ชาวบ้านเชื่อ พรานป่าถูกยิงตายปริศนา อาจเป็นอาถรรพ์ป่าเล่าขานกันมา
นายพรานที่พบเห็นพรานป่าเป็นคนสุดท้าย หลังหายสาญสูญและกลายเป็นศพกลางป่าลำปาง เชื่ออาจเป็นอาถรรพ์ในตำนาน พร้อมแสดงความบริสุทธิ์ใจ ใช้ปืนแก๊ป ไม่ใช้ปืนลูกซองจากรอยกระสุนพบที่ศพ
เมื่อวานนี้ (29 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบ นายอรุณ อายุ 45 ปี ชาวตำยลบ้านค่า อ.เมือง จ.ลำปาง ซึ่งเป็นพรานป่าและได้พบกับนายเสน่ห์ ผู้ที่หลงป่าและเสียชีวิตลงกลางป่าเป็นครั้งสุดท้าย พร้อมเปิดเผยว่า ได้ออกหาของป่าล่าสัตว์กับเพื่อนอีก 2 คน เมื่อวันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมา และมาเจอกับผู้เสียชีวิตครั้งแรก ช่วงเช้าวันที่ 13 มกราคม ตอนนั้นตนกำลังนึ่งข้าวเหนียว จึงเป่าโหวตเรียกเพื่อนที่มาด้วยกันให้มากินข้าว
แต่ปรากฏว่าผู้เสียชีวิตคิดว่าเพื่อนเรียกเหมือนกัน จึงได้เป่าโหวตตอบกลับมาและลงจากเขามาหาตน จึงชวนทานข้าวด้วยกัน หลังจากนั้นก็เจอกับผู้เสียชีวิตอีกครั้ง ช่วงประมาณ 2 ทุ่มวันเดียวกัน นายเสน่ห์ได้ลงมาหาอีกรอบ แล้วก็ชวนไปส่องสัตว์แถวต้นไทรบนยอดเขา
>> ไร้ปาฏิหาริย์ หนุ่มใหญ่เป็นศพ หลังหายเข้าป่า 2 สัปดาห์ กับแผลถูกยิงปริศนา
แต่ตอนนั้นตนรู้สึกเพลีย เพราะเข้าป่าและเดินป่ามาหลายวัน จึงไม่ได้ไปด้วยและขอค้างแรมต่อ ผู้เสียชีวิตจึงเอาเขียดมาย่างที่กองไฟที่ตนสุมเอาไว้ หลังจากนั้นก็เดินเข้าป่าไปคนเดียว พอรุ่งเช้าวันต่อมา ตนก็ไปเจอกองไฟที่คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิตที่ก่อเอาไว้ ซึ่งมาทราบทีหลังว่าห่างจุดที่ผู้เสียชีวิตถูกยิงตายราวๆ 500 เมตร
ส่วนเพื่อนของตนที่มาด้วยกันอีก 2 คน ได้ออกจากป่าและกลับบ้านไปช่วงไหนก็ไม่รู้ หลังเกิดเหตุเมื่อตนทราบว่า นายเสน่ห์ เสียชีวิต ก็ได้แสดงความบริสุทธิ์ เล่าเรื่องให้กับผู้นำชุมชนและไปให้การกับพนักงานสอบสวน สภ.บ้านเอื้อม แล้ว อีกทั้งอาวุธปืนที่ตนในการใช้ล่าสัตว์เป็นปืนแก๊ป ไม่ใช่ปืนลูกซอง เหมือนกับร่องรอยที่ถูกจากศพของผู้เสียชีวิต
ทางด้าน นายพรมมา นันท์ตระกูล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 ตำบลบ้านค่า อ.เมือง จ.ลำปาง เปิดเผยว่า พื้นที่บนภูเขาดังกล่าวเป็นรอยต่อระหว่างจังหวัดลำปางกับจังหวัดลำพูน มีชาวบ้านทั้งสองจังหวัดมาหาของป่าล่าสัตว์อยู่เป็นประจำ เนื่องจากบนยอดเขามีลานขนาดใหญ่ มีต้นไทรอายุกว่าร้อยปีอยู่หลายต้น สัตว์หลายชนิดมักหากินบริเวณนั้น เนื่องจากมีตาน้ำและอาหารของสัตว์จำนวนมาก
ที่ผ่านมาก็เคยเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้มาแล้ว 2-3 ครั้ง ชาวบ้านเชื่อว่าอาจจะเป็นอาถรรพ์ของป่า เจ้าป่าเจ้าเขาอาจจะหวงสัตว์ ได้ปกปักรักษา บังตาทำให้คนที่มาล่าสัตว์มองเห็นเพื่อนพรานป่าที่มาด้วยกันเป็นสัตว์ชนิดต่างๆ จึงลั่นไกยิงปืนออกไป บางรายได้รับบาดเจ็บ บางรายก็ถึงขั้นเสียชีวิตเช่นนี้
ผู้ใหญ่ยังเล่าว่า เมื่อสมัยตอนที่ยังเด็กๆ พ่อของตนก็เคยเจออาถรรพ์ป่าในลักษณะนี้ ขณะที่พ่อไปออกหาของป่า อยู่ๆ ก็มีหินตกลงมาใส่ไกปืนของพ่อ ทำให้ปืนลั่นใส่พ่อได้รับบาดเจ็บที่ไหล่ หลังจากนั้นพ่อก็ไม่กล้าเข้าไปป่าบริเวณนั้นอีกเลยตลอดชีวิต
>> หายไป 13 วัน... ปูพรมตามหาหนุ่มใหญ่ เดินเข้าป่าหาเห็ดไม่ออกมาอีกเลย