ลากคอ “โจรอ้วนผอม” กระชากสร้อย-ฉกเงินสด เจ้าของร้านของชำหนีเข้าป่าละเมาะ

(5 ก.พ. 62)  เมื่อดึกคืนที่ผ่านมา พ.ต.ท.พิธี  อินทร์น้อย รอง ผกก.สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์  ได้รับแจ้งเหตุวิ่งราวทรัพย์ ที่ร้านค้าแห่งหนึ่ง บริเวณ ถ.ประจวบคีรีขันธ์  ฝั่งตรงข้ามเรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์  คนร้ายได้สร้อยคอทองคำ 2 บาท  และเงินสดไปอีกจำนวนหนึ่ง

โดยคนร้ายมีรูปพรรณเป็นชายร่างอ้วนสวมเสื้อสีขาวและกางเกงยีนส์  ส่วนชายอีกคนรูปร่างผอมสวมเสื้อขาวกางเกงยีนส์สีดำและสังเกตเห็นว่า ขาเดินไม่ตรง คล้ายคนขากะเผลก 

โดยทั้งคู่หนีออกจากร้านที่เกิดเหตุมุ่งหน้าไปทางสถานีรถไฟ จากนั้นจึงได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน  สายตรวจรถจักรยานยนต์  สายตรวจรถยนต์ พร้อมกำลังอาสาสมัครมูลนิธิกู้ภัยสว่างประจวบธรรมสถาน  นายตรวจรถไฟประจวบคีรีขันธ์  และรถซ่อมบำรุงทางรถไฟ นำไฟส่องสว่างส่องค้นหาคนร้าย ซึ่งเป็นป่าละเมาะมีหญ้ารก ประกอบกับเป็นเวลาดึกมึดสนิท ทำให้การค้นหายากลำบากมากขึ้น

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลาค้นหารวมกว่า 2 ชั่วโมง เนื่องจากคนร้ายได้อาศัยความมืดหลบหนี โดยเดินตามทางรถไฟขึ้นเหนือ ทั้งนี้พบร่องรอยเท้าย่ำน้ำ บริเวณป่าหญ้าริมทางจุดตัดทางรถไฟถนนอ่าวน้อย ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 10 กิโลเมตร

ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถจับตัวคนร้ายคนแรกเป็นชายร่างอ้วน หลบซ่อนข้างทางรถไฟในป่าหญ้า  ส่วนชายร่างผอม จับได้ภายหลังเพราะเดินหนีไปไกล จากนั้นจึงได้ควบคุมตัวกลับมาสอบสวนที่ สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์

เมื่อตรวจค้น พบของกลางเป็นสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 2  บาท พร้อมพระรอดเลี่ยมทองอีก 1 องค์  และเงินสดนับได้ 3,650  บาท  อยู่ในกระเป๋ายีนส์ด้านหลังขวา ทราบชื่อผู้ต้องหาชายอ้วนคือ นายสังวร  อายุ 35  ปี พักอาศัยอยู่ในเขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ และชายร่างผอม ชื่อ นายขยัน  อายุ 54 ปี ภูมิลำเนา ต.ท่าดี อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช 

จากการตรวจสอบพบว่า นายสังวร เคยมีคดีเมื่อปี 2552 และ 2553  ในข้อหา “ลักทรัพย์และวิ่งราวทรัพย์” พ้นโทษเมื่อปี 2556  โดยได้ย้ายไปอยู่จังหวัดอื่น กระทั่งเพิ่งกลับมาอยู่บ้านที่ประจวบคีรีขันธ์ และรู้จักกับเพื่อนร่วมก่อเหตุได้เพียง 2 วัน เท่านั้นก็ก่อนวางแผนลงมือชิงทรัพย์ดังกล่าว

ทางด้าน นางจำปี  อายุ 62  ปี  เจ้าของร้านที่เกิดเหตุดังกล่าว เล่าว่า  ตนเองใกล้ปิดร้าน โดยคนร้าย คือ คนอ้วนทำทีมาซื้อยาเส้น จากนั้นอาศัยจังหวะเผลอผลักตนเองล้มลงกับพื้น และใช้กำปั้นต่อยเข้าที่หน้าอกสองครั้ง และดึงกระเป๋าคาดเอวที่เก็บเงิน  พร้อมกระชากสร้อยคอทองคำแล้ววิ่งหนี โดยก่อนหน้านี้ ตนจำหน้าได้ว่า คนร้ายเคยมาคนเดียว มาซื้อน้ำอัดลมกิน ซึ่งคาดว่าจะดูลาดเลาก่อนลงมือก่อเหตุ