เที่ยวจนหมดตัว! รวบหนุ่มใหญ่ชาวแอลจีเรียฉกกระเป๋าเงินไปรูดซื้อของสบายใจ

เที่ยวจนหมดตัว! รวบหนุ่มใหญ่ชาวแอลจีเรียฉกกระเป๋าเงินไปรูดซื้อของสบายใจ

เที่ยวจนหมดตัว! รวบหนุ่มใหญ่ชาวแอลจีเรียฉกกระเป๋าเงินไปรูดซื้อของสบายใจ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตำรวจสืบสวนเมืองเชียงใหม่จับกุมผู้ต้องหานักท่องเที่ยวชาวแอลจีเรีย พร้อมของกลางของใช้หลายรายการจากร้านสะดวกซื้อและบัตรเครดิต หลังได้ก่อเหตุขโมยกระเป๋าเงินนักท่องเที่ยวชาวแคนาดาได้เงินสดไป 17,000 บาทใช้เงินจนหมดก่อนจะนำบัตรเครดิตไปรูดซื้อของตามร้านต่างๆ ในเมืองเชียงใหม่

กล้องวงจรปิดภายในร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ บันทึกภาพชายต่างชาติคนหนึ่ง สวมเสื้อยืดสีเทา กางเกงยีน สะพายกระเป๋าข้างสีดำ ใช้บัตรเครดิตรูดซื้อของกับพนักงานที่เคาน์เตอร์ในร้าน เมื่อเวลา 01.15 น. วันที่ 27 มกราคม ที่ผ่านมา ซึ่งภาพนี้ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ ใช้เป็นหลักฐานเข้าจับกุมนายคีลิฟา ลาร์บี (MR.KHELIFA LARBI) อายุ 51 ปี สัญชาติแอลจีเลีย ได้ในห้องพักแห่งหนึ่ง ถ.เจริญประเทศ ต.ช้างคลาน อ.เมืองเชียงใหม่ พร้อมของกลางทั้งโฟมล้างหน้า ครีมทาหน้า โลชั่น และมีดโกนหนวดอีก 2 อัน พร้อมบัตรเครดิตที่ใช้รูดซื้อสินค้า

การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องมาจาก เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 26 ม.ค. 62 ที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้รับแจ้งจากนักท่องเที่ยวหนุ่มชาวแคนาดา อายุ 31 ปี ว่ากระเป๋าเงินที่ใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงด้านหลัง ได้หายไปขณะเข้าไปเที่ยวในผับแห่งหนึ่ง ต.ช้างม่อย อ.เมืองเชียงใหม่ มีเงินสดไทยประมาณ 17,000 บาท บัตรเครดิต 1 ใบ บัตรเอทีเอ็ม 2 ใบ รวมทั้งบัตรประจำตัวอื่นๆ หายไป หลังจากนั้นไม่ถึงชั่วโมงปรากฏว่ามีข้อความแจ้งเตือนการใช้บัตรเครดิตเข้ามาที่โทรศัพท์มือถือหลายครั้งในร้านสะดวกซื้อย่านเดียวกัน จึงได้เข้าแจ้งความให้ตำรวจติดตามจับกุม

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดร้านสะดวกซื้อ สาขาตลาดสมเพชร ห่างผับที่เกิดเหตุแค่ 300 เมตร และพบว่าคนร้ายคือนายคีลิฟา จึงประสานข้อมูลกับตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจนทราบที่พักและเข้าจับกุมได้พร้อมของกลางและชุดที่สวมใส่ก่อเหตุ

สอบสวนผู้ต้องหาสารภาพว่ามาเที่ยวเชียงใหม่ใช้เงินจนหมด จึงหาเงินด้วยการขโมยจากนักท่องเที่ยวด้วยกัน คืนเกิดเหตุได้ไปเที่ยวสถานบันเทิงดังกล่าว ทำทีเข้าเต้นใกล้ๆ ผู้เสียหาย ก่อนอาศัยจังหวะล้วงกระเป๋า ขณะที่ตำรวจขยายผลพบว่าผู้ต้องหารายนี้เคยก่อเหตุในลักษณะเดียวกันในสถานบันเทิงแห่งนี้มาแล้วสองครั้ง ตำรวจตั้งข้อหา "ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน" และ "ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน" คุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook