ชาวบ้านโวย! ฟาร์มไก่ปล่อยน้ำเสียซ้ำซากทุกปี กลิ่นเหม็นเน่า-ปลาตายเกลื่อน
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 29 มกราคม 2562 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนายอุทัย พรหมวิรัตน์ อายุ 37 ปี ว่าได้มีฟาร์มไก่ในพื้นที่แอบลักลอบปล่อยน้ำเสียลงคูคลองสาธารณะ ส่งผลกระทบสร้างมลพิษในน้ำ ทำให้ปลาน้อยใหญ่ในคลองขาดออกซิเจนตายลอยเกลื่อนจำนวนมาก จึงเดินทางไปตรวจสอบ
พบว่าฟาร์มไก่ดังกล่าวเป็นฟาร์มไก่ไข่ที่ใหญ่ที่สุดของเขตอำเภอท่าแซะ ตั้งอยู่ริมถนนสายท่าแซะ-ท่าเสม็ด ม.10 ต.นากระตาม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร นอกจากนี้ยังพบว่าฟาร์มดังกล่าวได้ลักลอบปล่อยน้ำเสียจากฟาร์ม ลงมาตามล่องน้ำในสวนปาล์มข้างโรงผลิตน้ำดื่ม ซึ่งเป็นเจ้าของเดียวกันกับฟาร์มไก่ผ่านท่อปูนขนาด 60 ซม. ไหลลงสู่ลำห้วยสาธารณะที่มีขนาดความกว้าง 2-4 เมตร ขนานไปตามแนวถนนกว่า 1 กม.โดยน้ำเสียที่ถูกปล่อยลงมามีสีขุ่นดำปนน้ำตาล และส่งกลิ่นเหม็นอบอวล
โดยนายอุทัย กล่าวว่าเมื่อวานตนเองได้สังเกตเห็นว่าฟาร์มไก่ได้เริ่มปล่อยน้ำเน่าเสียลงสู่ลำห้วยสาธารณะ เพราะดูได้จากน้ำเริ่มมีการเปลี่ยนสี เริ่มมีกลิ่นเหม็นโดยช่วงเช้าปลาก็เริ่มค่อยๆ ลอยตายเกลื่อน โดยเฉพาะบริเวณหน้าบ้านของตนเอง จะเป็นแหล่งน้ำที่กว้าง ปลาจำนวนมากที่อาศัยอยู่บริเวณนี้จะลอยตายเป็นแพ ส่วนตัวใหญ่ก็พยายามดิ้นรนตะเกียกตะกายหนีน้ำเสียขึ้นมาบนเกยตามริมลำห้วย ชาวบ้านต่างช่วยกันจับเพื่อนำไปปล่อยในแหล่งน้ำสะอาด แต่ส่วนใหญ่แล้วจะตายก่อน
นายอุทัย กล่าวต่อว่าตลอดระยะเวลา 4 ปี ที่อาศัยอยู่ตรงนี้ ก็จะได้รับผลกระทบจากฟาร์มไก่แห่งนี้ที่มักง่ายลักลอบปล่อยน้ำเสียเป็นประจำทุกปี ปีละหลายครั้ง จนทำให้สัตว์น้ำที่ชาวบ้านได้ร่วมใจกันปล่อยเพื่ออนุรักษ์สัตว์น้ำเพื่อขยายพันธุ์และเพื่อได้จับมากินเป็นอาหารต้องตายเป็นจำนวนมาก รวมถึงสัตว์น้ำหายากอย่างเช่นปลาแก้มแดงก็ตายเป็นจำนวนมากเช่นกัน ปัญหาดังกล่าวทางเจ้าของฟาร์มไก่ได้เข้ามาคุยแล้วรับปากว่าจะไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นอีก แต่สุดท้ายก็ยังเกิดขึ้นอยู่ดี
ด้านนายกฤษณะ ศุภสุทธิ์ อายุ 52 ปี เป็นตัวแทนชาวบ้านที่ใช้น้ำในคลองกรูดได้กล่าวว่า น้ำเน่าเสียจากฟาร์มไก่ที่ปล่อยลงสู่ลำห้วยตามแนวถนนแล้ว จะไหลไปลงคลองกรูดก่อนจะไหลผ่าน 3 อำเภอ คืออำเภอปะทิว อำเภอท่าแซะ และอำเภอเมือง โดยอำเภอเมืองปลายน้ำก็คือหนองใหญ่ หรือที่เรียกว่าโครงการแก้มลิงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และแหล่งน้ำแห่งนี้เป็นสายเลือดของชาวบ้านที่ต้องใช้ในการอุปโภคบริโภค รวมไปถึงปศุสัตว์ จึงอยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้ามาตรวจสอบและแก้ไข ซึ่งชาวบ้านเองไม่ได้คัดค้านให้ปิดฟาร์ม เพราะเข้าใจในอาชีพ แต่ชาวบ้านต้องการให้ฟาร์มไก่ต้องเคารพกติกาโดยเฉพาะต้องไม่ทำให้ชาวบ้านที่อยู่ใกล้แหล่งน้ำได้รับความเดือดร้อน