ตำรวจโคราชรวบเอเยนต์สาวขายไอซ์-ยาบ้า พร้อมของกลางจำนวนมาก

วันที่ 31 ม.ค. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องงานสืบสวน สภ.ครบุรี อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา พ.ต.ท.ศุภกร มาตย์สมบัติ รองผู้กำกับการสืบสวน สภ.ครบุรี พร้อมด้วย พ.ต.ท.กมล วงศ์แสนสาน สารวัตรสืบสวน และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ควบคุมตัวนางสาวภักวรี หรือเมย์ อายุ 37 ปี มาทำการสอบปากคำ

หลังจากถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน จับกุมตัวได้พร้อมของกลางยาบ้ารวม 835 เม็ด และสารไอซ์ อีกจำนวน 37.25 กรัม เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 30 ม.ค.ที่ผ่านมา เพื่อขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการและผู้อยู่เบื้องหลังการกระทำผิด

โดยการจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องมาจาก ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ครบุรี ได้ออกปฏิบัติหน้าที่กวาดล้างอาชญากรรมและการกระทำผิดในพื้นที่อำเภอครบุรีอย่างเข้มข้น ตามนโยบายของ พ.ต.อ.นทพล กาญจนาภรณ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรครบุรี มอบให้ไว้

และสามารถจับกุมกลุ่มผู้เสพรายย่อยในพื้นที่ได้หลายราย ส่วนหนึ่งให้การเป็นประโยชน์ต่อการสืบสวน ทำให้ทราบว่ายังมีเอเย่นต์ค้ายาบ้ารายใหญ่เป็นหญิง จะใช้รถจักรยานยนต์นำยาบ้ามาส่งให้กับลูกค้าบริเวณริมถนนบ้านถนนกลาง หมู่ที่ 8 ต.แชะ อ.ครบุรี เป็นประจำ จึงติดตามหาข่าว และวางกำลังดักซุ่ม

กระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 03.30 น. วันที่ 30 ม.ค.ที่ผ่านมา พบหญิงต้องสงสัยขับขี่รถจักรยานยนต์มาจอดริมถนนบริเวณที่ดักซุ่ม ท่าทีมีพิรุธ จึงแสดงตัวขอตรวจค้น พบยาบ้าจำนวน 35 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าเสื้อแจ็คเก็ตที่หญิงสาวคนดังกล่าวสวมใส่ และได้เชิญตัวมาสอบสวนที่ สภ.ครบุรี

ก่อนจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงตรวจค้นตามร่างกายอย่างละเอียด และพบยาเสพติดซุกซ่อนอยู่บริเวณเป้ากางเกงอีกจำนวนมาก แยกเป็นยาบ้าจำนวน 800 เม็ด และสารไอซ์อีก 37.25 กรัม

สอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพว่า ตนเองติดต่อรับซื้อยาบ้ามาจากเอเย่นต์รายหนึ่งที่เคยติดต่อซื้อขายกับแฟนหนุ่มซึ่งต้องโทษคดียาเสพติดอยู่ภายในเรือนจำเขาบินมาก่อนหน้าที่จะต้องโทษ เมื่อแฟนหนุ่มต้องโทษตนเองก็รับช่วงทำงานซื้อขายยาเสพติดแทน เพราะไม่มีรายได้

โดยจะติดต่อรับยาบ้าผ่านทางโทรศัพท์ และรับส่งของโดยการส่งพัสดุผ่านทางบริษัทรับส่งพัสดุเอกชน จากนั้นก็จะนำมาจำหน่ายต่อให้กับลูกค้าในพื้นที่อำเภอครบุรี ทำมาแล้ว 4 ครั้ง กระทั่งมาถูกจับกุมตัวได้ในที่สุด

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าและสารไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ครบุรี เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป