กระบะแหกโค้ง! เศรษฐีนีระนองกระเด็นออกจากรถดับคาที่ ลูกชายวัยเบญจเพสเป็นคนขับ

เมื่อเวลา 05.00 น. (6 ก.พ.62) ร.ต.อ.สวัสดิ์ คงแก้ว รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชุมพร ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุมีคนบาดเจ็บและเสียชีวิตที่ถนนเพชรเกษม บ้านจปร.หมู่ 7 ตำบลวังใหม่ อ.เมือง จ.ชุมพร จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ และหน่วยกู้ภัยสายชลมูลนิธิชุมพร

ที่เกิดเหตุเป็นถนนทางโค้งอันตรายช่องทางขาล่องอยู่เขตรอยต่อกับ อ.กระบุรี จ.ระนอง ถนนกำลังอยู่ระหว่างขยายเป็นสี่ช่องจราจร บริเวณเกาะกลางถนนกั้นเป็นขอบปูนซีเมนต์กว้าง 1 เมตร มีการถมดินเป็นเนินสูง 1 เมตร เป็นแนวยาว การก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์สภาพถนนมืดทึบไม่มีแสงไฟส่องสว่าง เจ้าหน้าที่ตรวจสอบริมถนนพบรถยนต์กระบะมิตซูบิชิไทรทัน สีบรอนซ์ตอนเดียวแบบยกสูง ทะเบียน บย 3097 ชุมพร สภาพพังเสียหายกระจกประตูด้านขวาและกระจกหลังแตกละเอียดจนหลุดหายไปทั้งแผ่น ห่างออกไปบนถนนช่องทางเลนซ้ายพบศพทราบชื่อ นางชลี อายุ 48 ปี สภาพศพคอหักกะโหลกยุบมีแผลฉกรรจ์ตามหลายจุด ในตัวมีทรัพย์สินสร้อยคอทองคำ แหวนทองคำ สร้อยข้อมือ และในรถยนต์มีกระเป๋าเงินสดอีกจำนวนหนึ่งรวมทรัพย์สินนับแสนบาทเจ้าหน้าที่จึงถ่ายภาพและเก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อคืนให้ญาติ

นอกจากนั้นยังมีผู้บาดเจ็บสาหัสอีก 1 ราย กระเด็นออกมานอกตัวรถอยู่ใกล้กับจุดพบศพ หน่วยกู้ชีพรถพยาบาลฉุกเฉินนำส่งโรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ไปก่อนแล้ว ทราบชื่อคือ นายอนุชาติ อายุ 25 ปี กะโหลกร้าวเลือดออกทางปากจมูกอาการหนักขั้นโคม่าเป็นตายเท่ากัน เป็นคนขับรถคันเกิดเหตุและเป็นลูกชายของนางชลีผู้ตาย บริเวณจุดเกิดเหตุตั้งแต่ปลายโค้งอันตรายมาจนถึงจุดพบศพเป็นระยะทางประมาณ 100 เมตร มีพืชผักผลไม้เนื้อไก่และสินค้าอุปโภคบริโภคหล่นกระจายเกลื่อนจำนวนมาก

เจ้าหน้าที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุเป็นช่วงที่มีหมอกลงหนาทึบแทบมองไม่เห็นเส้นทาง และถนนกำลังอยู่ระหว่างขยายเป็นสี่เลนใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้วยังไม่มีการตีเส้นจราจร เกาะกลางถนนถมเป็นเนินดินสูงยังไม่เสร็จเรียบร้อย สภาพถนนมืดทึบไม่มีไฟส่องสว่าง พบว่ารถคันเกิดเหตุได้เสียหลักหลุดโค้งลงไปข้างทางแล้วหมุนเคว้งชนกับกองหน่อพันธุ์มะพร้าวน้ำหอมมากกว่า 300 หน่อ พังราบเสียหายทั้งหมด และกระถางต้นไม้ดอกไม้ประดับแตกเสียหายอีกจำนวนหนึ่ง แล้วรถคันเกิดเหตุยังหมุนไปชนกระแทกกับรถยนต์กระบะโตโยต้าไทเกอร์ตอนครึ่งสีน้ำเงิน ทะเบียน บฉ 6765 ชุมพร พังเสียหายอีก 1 คัน ซึ่งเป็นรถยนต์ของนายวิสิทธิ์ อายุ 78 ปี เจ้าของบ้านที่จอดไว้หน้าบ้านใกล้จุดเกิดเหตุ

จากการสอบสวนทราบว่า นางชลี ผู้ตายเป็นคนมีฐานะดีและเป็นเจ้าของกิจการร้านจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคพืชผักผลไม้ อาหารสด ทั้งขายปลีกและขายส่งเป็นร้านใหญ่สุดอยู่ในอำเภอกระบุรี จ.ระนอง เป็นอำเภอเขตติดต่อกับ อ.เมืองชุมพร ก่อนเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณตี 3 นางชลีได้ให้นายอนุชาติขับรถคันดังกล่าวพามาซื้อสินค้าที่ตลาดกลางขายส่งในตัวเมืองชุมพรเพื่อนำไปขายที่ร้าน กระทั้งขากลับได้บรรทุกสินค้ามาเต็มกระบะหลังระหว่างทางซึ่งเป็นป่าเขามีหมอกลงหนาทึบแทบมองไม่เห็นเส้นทาง ประกอบกับถนนกำลังอยู่ระหว่างขยายช่องทางเป็นสี่เลนยังไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์ ยังไม่มีการตีเส้นจราจรขอบถนนและเส้นขาวแบ่งช่องทาง ไม่มีไฟฟ้าส่องสว่าง ถนนมืดสนิท

เบื้องต้นสันนิษฐานว่าคนขับอาจจะขับรถมาด้วยความเร็วจนรถเสียหลักหลุดโค้ง หรืออาจจะหลับในจนทำให้เกิดอุบัติเหตุรถแหกโค้งดังกล่าวขึ้น และนายอนุชาติคนขับกับนางชลีผู้ตาย 2 แม่ลูกไม่ได้คาดเข็มขับนิรภัยซึ่งรถได้เสียหลักหมุนหลายรอบจึงถูกแรงเหวี่ยงกระแทกกระจกข้างประตูจนแตกละเอียดทำให้ร่างทั้ง 2 คนกระเด็นออกจากตัวรถตกลงบนถนนจนเสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้รวบรวมพยานแวดล้อมและหลักฐานอื่นๆเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป