"แอริน" สุดกลั้นน้ำตา เผย "คริสโตเฟอร์" คู่หมั้น "ซูซี่" จบชีวิตตัวเองจากภาวะป่วยโรคซึมเศร้า

เป็นอีกหนึ่งคนที่หัวใจสลายไม่แพ้กัน สำหรับ แอริน-สิรีภรณ์ ยุกตะทัต หลังทราบข่าวการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของ คริสโตเฟอร์ คู่หมั้นของนักแสดงสาวชื่อดัง ซูซี่-สุษิรา แน่นหนา ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทอีกคนหนึ่งในวงการบันเทิง

โดยล่าสุดขณะที่ แอริน เดินทางมาร่วมงานรอบสื่อมวลชนภาพยนตร์ รักไม่เป็นภาษา เจ้าตัวก็ได้ออกมาเปิดใจถึงเหตุการณ์สะเทือนใจดังกล่าว พร้อมทั้งอัปเดตสภาพจิตใจของ ซูซี่ สุษิรา หลังผ่านวันอันแสนเศร้าให้เราฟังว่า

"อย่างที่ซูซี่ได้โพสต์ไว้ก็คือคู่หมั้นเขา... (ร้องไห้) คือคริสโตเฟอร์เขาก็เลือกที่จะจบชีวิตของเขา อย่างที่ทุกคนทราบดีว่าเขาทำหน้าที่เป็นหน่วยกู้ระเบิดมานานกว่า 9 ปีแล้ว และด้วยความเครียดด้วยอะไรต่างๆ บวกกับตัวเขาเองก็เคยมีประวัติการรักษาโรคซึมเศร้ามาสักระยะ"

"ซึ่งครั้งนี้ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาพยายามจะจบชีวิตของตัวเอง เพราะที่ผ่านมาซูซี่ก็ได้พยายามดึงเขากลับมาตลอด พยายามทำให้เขาเห็นความรักที่ซูซี่มีให้ (น้ำตาคลอ) ตอนนี้ซูซี่เขาก็อยู่ที่เชียงใหม่กับครอบครัว ยังไม่พร้อมที่จะออกมาพูดหรือให้สัมภาษณ์ใดๆ เนื่องจากสุขภาพจิตเขาเองก็แย่เหมือนกัน เขาเลยอนุญาตให้แอรินออกมาช่วยพูดแทน"

"สำหรับคริสโตเฟอร์จริงๆ เขาต่อสู้กับโรคนี้มาหลายปีแล้วนะคะ เขาพบแพทย์ เขารักษา ทำตามคำแนะนำของแพทย์ทุกอย่าง ครอบครัวของซูซี่ก็ให้ความช่วยเหลือ เพราะที่ผ่านมาเขาสองคนก็ได้หมั้นหมายกัน และก็กำลังจะมีแพลนแต่งงานกัน สร้างครอบครัวด้วยกัน แต่คนที่ป่วยเป็นโรคนี้บางครั้งเราก็ไม่สามารถรู้ได้เลยว่ามันจะมีอะไรไปสะกิดเขาได้บ้าง"

"ส่วนเรื่องรายละเอียดการเสียชีวิตแอรินต้องขออนุญาตเก็บไว้เป็นเรื่องส่วนตัวของครอบครัวทั้งสองฝ่ายนะคะ และเอาจริงๆ ตอนนี้แอรินก็อยากให้ทุกคนโฟกัสไปที่การให้กำลังใจซูซี่ มอบพื้นที่ให้เขาได้ทำใจมากกว่าค่ะ วันที่แอรินทราบเรื่องนี้ก็บินไปหาเขาทันที คือก็อยากจะให้กำลังใจเขาให้มากที่สุด"

"ตอนนี้ซูซี่เขาก็ไปเข้าโบสถ์ทุกวันอาทิตย์ และก็โทรมาหาแอรินทุกวัน โทรมาถามกันว่าทำอะไรอยู่ เราโทรหากันทุกวัน ตัวเขาเองก็ขอบคุณที่แอรินช่วยออกมาช่วยให้สัมภาษณ์แทน เพราะเขาพูดไม่ไหวจริงๆ เขากลัวแอรินจะลำบากใจ แต่แอรินก็ตอบเขาไปว่า ไม่เป็นไรเราทำให้ได้ (ร้องไห้)"

แสดงว่าตอนนี้ทุกๆ คน รอบข้างก็เดินทางมาอยู่ใกล้ๆ เพื่อให้กำลังใจเขา ?

"ก็...ไม่ควรที่จะให้อยู่คนเดียวดีกว่า เพราะที่บ้านเขาก็ยังมีของที่เป็นของคริสโตเฟอร์ (สะอื้น) แต่สำหรับในส่วนของกำหนดการนั้น ล่าสุดทางน้องชายและเพื่อนเขาได้บินมาหาเพื่อที่จะพาคริสโตเฟอร์กลับไปทำพิธีที่อเมริกาค่ะ ซึ่งเป็นพิธีทางทหารเนื่องจากคริสโตเฟอร์เขาก็ทำงานในด้านนี้"

"แอรินอยากจะฝากบอกกับทุกๆ คนว่าปัญหาต่างๆ ที่เราเจอในชีวิต จริงๆ แล้วมันมีทางออกอยู่เสมอ ถึงแม้บางครั้งเราจะคิดว่าเราเหลือแค่ตัวคนเดียว เราไม่มีใคร เราหาทางออกไม่ได้ โดยเฉพาะคนที่ป่วยเป็นโรคนี้ ซึ่งจริงๆ แอรินเองก็เป็นเหมือนกันเพราะแอรินก็ยังต้องกินยาอยู่ตลอด คือปัญหาทุกอย่างมันมีทางออกเสมอ และยังมีคนที่รักเราอีกเยอะมากๆ ก็อยากให้ทุกคนที่อยู่ด้วยกันบอกรักกันบ่อยๆ คุยกันเยอะๆ เพราะเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าวันพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง (ร้องไห้)"

เราเคยคุยกับคริสโตเฟอร์ถึงเรื่องอาการป่วยบ้างไหม ?

"เคยค่ะ คือก็จะพยายามบอกกับเขาตลอดว่าอย่าทำอะไรที่ไม่ดีนะ เขายังมีเราเป็นเพื่อน โทรหาเราได้ทุกเวลา แต่เขาก็...คือทุกๆ วันมันก็มีขึ้นมีลง เราเซฟเขาได้วันนี้ แต่วันพรุ่งนี้เราก็อาจจะเซฟเขาไม่ได้ นอกจากทำทุกๆ วันให้มันดีที่สุด"

https://www.sanook.com/health/14541/แอริน ร่ำไห้เพื่อนสนิท คริสโตเฟอร์ คู่หมั้น ซูซี่ เลือกจบชีวิตด้วยการฆ่าตัวตาย

"ทุกวันนี้แอรินก็บอกกับซูซี่นะคะว่าให้เขาใช้ทุกเวลาให้เต็มที่ในการทำใจ ไม่ต้องกำหนดตัวเองว่าจะต้องออกมาพูดเมื่อไหร่หรือยังไง ปล่อยให้ทุกอย่างมันเป็นไปตามธรรมชาติ ถ้าหากจะรู้สึกอะไรก็รู้สึกให้เต็มที่ รับมันมาให้เต็มที่ และเมื่อรับมาแล้วก็ต้องค่อยๆ ปล่อยมันออกไป เพราะชีวิตเราต้องเดินหน้าต่อ"

เราอยากจะแนะนำคนไทยยังไงบ้างที่อาจจะคิดว่าตัวเองป่วย แต่ยังไม่พร้อมไปพบกับจิตแพทย์ ?

"คือ...มันเป็นอะไรที่ยากมากเลยนะคะ เพราะอันดับแรกเลยคนที่ป่วยโรคนี้ต้องยอมรับให้ได้ก่อนว่าตัวเองป่วย และเมื่อยอมรับได้แล้วเราก็ต้องอยากที่จะรักษามันให้หาย เพราะเชื่อเถอะค่ะคนรอบข้างเราเขาพร้อมที่จะช่วยเหลือเราเสมอ ดังนั้นแอรินอยากให้ทุกคนยอมรับโรคนี้กันให้มากขึ้นนะคะ ไม่ต้องอาย ถ้าหากคิดว่าเราป่วยไปหาหมอได้เลยค่ะ หรือบอกกับเพื่อนเราบอกกับคนรอบข้างเราก็ได้ และตัวแอรินเองก็ยินดีมากๆ หากจะได้รณรงค์เกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะตัวแอรินเองก็เสียเพื่อนจากโรคนี้ไปเยอะมากแล้ว"

>>"ซูซี่ สุษิรา" หัวใจสลายคู่หมั้น "คริสโตเฟอร์" เสียชีวิต สุดเศร้าโพสต์ข้อความอาลัยรัก

>>"ปวดเรื้อรัง" กับ "โรคซึมเศร้า" เกี่ยวข้องกันมากกว่าที่คุณคิด

>>โรคซึมเศร้า