สาวแทบกรี๊ด นั่งปลดทุกข์ในห้องน้ำปั๊มเจอคนถ้ำมอง จับได้เป็นเด็กชายอายุแค่ 14

จากกรณีที่มีเฟซบุ๊กชื่อว่า ออเร้น 'นน ได้โพสต์ข้อความพร้อมคลิปภาพลงบนโซเชียลเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า เข้าห้องน้ำภายในปั๊มน้ำมันแห่งถึงแล้วพบว่าคนที่อยู่ห้องข้างๆ แอบถ้ำมอง จึงเรียกให้คนมาช่วยจับตัวเอาไว้ พบเป็นเด็กชายอายุ 14 ปีเท่านั้น จนมีผู้ที่มาแชร์และคอมเมนต์มีทั้งด่าและเตือนภัยต่อๆ กันเป็นจำนวนมาก

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุเป็นปั๊มน้ำมันชื่อดังแห่งหนึ่งใน ตำบลนาป่า อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี พบผู้เสียหายชื่อนางสาววิภาภร วงษ์วิจารณ์ อายุ 21 ปี เป็นพนักงานร้านขายของภายในปั๊ม จากการสอบถามเบื้องต้นนางเอ (นามสมมุติ) แม่บ้านทำความสะอาดได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าตนได้เห็นเด็กชาย บี (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี มานั่งอยู่บริเวณหน้าห้องน้ำ เมื่อเวลา 08.30 น. โดยนั่งอยู่กว่า 1 ชั่วโมง ตนก็เลยได้ทักทายว่ามาทำอะไร ไม่ได้เรียนเหรอเด็กชายตอบมาว่านั่งอ่านหนังสือ สักพักก็เดินอ้อมมาเข้าห้องน้ำหญิงตนก็เห็นว่าเป็นเด็กคงเข้าผิดห้องจึงไม่ได้เอะใจอะไร จนกระทั่งเวลา 13.00 น. ตนได้ยินเสียงนางสาววิภาพร ผู้เสียหายร้องตะโกนและวิ่งออกมาจากห้องน้ำว่าถูกแอบถ้ำมองตนและพนักงานก็ได้ช่วยกันมาจับตัวไว้

ด้านนางสาววิภาพร ผู้เสียหายได้เผยว่าขณะที่ตนมาเข้าห้องน้ำก็ไม่เห็นผิดปกติเห็นห้องที่ 2 ปิดอยู่ ตนจึงได้เข้าที่ห้องแรกพอกำลังนั่งทำกิจอยู่ จู่ๆ สายตามองไปเห็นกระเป๋าสีดำวางอยู่กับพื้นห้องน้ำสภาพเปียกโชกตนจึงคิดจะถ่ายรูปมาลงเฟสว่าทำไมอยู่ดีๆ มีคนเอากระเป๋ามาวางให้เปียกน้ำ แต่แล้วก็มองเห็นลูกตาสีดำมองมาทางตนโดยแอบมองอยู่ข้างๆ กระเป๋าตนก็เลยจ้องดูให้แน่ใจ จนพบว่ามีคนแอบมอง ทีแรกตกใจพอตั้งสติได้ก็ร้องรีบวิ่งตะโกนเสียงดังให้คนมาช่วยจับตัวคนร้ายไว้ แต่พอเจอตัวก็รู้สึกหดหู่เพราะเห็นเป็นเด็กชาย จึงสอบถามมาทำแบบนี้ทำไม เรียนที่ไหน เด็กชายบี ตอบมาว่าเรียนอยู่โรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี และมีอายุเพียงแค่ 14 ปี ตนก็ตกใจมากเพราะเด็กเพียงอายุแค่ 14 ปี ทำไมมีความคิดแบบนี้

และอยากฝากเตือนภัยถึงผู้หญิงทุกคนเวลาเข้าห้องน้ำ ให้ระวังให้ดีๆ และควรมองรอบๆ ข้างว่ามีอะไรผิดสังเกตหรือไม่ ถ้าคิดว่าไม่ปลอดภัยให้เปลี่ยนห้องน้ำทันทีเพราะอาจจะโดนแบบตน และอยากฝากถึงน้องๆ ที่มีความคิดที่ไม่สร้างสรรค์ ชอบมีพฤติกรรมชอบแอบมองหรือแอบถ่ายให้เลิกซะ เพราะถ้าติดคุกมาจะเสียอนาคต หลังเกิดเหตุตนได้แจ้งตำรวจมายังจุดเกิดเหตุ แต่ตนเห็นว่าเป็นเด็ก จึงไม่อยากเอาเรื่องอะไร เพียงแต่บอกให้ตำรวจนำตัวไปอบรมที่โรงพัก ทำประวัติและแจ้งให้ทางโรงเรียนและผู้ปกครองได้รับทราบว่ามีพฤติกรรมแบบนี้ เพื่อที่จะไม่ไปทำแบบนี้ที่ไหนอีก