สุดสลด! รถเก๋งสาวแบงก์ชน จยย.ขี่ตัดหน้ากระชั้นชิด พี่รอด-น้องสาวดับ

(29 ม.ค. 62)  ร.ต.อ.พะยุง ศรีโฮง รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนครพนม รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถเก๋งชนรถ จยย.มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต บนถนน ทล 22 สายนครพนม-สกลนคร ช่วงบ้านพรเจริญ หมู่ 7 ต.วังตามัว อ.เมือง จ.นครพนม

จึงประสานแพทย์เวร รพ.นครพนม  เจ้าหน้าที่กู้ภัย อบต.วังตามัว และตำรวจทางหลวงตู้ยามหนองญาติ สทล.5 กก.4 บก.ทล รุดไปตรวจสอบฝั่งขาเข้าตัวเมือง  ซึ่งอยู่ระหว่างก่อสร้างขยายช่องทางจราจร

พบรถ จยย.ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน ทะเบียน กตร 235 นครพนม ในสภาพล้มคว่ำอยู่กลางถนน ถูกชนพังเสียหายหนัก ใกล้กันพบศพผู้เสียชีวิต นอนจมกองเลือดในที่เกิดเหตุ ทราบชื่อภายหลัง คือ ด.ญ.วิภาดา หรือน้องปู อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ป.6  โรงเรียนแห่งหนึ่ง และเป็นชาวบ้านพรเจริญ หมู่ 7 ต.วังตามัว อ.เมือง จ.นครพนม 

ส่วนอีกรายเป็นพี่สาว ได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่จึงเร่งช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลนครพนม ทราบชื่อภายหลัง คือ ด.ญ.วิมภาดา อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนเดียวกัน

ส่วนรถยนต์คู่กรณียังจอดในที่เกิดเหตุ ห่างประมาณ 40 เมตร  พบเป็นรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ ฮอนด้า ซิตี้ สีขาว ทะเบียน กค 8510 นครพนม สภาพด้านหน้าพังเสียหาย กระจกหน้าแตก  ส่วนคนขับทราบชื่อภายหลัง คือ น.ส.มุกรินทร์  อายุ 23 ปี ลูกจ้างปฏิบัติการ ธนาคารแห่งหนึ่งสาขา อ.กุสุมาลย์ จ.สกลนคร ยังยืนรอให้การเจ้าหน้าที่ตำรวจท่ามกลางความตกใจ 

โดยเจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบเก็บหลักฐาน ประกอบการดำเนินคดี ซึ่งหลังเกิดเหตุ ได้มีพ่อแม่ผู้เสียชีวิต เดินทางมาดูสภาพศพ ถึงกับร้องไห้โฮ และคนเป็นแม่ถึงกับเป็นลมล้มฟุบ ส่วนเพื่อนๆ ที่ทราบข่าวต่างพากันมายืนร้องไห้ด้วยความสลด และพากันแสดงความอาลัยผ่านเฟซบุ๊กกับน้องที่เสียชีวิต

เบื้องต้นจากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ ทราบว่าก่อนเกิดเหตุ ขณะรถยนต์เก๋งดังกล่าวขับมุ่งหน้ากลับจากทำงาน ที่ อ.กุสุมาลย์ จ.สกลนคร เพื่อกลับไปยังตัวเมืองนครพนม

ถึงที่เกิดเหตุ ได้มีรถจักรยานยนต์คู่กรณี ขับตัดหน้ากระชั้นชิดข้ามถนนออกมาจากหมู่บ้าน ทำให้รถยนต์เก๋ง ไม่สามารถเบรกได้ทัน ชนเข้าอย่างแรง เป็นเหตุให้พี่สาว ที่เป็นคนขับได้รับบาดเจ็บสาหัส  ส่วนน้องสาวคนซ้อน เสียชีวิตคาที่ 

ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า น่าจะมาจากรถจักรยานยนต์ไฟหน้าชำรุด ไม่มีไฟส่องสว่าง บวกกับจุดดังกล่าวกำลังอยู่ระหว่างก่อสร้างขยายช่องทางจราจร ทำให้ไฟฟ้าส่องสว่าง ไม่เพียงพอ ทำให้คนขับรถยนต์ ที่ผ่านมามองไม่เห็นในระยะกระชั้นชิด อีกทั้งถนนยังเป็นเนินสูง กระทบวิสัยทัศน์การมองเห็น เป็นเหตุให้ไม่สามารถมองเห็นรถจักรยานยนต์ที่ตัดหน้ากระชั้นชิด

ซึ่งตำรวจจะได้มีการตรวจสอบหาสาเหตุโดยละเอียด ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป พร้อมแจ้งเตือนประชาชน ที่สัญจรไปมาระมัดระวัง งดใช้ความเร็ว และควรระมัดระวังหากจะขับรถข้ามถนน ถือเป็นจุดเสี่ยงที่ต้องระมัดระวังในการเดินทาง พลาดอาจถึงชีวิต