ผัวสุดทน! เมียถูก 6 ล้อทับ-เร่งเครื่องเหยียบซ้ำ ยอมความแต่ถูกพ่อคู่กรณีพูดซ้ำเติม (มีคลิป)
จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Ramakphaengcharoen นำภาพวงจรปิดมาโพสต์ถามสังคมออนไลน์ ระบุข้อความว่า “อยากถามครับว่ามอเตอร์ไซค์กับรถหกล้อใครผิดครับ” ซึ่งคลิปวงจรปิดดังกล่าว เป็นภาพรถหกล้อบรรทุกดินชนรถจักรยานยนต์ โดยรถหกล้อได้เหยียบข้ามไปทั้งล้อหน้าและล้อหลัง ก่อนจะมีผู้พบเห็นวิ่งไปดักรถหกล้อไม่ให้หลบหนี
ล่าสุด (28 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง นายราเมฆ อายุ 44 ปี เจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าว ซึ่งเป็นชาว อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ เปิดเผยว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 ธ.ค.2561 ที่ผ่านมา จากภาพจะเห็นว่ารถบรรทุก 6 ล้อได้ขับออกมาจากซอยเพื่อจะขึ้นถนนใหญ่ ส่วนรถจักรยานยนต์ขับมาตามถนนคู่ขนานเพื่อจะตรงไป
แต่พอถึงสี่แยกบริเวณทางคู่ขนานถูกรถหกล้อชนและล้อหลังทับซ้ำ และยังพยายามขับหลบหนี แต่มีพลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์วิ่งตามรถหกล้อไปเพื่อให้จอดรถ และยังโชคดีที่ภรรยาได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้า เย็บ 12 เข็ม และศรีษะเย็บ 7 เข็ม ไม่ถึงกับเสียชีวิต
หลังจากเกิดเหตุทราบว่าคนขับเป็นคนอยู่ในหมู่บ้านเดียวกันและไม่มีใบขับขี่รถด้วย แต่ก็ไม่ได้มาสนใจอะไร อ้างว่ารถหกล้อคันที่ขับรถมีประกันอยู่แล้วให้จัดการกันเอง ตนและภรรยาเห็นว่าเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกันและไม่อยากให้เรื่องวุ่นวายบานปลาย จึงยอมรับค่ารักษาพยาบาล และค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันรวมทั้งสิ้น 28,545 บาท
หลังจากนั้นก็ต้องหยุดงานมารักษาอาการบาดเจ็บที่บ้าน ไม่ได้ทำงานมานานกว่า 1 เดือนแล้ว ทำให้ขาดรายได้และสามีต้องรับภาระทำงานคนเดียว ส่วนคู่กรณีก็ไม่ได้จ่ายค่าทำขวัญหรือเยียวยาอะไรเลย แต่ก็คิดว่ามันเป็นอุบัติเหตุก็ยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น
แต่หลังจากนั้นพ่อของคนขับรถ 6 ล้อ กลับไปพูดกับชาวบ้านในหมู่บ้านหลายครั้ง ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รถจักรยานยนต์ที่ภรรยาตนเองขับเป็นฝ่ายผิดที่มาชนรถหกล้อ ทำให้ไม่ต้องเสียเงินสักบาท จนชาวบ้านคิดว่าภรรยาขับรถไม่รู้เรื่องไปชนรถหกล้อเอง
เมื่อได้ยินคำพูดดังกล่าวก็ทำให้เสียความรู้สึกและน้อยใจ เพราะนอกจากจะทำให้คนอื่นเข้าใจผิดหาว่าภรรยาตนเป็นฝ่ายผิดแล้ว ยังเหมือนเป็นการซ้ำเติมคนเจ็บอีก จึงได้ตัดสินใจนำภาพจากกล้องวงจรปิด ที่ติดอยู่บริเวณหน้าบ้านของพลเมืองดีซึ่งอยู่ใกล้จุดเกิดไปโพสต์ถามในเฟซบุ๊ก เพราะอยากให้สังคมได้รู้ความจริงที่เกิดขึ้น ไม่ได้อยากจะเรียกร้องค่าเสียหายอะไร
ทางด้าน น.ส.ละไม อายุ 44 ปี ผู้ประสบเหตุ เล่าว่า วันนั้นตนขับรถจักรยานยนต์จะไปตลาด เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเห็นรถหกล้อ ชะลอความเร็วเพราะออกมาจากซอย ตนจึงขับออกไป ทันใดนั้นรถหกล้อก็วิ่งเข้ามาชนและทับซ้ำอีก ตอนนี้ยังรู้สึกผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และนึกถึงภาพนั้นตลอดเวลา
เพราะหากคิดย้อนหลัง หากถูกเหยียบขาหักก็คงจะกลายเป็นคนพิการ และหากเป็นอวัยวะหรือศีรษะของตนไปอยู่จุดที่รถมาวิ่งทับก็ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้น เพราะรถหกล้อคันดังกล่าวชนแล้วไม่ยอมหยุดยังเร่งเครื่องทับซ้ำอีก
ส่วนสาเหตุที่ตนและสามียอมรับเงินสินไหมและค่ารักษาพยาบาลจากบริษัทประกันของรถหกล้อ ก็เพราะไม่อยากให้เรื่องวุ่นวายบานปลาย และเห็นว่าคนขับเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน แต่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะไปพูดลักษณะให้ร้ายหาว่าตนเองเป็นฝ่ายผิด ก็รู้สึกเสียใจ
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตนเองก็อยากจะฝากเตือนคนขับรถทั่วไปให้ใช้ความระมัดระวัง ที่สำคัญเมื่อเกิดเหตุขึ้นแล้วควรจะมีจิตสำนึก ไม่ใช่ปล่อยเลยตามเลยหรือมาซ้ำเติมกันอีกแบบนี้