สุดแสนรันทด! ยายวัย 67 แบกภาระดูแลสามีพิการ-ลูกชายป่วยมะเร็ง-สะใภ้สติไม่ดี

วันนี้ (27 ม.ค. 62) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 89/1 หมู่ 11 บ้านดอนทะบวง ต.เทพาลัย อ.คง จ.นครราชสีมา พบนางจำรัส บุญภักดี อายุ 67 ปี เจ้าของบ้าน หลังมีการแชร์เรื่องราวในสังคมออนไลน์ว่าครอบครัวของนางจำรัสฯ ต้องการขอความช่วยเหลือจากผู้ใจบุญเพื่อช่วยต่อชีวิตลูกชายที่นอนป่วยอยู่ เพราะฐานะทางบ้านยากจนมาก สภาพบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวมีใต้ถุน สูงจากพื้นประมาณ 150 ซม. สภาพเก่าทรุดโทรม ด้านหลังบ้านต่อเติมเป็นเพิงพักเล็กๆ และใกล้กันมีห้องน้ำที่ใช้แผ่นป้ายโฆษณามากั้นเป็นฝาเพื่อความมิดชิด

จากการสอบถามนางจำรัส เล่าว่า บ้านหลังนี้อาศัยอยู่ 4 คน คือ ตนเอง , นายสุพิน บุญภักดี อายุ 69 ปี สามีที่พิการเดินไม่ได้มานานกว่า 10 ปี , นายเสงี่ยม บุญภักดี อายุ 42 ปี ลูกชายที่ป่วยเป็นมะเร็งที่ลิ้น ต้องนอนเป็นผู้ป่วยติดเตียงไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ และนางมณี อายุ 38 ปี ลูกสะใภ้ที่สมองไม่ค่อยปกติหลังประสบอุบัติเหตุถูกรถชนเมื่อ 2 ปีก่อน

นางจำรัส เล่าต่อว่า ตนมีลูกทั้งหมด 3 คน เป็นหญิง 2 คน ชาย 1 คน ลูกสาวทั้ง 2 คนได้แต่งงานมีครอบครัวกันหมดแล้วและได้ไปทำงานที่ต่างจังหวัด ส่วนลูกชายคือนายเสงี่ยม หลังมีครอบครัวก็อาศัยอยู่กับพ่อแม่ ทำงานหาเงินเลี้ยงดูพ่อแม่เป็นอย่างดี ทั้งรับจ้างก่อสร้าง ทำไร่ไถนา หาปลา แล้วแต่จะมีใครจ้างให้ทำอะไรก็ทำทุกอย่าง ถือเป็นเสาหลักของครอบครัว ต่อมาลูกชายมีอาการเจ็บที่ลิ้น และเจ็บป่วยออดๆแอดๆ เรื่อยมา แต่ก็ยังทำงานหาเลี้ยงครอบครัวได้

จนเมื่อปลายปีที่แล้วมีอาการเจ็บที่ลิ้นมากจึงไปหาหมอที่โรงพยาบาลโนนแดง หมอจึงตัดชิ้นเนื้อไปตรวจปรากฏว่าเป็นมะเร็งที่ลิ้นลุกลามไปที่คอจนไม่สามารถพูดได้ จึงส่งตัวไปรักษาต่อที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา และได้ทำการผ่าตัดบริเวณหลังหูข้างขวา หลังจากนั้นลูกชายก็ไม่สามารถเดินได้ต้องนอนเป็นผู้ป่วยติดเตียงเพื่อให้อาหารผ่านทางสายยางมาตลอด ซึ่งต้องใช้ออกซิเจนเพื่อช่วยในการหายใจด้วย และเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้วหมอได้ให้กลับมารักษาตัวที่บ้านได้ โดยได้รับความอนุเคราะห์จากทางโรงพยาบาลโนนแดง อ.โนนแดง จ.นครราชสีมา และจาก รพ.สต.คอนเมือง อ.คง ให้ยืมอุปกรณ์ต่างๆ คือเตียงผู้ป่วย เครื่องดูดเสมหะ เครื่องผลิตออกซิเจน ซึ่งตอนนี้ตนต้องเป็นคนแบกรับภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ ในบ้านและต้องดูแลคนป่วยทั้ง 2 คน แต่ก็ยังดีที่มีลูกสะใภ้คือนางมณีที่คอยช่วยดูแล แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากนักเพราะสติไม่ค่อยสมประกอบ

สำหรับรายได้หลักตอนนี้ก็ได้มาจากเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุของตนและของสามี ในส่วนของสามีก็จะได้เบี้ยคนพิการร่วมด้วย แต่ก็ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายทุกวัน ตนจึงต้องหารายได้เสริม ทั้งจากการหาไม้มาเผาเป็นถ่านขาย และหากมีงานรับจ้างอะไรที่จ้างมาตนทำได้ ก็จะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เงินมาใช้จ่ายในครอบครัว ซึ่งในทุกๆ เช้า นางมณีผู้เป็นลูกสะใภ้ต้องนั่งรถโดยสารไปที่ โรงพยาบาลโนนแดง ที่ห่างจากบ้านประมาณ 3 กม. เพื่อรับอาหารเหลว มาป้อนให้สามีหรือลูกชายของตนเพราะไม่สามารถทำเองได้ ที่จำเป็นมากๆ คือ ออกซิเจนที่ต้องซื้อทุกวัน ราคาอยู่ที่ถังละ 150 บาท ต้องเสียค่าส่งอีก 100 บาท รวมเป็น 250 บาท จึงอยากขอวอนผู้ใจบุญให้มาช่วยเหลือ

 สภาพบ้าน

สภาพห้องน้ำ

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ครอบครัวของนางจำรัสต้องการมากที่สุดในตอนนี้คือ อยากทำหลังคาบ้าน เพราะปัจจุบันหลังคารั่วแทบจะทุกส่วนของบ้าน ถ้าวันไหนฝนตกก็จะต้องมาอาศัยอยู่ในใต้ถุนบ้าน ยิ่งตอนนี้ลูกชายป่วยด้วยถ้าเกิดฝนตกจะลำบากมากๆ และอีกอย่างที่อยากทำคืออยากมีส้วมที่นั่งได้เหมือนชักโครกเพราะเวลาที่สามีที่พิการจะเข้าไปปลดทุกข์แต่ละครั้งเกิดความลำบาก หวั่นว่าจะลื่นล้มในห้องน้ำ

หากผู้ใจบุญท่านใดอยากจะช่วยเหลือครอบครัวนี้ สามารถบริจาคเงินได้ที่บัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ชื่อบัญชี นางจำรัส บุญภักดี เลขที่ 015-682-496-536 หรือโทร 082-010-2569 นางจำรัส บุญภักดี