สาวท้อง 6 เดือน นวดเท้าแผนไทยแล้วช็อกคาเตียง แท้งลูก-อาการโคม่า

สาวท้อง 6 เดือน นวดเท้าแผนไทยแล้วช็อกคาเตียง แท้งลูก-อาการโคม่า

สาวท้อง 6 เดือน นวดเท้าแผนไทยแล้วช็อกคาเตียง แท้งลูก-อาการโคม่า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พ่อร้องลูกสาวท้อง 6 เดือนไปนวดเท้าช็อกคาเตียง สุดท้ายแท้งลูก-อาการโคม่า ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ

(5 ก.พ.) นายบุญมี อายุ 56 ปี พนักงานรักษาความปลอดภัยแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา จ.ชลบุรี พร้อม นายชัยวัฒน์ พี่ชาย เข้าร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว หลังลูกสาว คือ นางสาววิราวรรณ อายุ 26 ปี ตั้งครรภ์ 6 เดือน เข้าไปใช้บริการนวดแผนโบราณแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่ แต่สุดท้ายเกิดอาการช็อกและชักคาเตียงนวดจนหมดสติ ล่าสุดแท้งลูกและอาการโคม่า ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ นอนรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่

นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า หลานสาวชื่นชอบการนวดแผนโบราณมากและมักไปใช้บริการอยู่เป็นประจำ ซึ่งหลานสาวก็เป็นคนแข็งแรง ชอบออกกำลังกายและไม่มีโรคประจำตัว เมื่อวันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมา หลานสาวได้ไปใช้บริการนวดที่ร้านนวดแผนโบราณแห่งหนึ่ง โดยได้ติดต่อคุยกับเพื่อนทางไลน์ชวนไปนวดด้วยกัน แต่เพื่อนติดเลี้ยงลูก จึงสอบถามว่าไปนวดที่ไหนพร้อมกับให้ส่งภาพถ่ายร้านนวดมาให้ดูทางไลน์ หลานสาวจึงแจ้งไปว่ามาใช้บริการที่ร้านนวดแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ในศูนย์การค้า จากนั้นก็ขาดการติดต่อไป

ร้านนวดแผนไทยที่ผู้ป่วยไปใช้บริการ

กระทั่งผ่านไปหนึ่งวัน เพื่อนคนดังกล่าวจึงทราบข่าวว่าหลานสาว นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่จึงรีบเดินทางไปเยี่ยม และจากการสอบทราบว่า ขณะหลานสาวกำลังนวดอยู่เกิดอาการชักเกร็งและหมดสติคาเตียงนวด ระหว่างนั้นมีพยาบาลที่ผ่านมาเห็นเหตุการณ์จึงเข้าไปช่วยเหลือเพราะหลานสาวมีอาการหยุดหายใจ โดยหลังปั๊มหัวใจขึ้นมาได้ก็แจ้งรถพยาบาลมารับตัวไปรักษา แต่ระหว่างนำส่งโรงพยาบาลหลานสาวมีอาการหยุดหายใจอีกครั้งและเจ้าหน้าที่ก็ช่วยปั๊มหัวใจขึ้นมาได้

จากนั้นแพทย์ตรวจพบหลานสาวมีอาการโคม่าและแท้งลูกในท้อง จึงนำเข้าห้องไอซียู โดยระหว่างนั้นไม่สามารถผ่าตัดนำทารกที่เสียชีวิตในท้องออกมานั้น เพราะจะมีผลกับชีวิตของแม่ จึงต้องให้ยารักษากระทั่งสามารถนำเด็กทารกที่เสียชีวิตในครรภ์ออกมาได้ แต่หลานสาวก็มีอาการโคม่า ไม่รู้สึกตัว ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา โดยแพทย์แจ้งว่าหลานสาวมีอาการลิ่มเลือดไปอุดตันที่ปอดและสมองจึงทำให้เกิดอาการช็อก

ต่อมาเพื่อนของหลานสาวได้แจ้งให้ตนเองที่เป็นลุงทราบ จึงรีบโทรศัพท์แจ้งให้นายบุญมี น้องชายทราบเรื่อง จากนั้นนายบุญมีจึงรีบลางานเดินทางมาติดตามเรื่องของลูกสาว และได้เข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรภูพิงคราชนิเวศน์ เพื่อให้ดำเนินคดีกับพนักงานนวด และร้านนวด โดยตลอดระยะเวลาที่พูดคุยเจรจากับร้านนวดได้รับการบ่ายเบี่ยงทุกครั้ง ขณะที่คดีก็ไม่มีความคืบหน้าใดจนล่วงเลยมาถึงปัจจุบัน

นายบุญมี บอกว่า เหตุที่ต้องร้องเรียนกับสื่อมวลชนเพราะอยากให้คู่กรณีคือพนักงานและร้านนวดแสดงความรับผิดชอบบ้าง และ อยากเร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับร้านนวดด้วย เพราะตั้งแต่ลูกสาวเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเมื่อวันที่ 11 มกราคม แต่ผ่านไปแล้วกว่า 25 วัน ทางร้านนวดก็ยังไม่ออกมาแสดงความรับผิดชอบ และเมื่อสอบถามว่าใครเป็นคนนวดให้ลูกสาวในวันเกิดเหตุก็ไม่ได้รับความร่วมมือใดๆ

ขณะที่ล่าสุดครอบครัวได้ย้ายลูกสาวออกจากโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลเอกชนตามสิทธิประกันสังคม ซึ่งตนเองสงสารลูกสาวมากที่ต้องมานอนไม่รู้สึกตัวเช่นนี้ โดยลูกสาวถือเป็นเสาหลักของครอบครัว ต้องเลี้ยงดูลูกชาย 1 คน เมื่อลูกสาวนอนป่วยอาการโคม่าเช่นนี้ ทำให้ครอบครัวลำบากมาก

สำหรับความคืบหน้าในส่วนของคดี พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.เชียงใหม่ รับทราบเรื่องแล้วและเตรียมเร่งรัดพนักงานสอบสวนให้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย เพื่อสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องและพยานแวดล้อมแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ได้สอบถามผู้เชี่ยวชาญในวงการนวดแผนไทย ให้ข้อมูลว่า หญิงตั้งครรภ์มีข้อห้ามไม่ควรนวดแผนไทย โดยเฉพาะการนวดที่รุนแรง หรือการนวดกดจุดสะท้อนในบริเวณต่างๆ เช่น การนวดเท้าที่เป็นศูนย์รวมประสาท เพราะอาจมีการกระทบกระเทือนต่อการตั้งครรภ์ ถ้ารุนแรงมากก็อาจจะแท้งได้ เพราะการนวดเท้าจะไปกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook