ผู้ว่าฯ ขอนแก่น เรียกประชุมด่วน หลังค่าฝุ่นละอองพุ่งขึ้นแท่นสูงสุดในไทย
ผู้ว่าฯ ขอนแก่นเรียกประชุมด่วน หลังพบมลพิษทางอากาศสูงสุดในประเทศ พร้อมย้ำชัด พวกชอบเผาหญ้าข้างทาง-เผาอ้อย-เผาตอซังข้าว เอาผิดแน่
นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เรียกประชุมด่วนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรับมือกับสถานการณ์ฝุ่นละอองที่กำลังเข้าสู่สถานการณ์เฝ้าระวังในขณะนี้ หลังพื้นที่ขอนแก่น มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 75 มาตลอดตั้งแต่ช่วงบ่ายที่ผ่านมา นายสมศักดิ์ กล่าวว่า จังหวัดได้มีการประกาศขอความร่วมมือทุกภาคส่วนให้ช่วยกันป้องกันฝุ่นละอองทั้งจากการก่อสร้างตึก อาคาร และการเผาหญ้า เผาอ้อยริมถนน รวมทั้งกิจกรรมอื่นๆ ที่จะสร้างมลพิษทางอากาศในขณะนี้
โดยค่า PM 2.5 ของจังหวัดขอนแก่นขณะนี้ถือว่าสูงที่สุดในประเทศไทย อีกทั้งยังคงได้สั่งการให้อุตสาหกรรมจังหวัดขอนแก่น ทำการตรวจสอบโรงงานอุตสาหกรรมทุกแห่ง รวมถึงโรงงานอ้อย เพราะอยู่ในช่วงเปิดหีบอ้อย เพื่อขอความร่วมมือเกษตรกรที่เป็นสมาชิกชาวไร่อ้อย ห้ามเผาอ้อยโดยเด็ดขาด เพราะนอกจากเกิดควันพิษแล้วยังทำให้ราคาอ้อยถูกลงด้วย
“อุตสาหกรรมจังหวัดจะร่วมกับ มทบ.23 ลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงานน้ำตาล หากมีฝุ่นละอองต้องรีบดำเนินการป้องกันอย่างเร่งด่วน พร้อมประสานรถน้ำ เพื่อฉีดพ่นฝุ่นละอองที่ฟุ้งกระจายให้ปริมานลดลง และในส่วนของการก่อสร้างตึกใหญ่ และอาคารต่างๆในเมืองขอนแก่นขณะนี้ ยังไม่พบการก่อสร้าง ซึ่งหากพบการก่อสร้างอาคาร หรือตึกใหญ่ ก็จะเข้าตรวจสอบเช่นกัน พร้อมบังคับใช้สแลนในการป้องกันฝุ่นละอองจากการก่อสร้างไม่ให้ฟุ้งกระจายสู่อากาศ”
ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า ได้ประสานงานร่วมกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ขนส่ง เพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบควันจากท่อไอเสียรถยนต์ทุกคัน ถ้าคันไหนเกินค่ามาตรฐานก็ให้มีการดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ยังได้สั่งการไปยังส่วนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ตรวจเข้มตามหมู่บ้านชุมชนห้ามประชาชนเผาหญ้าหรือตอซังข้าว และการเผาอ้อยในไร่นาต่างๆ ซึ่งหากตักเตือนครั้งแรกแล้วไม่ฟัง ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเข้มงวดไม่มีละเว้นเด็ดขาด
“ขณะนี้สถานการณ์ล่าสุด ยังไม่กระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันหรือถึงขั้นวิกฤติต้องใช้หน้ากากอนามัยกันทุกคน แต่เป็นสถานการณ์ที่ต้องเฝ้าระวังร่วมมือกันในทุกภาคส่วนให้ค่าฝุ่นละอองลดลงและเป็นมาตรฐานยั่งยืน หากใครที่รู้สึกเคืองตา หรือหายใจไม่ออก ควรหลีกเลี่ยงพื้นที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน และควรหาหน้ากากอนามัยมาสวมใส่ป้องกัน โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ทั้งนี้ยังได้ประสานทางเทศบาลนครขอนแก่น ให้มีการเฝ้าระวังและป้องกันปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก ไม่เกิน 10 ไมครอนและไม่เกิน 2.5 ไมครอน โดยเทศบาลนครขอนแก่นจะต้องลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์ ขอความร่วมมือกับประชาชน ตามหมู่บ้านชุมชน งดเผาขยะและเศษใบไม้ในที่โล่ง ขอความร่วมมือกับเจ้าของรถยนต์รถจักรยานยนต์ ตรวจสอบสภาพเครื่องยนต์ บำรุงรักษาให้อยู่ในสภาพดี ไม่ก่อให้เกิดมลพิษ และตรวจสอบโรงงานไม่ให้ก่อมลพิษเกินมาตรฐาน เขตก่อสร้างต้องควบคุมการฟุ้งกระจายของฝุ่นละออง และที่พักอาศัยที่อยู่ใกล้ถนนจะมีรถน้ำไปฉีดพ่นน้ำ ในเวลากลางคืน เพื่อควบคุมการฟุ้งกระจายของฝุ่นละอองให้จังหวัดขอนแก่นกลับสู่สภาวะปลอดภัยต่อไป”