หวิดวางมวยในวัด "หมอสมาน" มือปราบแอลกอฮอล์ บุกตรวจลานเบียร์แต่ดันเจอตอ

หวิดวางมวยในวัด "หมอสมาน" มือปราบแอลกอฮอล์ บุกตรวจลานเบียร์แต่ดันเจอตอ

หวิดวางมวยในวัด "หมอสมาน" มือปราบแอลกอฮอล์ บุกตรวจลานเบียร์แต่ดันเจอตอ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(7 ก.พ.62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่หน้าเฟชบุ๊กส่วนตัวของ นายแพทย์สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 จังหวัดราชบุรี หรือ หมอสมาน ฉายามือปราบแอลกอฮอล์ ได้มีการเผยแพร่คลิปและภาพวินาทีขณะเข้าตรวจสอบภายในงานปิดทองฝังลูกนิมิต วัดแห่งหนึ่งในอำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี จากการร้องเรียนของประชาชนที่เข้าไปเที่ยวภายในงานและได้มีการเก็บภาพถ่ายขณะที่มีการเปิดลานเบียร์สดยี่ห้อดังแห่งหนึ่งอย่างโจ๋งครึ่ม แม้ด้านหลังจะเห็นอุโบสถ์ก็ตาม

โดยเหตุการณ์ภายในคลิปเป็นจังหวะที่ หมอสมาน กำลังพูดคุยกับทางเจ้าอาวาสวัดดังกล่าว และมีชายคนหนึ่งเข้ามาขอแผ่นกระดาษที่ระบุรายละเอียดว่า “รายละเอียดข้อตกลงงานปิดทองตรงตรุษจีน 2 – 10 – 62 ข้อตกลง 1. ฝ่าย....(ชื่อผู้ลงทุน).....ผู้ลงทุนเองทั้งหมดกำไรแบ่งวัด 30-70 ทุกอย่างเข้ากองกลางทั้งหมดกองบุญกระเบื้องทางวัดเก็บไม่ต้องแบ่ง 2. ทางวัดโดย....(ชื่อเจ้าอาวาส).....อำนวยเรื่องสถานที่และพระบุคลากรช่วยวันงานและให้....(ชื่อผู้ลงทุน)....บริหารจัดการทั้งหมดและขอกรมทางหลวงและประสานไฟฟ้าภูมิภาคให้วิชัยจ่ายเอง 3.ทางวัดให้....(ชื่อผู้ลงทุน)....เก็บทุนคืน 3 ล้าน 5 แสนขึ้นเสร็จส่วนกำไรแบ่งจ่ายทุกคืนกว่าจะเสร็จงาน 2 ถึง 10 ก.พ.62 หมายเหตุ ผู้ลงทุน ลงชื่อ.....ผู้ให้ใช้สถานที่ลงชื่อ.... เจ้าอาวาส อำนวยความสะดวก ลงชื่อ....”

โดยทางหมอสมานได้ขอคืน แต่ชายคนดังกล่าวกลับตอบว่า “ท่านถ่ายไว้แล้วจะเอาไปไหน” ซึ่งทางหมอสมานบอกว่าขอไว้ก่อนเพราะกำลังคุยกับท่านอยู่ จากนั้นชายคนดังกล่าวกลับโต้ตอบว่า “ท่านจะทำไมผม มันไม่ใช่หน้าที่ท่าน” และมีเสียงชายอีกคนพูดแทรกมาว่า “เอ๊ะ ท่านมาตรวจเกี่ยวกับเรื่องสุราไม่เกี่ยวกันเลย” จากนั้นชายคนที่แย่งกระดาษไปกล่าวกลับหมอสมานว่า "ท่านมาตรวจเรื่องอะไร" และมีการไปกระชากมือของหมอสมาน จนทำให้เจ้าหน้าที่ของอำเภอต้องลุกขึ้นห้าม ชายคนดังกล่าวก็กลับพูดใส่หมอสมานว่า “คุยกันดีๆ ไม่รู้เรื่องหรอก” จากนั้นชายอีกคนได้เข้าทำร้ายช่างภาพของทีมหมอสมานและพูดออกมาว่า “ถ่ายอะไรนักหนาวะ” เจ้าหน้าที่ทั้งฝ่ายปกครองและทหารต้องเข้าระงับเหตุ และมีเสียงออกมาว่า “นี่ในวัดนะเว้ยมึงยกมือไหว้พระทำไมเว้ยไอ้สั... ไปมึงออกไปข้างนอก”

โดยเรื่องนี้หมอสมานได้โพสต์ระบุข้อความผ่านหน้าเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “ขอบพระคุณท่านผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรีที่ได้สั่งการอย่างเฉียบขาดให้ดำเนินคดีฐานทำร้ายเจ้าพนักงานด้วย โดยให้ดำเนินคดีอย่างเฉียบขาดและเอาผิดจนถึงที่สุดต่อไป และขอชื่นชมด้วยหัวใจสำหรับคุณฉัตรเพชร ราชมณี พนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งถูกทำร้ายขณะปฏิบัติหน้าที่ถ่ายวีดีโอบันทึกการเข้าตรวจสอบของพวกเราที่กำลังทำหน้าที่ในฐานะเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา โดยได้อดทนอดกลั้นถูกทำร้ายแต่ฝ่ายเดียว และเอาตัวน้อยๆปกป้องทรัพย์สินราชการ (กล้องถ่ายวีดีโอ) โดยไม่ได้โต้ตอบใดๆ กลับคืนแก่ผู้ที่ทำร้ายตนเองเลย”

ทั้งนี้หลังเกิดเหตุ นายแพทย์สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 จังหวัดราชบุรี ได้รายงานไปยังนายชยาวุธ จันทร (จัน-ทอน) ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี โดยที่นายชยาวุธ ได้สั่งการว่า “ให้แจ้งความดำเนินคดีฐานทำร้ายเจ้าพนักงานด้วย เอาจนถึงที่สุดครับ ผมบอก นอภ.จอมบึงแล้วให้อำนวยความสะดวกการแจ้งความและหาตัวคนทำผิดด้วยท่านประสานกะ นอภ. ประยงค์เลยนะ” โดยหลังจากนี้ทาง นายแพทย์สมาน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จะได้เข้าแจ้งความร้องทุกกล่าวโทษอย่างถึงที่สุดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอจอมบึงต่อไป

หมอสมาน กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวสืบเนื่องจาก ที่สำนักงานป้องกันควบคุมโรค ที่ 5 ได้รับการร้องเรียนการกระทำผิดเรื่อง “การเปิดลานเบียร์ในงานวัด” พร้อมรูปถ่ายที่ได้ระบุสถานที่และพิกัดอย่างชัดเจน จึงได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบตามหน้าที่ พบว่ามีการกระทำที่เข้าข่ายผิดกฎหมายจริง คือการขายเบียร์โดยไม่มีใบอนุญาตจำหน่ายสุรามาแสดงที่จุดขาย การโฆษณาที่หมายความรวมถึงจัดกิจกรรมสื่อสารการตลาด โดยพบสื่อหลากหลายรูปแบบ ทั้งนี้ขณะเข้าตรวจสอบทางเจ้าหน้าที่ได้ถูกชกต่อยทำร้ายร่างกายอันถือเป็นการต่อสู้ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ซึ่งได้มีการแสดงตัวอย่างเปิดเผยชัดเจนและปฏิบัติหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมาย แต่ภายหลังทางผู้รับชอบงานยอมรับว่าไม่มีการขออนุญาตจำหน่ายสุราและรับปากต่อหน้าพนักงานเจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจ ทหาร ปกครองสาธารณสุข รวมถึงต่อหน้าพระว่าจะหยุดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไปตลอดทั้งงาน การกระทำที่ผิดฐานขายเถื่อน (ไม่มีใบอนุญาต) ที่ผ่านมา 4 วันก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมายบ้านเมืองต่อไป แต่ที่หยุดการจัดกิจกรรมสื่อสารการตลาดอันเข้าข่ายโฆษณานี้ โทษปรับรายวันสูงสุดวันละ 5 หมื่นบาทก็จะหยุดไปด้วย อันจะเป็นผลดีต่อผู้กระทำผิดเอง

เรื่องนี้ทางสำนักงานป้องกันควบคุมโรค จะเข้ากราบนมัสการท่านเจ้าคณะจังหวัด เพื่อชี้แจงและขอความเมตตาให้ท่านสั่งการให้เกิดนโยบายคุณธรรมสาธารณะ “งานวัดปลอดอบายมุขและเครื่องดื่มมึนเมา” ต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook