เอวร่ามั่นใจรับมือเมสซี่ไหวในเกมนัดชิงชปล.
ปาตริซ เอวร่า แบ็กซ้ายทีมชาติฝรั่งของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอมรับเจองานหนักแน่ในการรับมือ ลีโอเนล เมสซี่ ดาวเตะตัวเก่งของ บาร์เซโลน่า ในนัดชิงชนะเลิศ ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก วันพุธนี้ แต่มั่นใจไม่เหลือบ่ากว่าแรงและเชื่อว่าสุดท้ายแล้วทีม "ปีศาจแดง" จะสามารถป้องกันแชมป์ได้สำเร็จ
ปาตริซ เอวร่า ฟูลแบ็กทีมชาติฝรั่งเศส ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องเผชิญหน้ากับ ลีโอเนล เมสซี่ ดาวเตะซูเปอร์สตาร์ของ บาร์เซโลน่า ทีมดังจากลา ลีกา สเปน ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดชิงชนะเลิศ ในวันพุธนี้ ซึ่งดาวเตะเฟร้นช์เมนยอมรับว่าต้องเจองานหนักแน่แต่มั่นใจรับมือไหว พร้อมยืนยันยังมีความกระหายในการชูถ้วยแชมป์รายการใหญ่สุดของยุโรปอีกสมัยอย่างเต็มเปี่ยม หลังจากเคยคว้ามาครองได้เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ระบุชัดความกระหายในการคว้าแชมป์คือวัฒนธรรมภายในทีม "เร้ด เดวิลส์"
"ผมจำได้ว่าเมื่อตอนให้สัมภาษณ์ครั้งแรกหลังจากผมย้ายเข้ามาที่ แมนเชสเตอร์ ผมเคยพูดว่าผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อลงเล่นใน แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่ผมมาเพื่อคว้าแชมป์"
"ตอนนี้ผมได้แชมป์มาแล้วหนึ่งครั้ง แต่ผมยังต้องการครั้งที่สองครั้งที่สามต่อไป นั่นคือวัตถุประสงค์ของผม"
"แน่นอนผมจะต้องพบกับค่ำคืนที่แสนยากลำบากในการรับมือ เมสซี่ ผมรู้ ผมเคารพในตัวเขามากแต่ผมมั่นใจว่ารับมือเขาได้"
"ผมรู้ดีว่าผมสามารถรับมือเขาได้เป็น 20 ครั้งแต่หากพลาดเพียงครั้งเดียวและเขายิงประตูได้ ผู้คนจะพูดว่าผมล้มเหลว มันขึ้นอยู่กับผมว่าจะทำให้เรื่องราวจบแบบสมหวังได้หรือไม่ (เซอร์ อเล็กซ์) เฟอร์กูสัน เคยกล่าวไว้ว่า 'เมสซี่ น่ะหรือ ปั๊ต จะดูแลเขาเอง' ซึ่งผมหวังว่าจะไม่ทำให้เขาต้องผิดหวัง"
"ผมรู้สึกว่าตัวเองแข็งแกร่ง ผู้คนอาจจะเรียกผมว่าเป็นคนหยิ่งยะโส แต่ทำไมผมต้องโกหกด้วยล่ะ แน่นอนผมรู้สึกแข็งแกร่งและแน่นอนผมภาคภูมิใจ ผมอยู่จุดบนสุดของปิรามิด แต่ผมไม่ได้โง่และรู้ดีว่าเพียงก้าวย่างเล็กๆ ก็สามารถทำให้ผมร่วงหล่นลงมาได้อย่างรวดเร็ว"
"หลังจากคว้าแชมป์ที่มอสโกเมื่อปีที่แล้ว ระหว่างเดินทางกลับ โค้ชยืนขึ้นและกล่าวว่า "สุภาพบุรุษทั้งหลาย ผมอยากจะขอบคุณ แต่ปีหน้าผมจะมองเข้าไปในแววตาของทุกคนและผมจะดูว่าพวกคุณยังมีความกระหายกันอยู่หรือไม่ คนที่ไม่มีความกระหายอีกต่อไปจะถูกขับออกจากทีม"
"ที่นี่เป็นแบบนั้น เมื่อคุณชนะคุณต้องลืมมัน และเมื่อคุณคว้าแชมป์อีกครั้งคุณก็ต้องลืมมันอีก มันคงน่าละอายหากเราไม่ได้ฉลองแชมป์ แต่ทั้งหมดมันก็เป็นเรื่องของวัฒนธรรมแห่งชัยชนะ" เอวร่าร่ายยาว