เค้นสอบ 11 เขมร ฝึกอาวุธในปอเนาะปัตตานี พบถือวีซ่าท่องเที่ยว แต่อยู่ไทย 2 ปี

เค้นสอบ 11 เขมร ฝึกอาวุธในปอเนาะปัตตานี พบถือวีซ่าท่องเที่ยว แต่อยู่ไทย 2 ปี

เค้นสอบ 11 เขมร ฝึกอาวุธในปอเนาะปัตตานี พบถือวีซ่าท่องเที่ยว แต่อยู่ไทย 2 ปี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผบช.สตม.เผย เค้นสอบ 11 เขมร ฝึกอาวุธในปอเนาะปัตตานี ถือวีซ่าท่องเที่ยว ซุกไทยร่วม2ปี มีข้อมูลได้รับการว่าจ้าง

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยถึงคำสั่งให้ตำรวจด่านตรวจคนเข้าเมืองสระแก้ว และด่านตรวจคนเข้าเมืองปัตตานี รวม 10 นาย ช่วยราชการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ศปก.ตม).ว่า ได้ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงตำรวจทั้ง 10 นาย ว่ามีความบกพร่อง ละเลย หรือมีผลประโยชน์หรือไม่ ที่ให้ชาวกัมพูชา 11 คน ซึ่งใช้วีซ่าท่องเที่ยวเข้าในประเทศไทยผ่านทางด่านคลองลึก จ.สระแก้ว และเดินทางไปอยู่ที่โรงเรียนปอเนาะแห่งหนึ่งใน จ.ปัตตานี แล้วเพิ่งถูกตำรวจภูธร จ.ปัตตานี และทหารจับได้ขณะฝึกการต่อสู้ใช้อาวุธภายในปอเนาะ เมื่อวันที่ 29 มกราคม ที่ผ่านมา

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า ชาวกัมพูชากลุ่มนี้เข้ามาเพียง 11 คน โดยถือวีซ่าท่องเที่ยวเข้ามา โดยตามกฎหมายวีซ่าจะมีอายุเพียง 15 วันและต่อได้ 1 ครั้งอีก 15 วัน กลับพบว่าบางคนในกลุ่มนี้อยู่เกินกำหนดอนุญาตหรือโอเวอร์สเตย์ถึง 500 กว่าวัน ปีกว่าเกือบ 2 ปี  ซึ่งไม่ปกติแน่นอน โดยเหตุที่ต้องย้ายตำรวจตม. เนื่องจากพบว่าทั้ง 11 คนเข้ามาทางด่านคลองลึก โดยปกติแล้วการเป็นตำรวจตรวจคนเข้าเมืองต้องรู้จักสังเกตลักษณะบุคคลที่เป็นภัยต่อความมั่นคง หากมีลักษณะหรือข้อสงสัยก็มีอำนาจในการไม่อนุญาตให้เข้าเมือง และโดยปกติการเข้าเมืองของนักท่องเที่ยว จะต้องแจ้งโรงแรมที่พักและเจ้าหน้าที่ก็ต้องตรวจสอบว่านักท่องเที่ยวเข้าพักอยู่ในที่พักตามแจ้งหรือไม่ แต่พบว่าไม่ตรวจสอบเลย ส่วนตรวจคนเข้าเมืองปัตตานีนั้นถือว่าเป็นปลายทาง ต้องกวดขันตรวจสอบผู้ที่อยู่ในประเทศเกินกฎหมายกำหนดแต่กลับละเลยให้ทั้ง 11 คนไปซ่องสุมฝึกการต่อสู้ได้อยู่ตั้งนาน แบบนี้บกพร่องหรือไม่ ยืนยันว่าในการสืบสวนข้อเท็จจริงจะให้ความเป็นธรรม

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวด้วยว่า จะต้องตรวจสอบขยายผลว่าทั้ง 11 คนเดินทางไปถึงจังหวัดปัตตานีได้อย่างไร มีชาวไทยหรือชาวต่างชาติคนใดให้การช่วยเหลือในการกระทำความผิดหรือไม่ ขณะนี้จากการสืบสวนทราบว่าทั้ง 11 คน ได้รับการว่าจ้างให้ไปอยู่ที่จังหวัดปัตตานีเพื่อทำอะไรบางอย่าง อาจเป็นลักษณะนั้น กำลังซักถามสืบสวน ขณะนี้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้าและตำรวจภูธรภาค 9 ได้คุมตัวทั้ง 11 คนไว้ที่ศูนย์ซักถาม ในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ เพื่อทำการซักถามข้อมูลหากมีความผิดก็ต้องดำเนินคดีและผลักดันออกรวมทั้งขึ้นบัญชีห้ามเข้าประเทศต่อไปทั้งนี้หน่วยความมั่นคงจะต้องขยายผลว่าทั้ง 11 คนไปทำอะไรฝึกอาวุธเพื่ออะไรมีใครเกี่ยวข้องหรือไม่

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook