“ปิดจ๊อบ” ตามรวบหนุ่มลำปางคารถเก๋ง เปิดม่านรูดลักทีวี-ตู้เย็นจำนำซื้อยาบ้าเสพ

(6 ก.พ. 62)  พล.ต.ต.วีรชน  บุญทวี  รักษาราชการ แทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง พร้อมด้วย พ.ต.อ.โสภณ ผลกันทา  ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธร สภ.เขลางค์นคร  นำกำลังตำรวจชุดสืบสวนในพื้นที่ร่วมกันแถลงข่าว 

หลังจากทางตำรวจชุดสืบสวน สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาคดีสำคัญ คือ นายชุติเดช หรือเบญ อายุ 33 ปี  ภูมิลำเนาในพื้นที่ตำบลบ้านเอื้อม  อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง  

หลังจากช่วงที่ผ่านมาในช่วงประมาณวันที่ 29 มกราคม ถึง 4 กุมภาพันธ์ 2562 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่า  มีเหตุคนร้ายออกตระเวนลักทรัพย์ ในโรงแรมม่านรูดต่างๆ ในพื้นที่เขตอำเภอเมือง จังหวัดลำปาง

โดยพฤติกรรมคนร้ายได้ขโมยทีวีและตู้เย็นต่างๆ ตามโรงแรมม่านรูดออกไปเป็นจำนวนมาก ประมาณ 3 โรงแรม โดยเจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบ  พบภาพกล้องวงจรปิดทราบว่า  มีรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ นิสสัน อัลเมร่า สีดำ ใส่แผ่นป้ายทะเบียนปลอม เป็นป้ายทะเบียนต่างๆ ของ จ.ลำปาง หลังได้ไปก่อเหตุเข้าไปขโมยทีวี และตู้เย็น ตามโรงแรมม่านรูดต่างๆ มีทรัพย์สินเสียหายและสูญหายไปหลายโรงแรม        

จนกระทั่งเจ้าที่ตำรวจจึงออกตรวจ และหาเบาะแสรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวในพื้นที่ ปรากฎว่า พบรถลักษณะคล้ายกันกำลังขับผ่านอยู่ในถนนหมู่บ้านเหล่าบุญเกิด ตำบลพระบาท อำเภอเมืองลำปาง จึงเข้าขอทำการตรวจค้นภายในรถ ปรากฎว่า ไปพบสิ่งของที่อยู่ในรถเป็นจำนวนมาก ที่เป็นอุปกรณ์งัดแงะ มีคีมตัดเหล็ก ไขควง เป็นต้น

โดยพบคนขับรถ คือ นายชุติเดช ซึ่งมีอาการวิตกกังวลและมีพิรุธ มีอาการสั่นไปมา  ตรวจสอบในรถ พบอุปกรณ์คีมตัดเหล็กและคีมไขควงเป็นจำนวนมาก  เจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปสอบสวน และเค้นหาความจริง โดยผู้ต้องหารายนี้ก็ยอมรับสารภาพว่า เข้าไปก่อเหตุตามโรงแรมม่านรูดต่างๆ ในเขตพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง จริง

โดยคนร้ายรายนี้ เข้าไปขโมยทีวี และ ตู้เย็น รวมไปถึงถ้วยชาม ถ้วยก๋วยเตี๋ยว หม้อหุงข้าว พอได้ทรัพย์สินแล้ว นำเอาไปขายที่โรงรับจำนำแห่งหนึ่งในเขตตัวเมืองลำปาง และได้เงินมาทั้งหมด จะนำเงินไปซื้อยาบ้าและยาไอซ์มาเสพ              

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตรวจค้นภายในรถ ยังพบยาไอซ์ บรรจุถุงพลาสติกสีใส น้ำหนักประมาณ 1 กรัม และยาบ้าอีกจำนวน 2 เม็ดและอุปกรณ์การเสพยาบ้าและยาไอซ์อีกจำนวนหนึ่ง

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำตัวคนร้ายรายนี้ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เขลางค์นคร เพื่อดำเนินคดีในข้อหา “มียาเสพติดไว้ในครอบครอง” และในข้อหา “ลักทรัพย์ในยามวิกาลโดยใช้ยานพาหนะ” และได้ส่งตัวผู้ต้องหารายนี้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป