ไข้รากสาดใหญ่ถาโถมชาวเผ่าซาไก เสียชีวิต 2 รายซ้อนในรอบเดือน
ฝังร่างพ่อเฒ่าเงาะป่าซาไก หลังล้มป่วยโรคไข้รากสาดใหญ่ เสียชีวิตลงเป็นรายที่ 2 ในรอบเดือน เชื่อเป็นผลเพราะการเปลี่ยนแปลงของสังคมและภูมิปัญญา
เมื่อวานนี้ (27 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณริมป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัดพัทลุง บ้านโหล๊ะหาร ม.7 ต.ทุ่งนารี อ.ป่าบอน นายภูดิศ ชนะวรรณโณ นายอำเภอป่าบอน พร้อมชาวบ้านและญาติกลุ่มชาติพันธุ์มันนิหรือซาไก ที่อาศัยอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัดพัทลุง-ตรัง-สตูล ได้ร่วมกันฝังร่าง เฒ่าลอย อายุ 65 ปี ชาวเผ่าซาไกที่อาศัยอยู่บริเวณบ้านป่า
หลังจากเจ็บป่วยด้วยโรคไข้รากสาดใหญ่ และเสียชีวิตลงเป็นรายที่ 2 หลังป่วยมานานเกือบ 1 เดือน แม้แพทย์พยายามช่วยชีวิต แต่ก็สุดจะเยียวยาจากป่วยไข้ดังกล่าว ซึ่งก่อนหน้านี้ในรอบเดือนที่ผ่านมาโรคไข้รากสาดใหญ่ ทำให้เด็กชาวเผ่าซาไกเสียชีวิตไปแล้ว 1 ราย ทำให้ในช่วงเดือนเดียวมีผู้เสียชีวิตแล้วถึง 2 ราย
ขณะที่อาการป่วยจากโรค ชาวเผ่าซาไก ชนเผ่าพื้นเมืองของจังหวัดพัทลุงที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เขตรักษาพันสัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัดพัทลุง ยังพบมีอาการป่วยต่อเนื่อง 24 ราย และนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลป่าบอน 2 ราย สำหรับโรคไข้รากสาดใหญ่เป็นไข้ที่ติดเชื้อแบคทีเรียจากแมลง ในป่าที่ชาวบ้านเรียกว่าตัวไร ผู้ป่วยจะมีไข้และอาการปวดเมื่อย ทั้งยังไอ เสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ
สำหรับสาเหตุที่ชาวเผ่าซาไกได้ป่วยด้วยโรคนี้นั้น น่าจะมาจากการไม่เคลื่อนย้ายถิ่นเหมือนสมัยก่อน และอยู่ประจำที่เป็นเวลานานหลายเดือน เนื่องจากรอรับสิ่งของที่บริจาคจากชาวบ้านเพียงอย่างเดียว ทำให้สุขอนามัยแย่ลง เพราะบริโภคอาหารเมืองที่มีสารพิษมากเกินไป และเริ่มขาดภูมิคุ้มกัน ร่างกายอ่อนแอต่างจากในอดีตที่คนเผ่าซาไกค่อนข้างแข็งแรง