ชะลอส่งศพ "พ่อเลี้ยงปางช้าง" ผ่าพิสูจน์ ทนายความโผล่หย่าศึกสายเลือดแม่ลูก

ชะลอส่งศพ "พ่อเลี้ยงปางช้าง" ผ่าพิสูจน์ ทนายความโผล่หย่าศึกสายเลือดแม่ลูก

ชะลอส่งศพ "พ่อเลี้ยงปางช้าง" ผ่าพิสูจน์ ทนายความโผล่หย่าศึกสายเลือดแม่ลูก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พ.ต.อ.บุญส่งวิทย์ ห้องแซง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรแม่ริม นำกำลังตำรวจเดินทางไปที่โบสถ์เซนต์นิโกลาส บ้านโต้งหลวง ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ สถานที่ตั้งสวดอภิธรรมศพ (มิสซา) นายชูชาติ กัลมาพิจิตร อายุ 79 ปี หรือ พ่อเลี้ยงแอ๊ด ผู้ก่อตั้งเจ้าของปางช้างแม่สา เพื่อนำหนังสือคำสั่งขออายัดศพไปผ่าพิสูจน์ที่โรงพยาบาลนครพิงค์ หลังนางอัญชลี กัลมาพิจิตร บุญณราช อายุ 51 ปี บุตรสาวคนโต เข้าแจ้งความเพื่อขออายัดศพบิดาไปผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง

ขณะที่พนักงานของ “บ้านโต้งหลวง” แหล่งท่องเที่ยวโฮมสเตย์ของตระกูลกัลมาพิจิตร ได้นำไม้มาปิดกั้นเส้นทางไปยังโบสถ์เซนต์นิโกลลาสที่ตั้งอยู่ภายในหมู่บ้าน ไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวบางส่วนเดินทางเข้าไปยังโบสถ์ โดยอนุญาตให้เฉพาะตำรวจ ผู้เกี่ยวข้อง และ แขกที่จะเดินทางไปเคารพศพและวางพวงหรีดเท่านั้น

การเดินทางไปครั้งนี้ พ.ต.อ.บุญส่งวิทย์ ได้เจรจากับนางฐิติรัตน์ กัลมาพิจิตร ภรรยาคนปัจจุบันของนายชูชาติ และนายพงศ์ สุภาวสิทธิ์ ที่ปรึกษากฏหมายปางช้างแม่สา เพื่อขออายัดศพไปผ่าพิสูจน์ตามกฏหมาย การเจรจาใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมงเศษ ก่อนจะเดินทางกลับโดยไม่มีการเคลื่อนย้ายศพนายชูชาติจากโบสถ์ไปยังโรงพยาบาลนครพิงค์ เพื่อผ่าพิสูจน์แต่อย่างใด

>> เปิดโลงตรวจศพ "พ่อเลี้ยงชูชาติ" กลางพิธีมิสซา ลูกสาวไม่เชื่อพ่อตายเพราะมะเร็ง

>> ตำรวจสั่งอายัดศพ "พ่อเลี้ยงชูชาติ" ส่งผ่าพิสูจน์ ลูกสาวปัดขัดแย้งปมมรดกพันล้าน

ตำรวจ ระบุว่า เบื้องต้นทางญาติได้มอบหมายให้ทนายความซึ่งคนในครอบครัวไว้วางใจไปพูดคุยทำความเข้าใจให้ทุกฝ่ายที่ความเห็นไม่ตรงกัน ทั้งฝ่ายที่ต้องหาให้นำศพไปผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิต และฝ่ายที่ไม่ต้องการให้เคลื่อนย้ายศพให้เกิดความเข้าใจ และเข้าสู่กระบวนการตามขั้นตอนของกฏหมายในการส่งศพไปผ่าพิสูจน์ รวมทั้งขั้นตอนของการเปิดพินัยกรรม ส่วนการอายัดศพก็จะหาห้วงเวลาที่เหมาะสมอีกครั้ง โดยในคืนนี้เจ้าหน้าที่จะเข้ามาที่งานสวดอภิธรรมศพอีกครั้ง

นายพงศ์ สุภาวสิทธิ์ ที่ปรึกษากฏหมายปางช้างแม่สา ยอมรับว่าขั้นตอนการแจ้งตายเพื่อขอออกใบมรณบัตรล่าช้า เนื่องจากมีเหตุขัดข้องบางประการ หลังนายชูชาติเสียชีวิตเมื่อคืนวันที่ 27 มกราคม แต่ได้ไปแจ้งตายในวันที่ 30 มกราคม หลังจากนี้ตนเองจะไปพูดคุยทำความเข้าใจกับแม่ ลูกสาวคนโต และ ลูกชายคนเล็กของครอบครัว เพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกัน ส่วนภรรยาคนปัจจุบันไม่มีปัญหาอะไร

ส่วนการส่งศพไปผ่าพิสูจน์ตามขั้นตอนของกฏหมายหลังการพูดคุยกับทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว จะให้ทางครอบครัวไปหารือกันอีกครั้งว่าจะส่งศพไปผ่าพิสูจน์หรือไม่อย่างไร โดยศพของนายชูชาติ หลังการสวดอภิธรรมตามประเพณีทางศาสนาแล้ว ก็จะบรรจุศพเก็บไว้ 5 ปี จากนั้นจะทำพิธีเผาเพื่อนำอัฐิไปโปรยต่อไป

สำหรับนายชูชาติ กัลมาพิจิตร อายุ 79 ปี ป่วยด้วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว และนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล กระทั่งภรรยาคนปัจจุบันได้นำตัวออกจากโรงพยาบาลในช่วงเย็นวันที่ 27 มกราคม ก่อนจะเสียชีวิตที่บ้านพักในเวลา 23.35 น. วันเดียวกัน หลังเสียชีวิตไม่มีการแจ้งตำรวจเข้าตรวจสอบและขอออกใบมรณบัตรภายใน 24 ชั่วโมง ตามที่กฎหมายกำหนด จึงทำให้นางอัญชลี บุตรสาวคนโตเกิดความแคลงใจในสาเหตุการเสียชีวิตของบิดา

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook