ่งว่า เขาไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง