สาวลิทัวเนียชีวิตบัดซบ แฟนบอกเลิก-ตกเครื่อง คิดฆ่าตัวตายกลางสนามบินภูเก็ต
สาวลิทัวเนีย เลิกราแฟนหนุ่มขณะเที่ยวภูเก็ต แถมตกเครื่องซ้ำ พยายามจะกระโดดราวสะพาน ชั้น 3 ขาออกอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ พลเมืองดีช่วยไว้ทัน
(30 ม.ค.62) เวลา 14.20 น.กลุ่มโซเชียลต่างๆได้โพสต์คลิปว่า ได้รับแจ้งจากศูนย์ท่าอากาศยานภูเก็ต ว่ามีผู้โดยสารชาวต่างชาติพยายามจะกระโดดราวสะพาน ชั้น 3 ขาออกอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ และได้มีพลเมืองดีเข้าให้การช่วยเหลือ
ภายหลังทราบชื่อผู้โดยสาร คือ น.ส.เอเดรียนา (สงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี สัญชาติลิทัวเทีย จึงสอบไปยัง พ.ต.อ.กิตติพงศ์ คล้ายแก้ว ผกก.สภ.สาคู อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าวันที่ 30 ม.ค.62 เวลา 14.20 น.เจ้าหน้าที่ศูนย์รักษาความปลอดภัย ท่าอากาศยานภูเก็ตได้รับแจ้งจากพลเมืองดีที่กำลังจะขับรถกลับบ้านว่าที่ราวสะพานทางลงชั้น 3 ขาออกอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ มีผู้โดยสารสาวชาวต่างชาติท่าทางเหม่อลอยเดินอยู่บนราวสะพานเหมือนพยายามจะกระโดดราวสะพาน ชั้น 3 ลงมาฆ่าตัวตาย จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ศูนย์รักษาความปลอดภัยร่วมท่าอากาศยานภูเก็ต ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ศูนย์ท่าอากาศยานภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สาคู เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องไปยังที่เกิดเหตุ
ช่วงนั้นพบนายอภิชาติ อินทรักษา พนักงานขับรถส่งผู้โดยสาร และนางสาวอมรรัตน์ อันไข่ ไกด์ชาวไทยที่ผ่านมาเห็นเป็นชุดแรก กำลังเจรจาพูดคุยเกลี้ยกล่อมถามถึงเรื่องราวต่างๆ และจังหวะที่ นักท่องเที่ยวสาวหันหลังจะกระโดดลงสะพานนายอภิชาติ จึงกระโดดรวบตัวผู้โดยสารหญิงสาวไว้พร้อมนำลงมาจากราวสะพานได้อย่างปลอดภัย จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปยังห้องปฐมพยาบาลท่าอากาศยานภูเก็ต ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น
น.ส.เอเดรียนา เล่าว่า ตนเดินทางมาท่องเที่ยวที่ จ.ภูเก็ต และฝั่งทะเลอันดามันกับแฟนหนุ่มได้ 10 กว่าวันแล้ว และมีเหตุทะเลาะกับแฟนหนุ่มอย่างรุนแรง จึงตัดสินใจเดินทางกลับประเทศในวันนี้ช่วงไฟล์บ่ายโมงเศษโดยเช็คอินทางออนไลน์ แต่ปรากฏว่าเมื่อถึงไม่สามารถขึ้นเครื่องได้ ขอเปลี่ยนตั๋วโดยสารก็ไม่ได้ ทางพนักงานสายการบินแจ้งว่ามาล่าช้า ต้องซื้อตั๋วเครื่องบินใหม่ ปรากฏว่ามีเงินไม่พอ จึงทำให้เกิดความเครียดทั้งแฟนบอกเลิกจนต้องกลับคนเดียว แล้วยังดวงซวยซ้ำตกเครื่องกลับบ้านไม่ได้อีก จึงคิดสั้นจะฆ่าตายตัวดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ ช่วยกันเกลี้ยกล่อมให้สงบสติอารมณ์ และเสนอการช่วยเหลือให้ โดยตรวจสอบพบมียาซึมเศร้าในกระเป๋า คาดว่าจะเป็นโรคซึมเศร้าด้วย จึงขอให้ไปตรวจร่างกายและพักรักษาตัวให้แข็งแรงพร้อมที่จะเดินทางที่ รพ.ถลาง จ.ภูเก็ต ก่อนประสานงานไปยังกงสุลประเทศลิทัวเนียเพื่อให้มาดูแลแล้ว ในเบื้องต้นมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยดูแลอย่างใกล้ตลอด 24 ชั่วโมง จนกว่าเจ้าหน้าที่กงสุลลิทัวเนียจะมาถึง