ชาวบ้านทึ่ง เขื่อนหน้าวัดทรุดลงแม่น้ำ "พญานาค" ไร้รอยขีดข่วน เครื่องเซ่นไหว้วางอยู่ครบ

ชาวบ้านทึ่ง เขื่อนหน้าวัดทรุดลงแม่น้ำ "พญานาค" ไร้รอยขีดข่วน เครื่องเซ่นไหว้วางอยู่ครบ

ชาวบ้านทึ่ง เขื่อนหน้าวัดทรุดลงแม่น้ำ "พญานาค" ไร้รอยขีดข่วน เครื่องเซ่นไหว้วางอยู่ครบ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อเวลา 17.30 น. (4 ก.พ.62) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งเหตุว่าเขื่อนซีเมนต์ ริมตลิ่งแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณหน้าวัดเขียน ซอยบางไผ่ 18 ต.บางไผ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี ทรุดตัวและพังลงไปในแม่น้ำ เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 05.00 น.วันที่ 4 ก.พ.62 จึงประสาน น.ส.รุ่งนภา งามสาย รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางไผ่ และเจ้าหน้าที่ ปภ.เข้าตรวจสอบ

จากการลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่าดินบริเวณริมเขื่อนได้ทรุดตัวยาวประมาณ 30 เมตร ลึกประมาณ 10 เมตรทำให้ตัวเขื่อนทรุดลงไปในแม่น้ำ สิ่งก่อสร้างที่อยู่ใกล้เคียงซึ่งเป็นรูปปั้นพญานาค จำนวน 2 ตัว ซึ่งตั้งอยู่ริมเขื่อนได้ร่วงตามไปด้วย แต่กลับไม่มีรอยแตกหักแถมยังวางเรียงสวยงาม เครื่องเซ่นไหว้อยู่ครบไม่มีหล่นน้ำแม้แต่ชิ้นเดียว

นอกจากนี้ยังพบเสาไฟฟ้าเอียง 1 ต้น ทางการไฟฟ้านครหลวงส่งช่างมาตรวจสอบและจะเข้าดำเนินการแก้ไขในวันที่ 5 ก.พ.62 ส่วนศาลาท่าน้ำพบตัวศาลามีรอยร้าวตลอดฐาน อาคารหลวงพ่อทันใจที่ประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่ ใต้อาคารพบดินสไลด์จนเป็นโพรง แต่ยังมีเสาซีเมนต์ขนาดใหญ่ที่ดูแข็งแรงค้ำอยู่

นอกจากตัวเขื่อนยังไปโดนเสาของท่าเรือด่วนเจ้าพระยา ที่ด้านหน้าวัดทำให้ไม่สามารถจอดเรือโดยสารได้ ทำให้ต้องปิดท่าเรือชั่วคราว โดยติดประกาศให้ผู้โดยสารไปขึ้นท่าเรือวัดตึก ที่อยู่ใกล้แทน โดยพื้นที่เกิดเหตุทางวัดได้ปิดป้ายเป็นเขตอันตราย ห้ามเข้า รวมทั้งปิดป้ายยกเลิกท่าเรือโดยสารชั่วคราว

น.ส.รุ่งนภา งามสาย รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางไผ่ เปิดเผยว่า ตนได้รับแจ้งเหตุเมื่อช่วงเช้าว่าเกิดเหตุเขื่อนหน้าวัดทรุด โดยชาวบ้านแจ้งว่าได้ยินเสียงดังประมาณตี 3-4 ตอนช่วงออกมาหาปลา เมื่อเช้ามีกรมชลประทาน เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบเขื่อนนี้ และ พื้นที่ อบต.บางไผ่ และรองผู้ว่า นายชลธี ยังตรง เข้ามาตรวจสอบแล้วและได้สั่งการให้ ปภ.จังหวัดเข้ามาดูแล การประสานกับกรมเจ้าท่าแจ้งไปทางเรือด่วนเจ้าพระยาให้ชะลอความเร็วเพื่อลดแรงคลื่นให้น้อยลง ขณะนี้ผู้ว่าได้ประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติ เป็นเขตอันตรายห้ามเข้า เขื่อนนี้ก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2549 โดยกรมชลประทาน ครั้งแรกมีการฉีกขาดแนวดิ่งระหว่างก่อสร้างประมาณ 10 เมตร ด้วย สาเหตุอาจเกิดจากแรงคลื่น หรือการกัดเซาะของน้ำตลิ่ง ระหว่างให้กรมชลประทานตรวจสอบแบบ ขณะนี้รองผู้ว่าฯ ได้สั่งการให้เร่งเข้าดำเนินการ เพื่อไม่ให้กัดเซาะไปมากกว่านี้ จึงประกาศหยุดใช้ชั่วคราว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook