พระโฉ่เริงทะเล อาบแดด นอนหาด-พายคายัค

ผงะ!พระพัก ร้อน อาบแดด-พายเรือคายัคท่องทะเล เผยฟอร์เวิร์ดเมล์กระหึ่มเมือง เปิดโปงพฤติกรรมพระภิกษุกลุ่มหนึ่งไปเปิดบังกะโลพักร้อนกันโจ๋งครึ่มที่เกาะ หวาย-ตราด มีคนบังเอิญไปเจอเข้าเลยเก็บภาพมาแพร่ในเน็ตให้คนดูพิจารณาว่าเหมาะสมหรือ เปล่า มีหลายอิริยาบถทั้งสวมเสื้อชูชีพเดินริมทะเล พายเรือคายัค นอนอาบแดดริมหาด สำนักพุทธฯชี้พระไปเที่ยวทะเลพักร้อนไม่เหมาะสม ไม่ใช่กิจของสงฆ์ เพราะรีสอร์ตเป็นที่อโคจร ยิ่งลงเล่นน้ำทะเลยิ่งไม่สมควร โฆษกมหาเถรฯชี้ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง แต่โทษไม่ร้ายแรง ต้องให้เจ้าคณะผู้ปกครองตักเตือน

เมื่อวันที่ 27 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการส่งฟอร์เวิร์ดเมล์ถึงพฤติกรรมไม่เหมาะสมของพระภิกษุกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเดินทางไปตากอากาศที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งใน จ.ตราด โดยฟอร์เวิร์ดเมล์ดังกล่าวระบุหัวเรื่องว่า "พระพักร้อน ณ เกาะหวายปะการัง รีสอร์ต" เมื่อเปิดดูก็พบรูปถ่ายจำนวน 5 รูป โดยรูปแรกเป็นภาพพระภิกษุรูปหนึ่งเดินอยู่หน้าบังกะโล 3 หลัง โดยที่ระเบียงบังกะโลทั้ง 3 หลังมีจีวรตากอยู่เต็มไปหมด รูปที่ 2 เป็นพระภิกษุอีกรูปกำลังยืนตากลมอยู่ที่ระเบียงบังกะโล

รูปที่ 3 เป็นพระภิกษุสวมเสื้อชูชีพเดินอยู่บนชายหาด รูปที่ 4 เป็นพระภิกษุ 2 รูปเตรียมจะพายเรือคายัคเล่นในทะเล และรูปสุดท้ายเป็นพระภิกษุ 3-4 รูปกำลังนอนอาบแดดริมชายหาด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ที่ถ่ายภาพพระภิกษุที่เกาะหวายปะการัง รีสอร์ต ระบุว่าได้บันทึกภาพไว้เมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยผู้ถ่ายระบุว่าเดินทางไปเที่ยวเกาะช้าง จ.ตราด และมีโอกาสนั่งเรือไปดำน้ำดูปะการังน้ำตื้นที่เกาะหวาย แต่พอไปถึงเกาะหวายก็ต้องตกตะลึง พบกลุ่มพระภิกษุกำลังพักผ่อนกันอยู่ที่รีสอร์ตดังกล่าว จึงถ่ายภาพเก็บไว้ให้พิจารณากันว่าเหมาะสมหรือไม่

นอกจากนี้ ผู้ที่ฟอร์เวิร์ดเมล์ยังระบุอีกว่า "ท่านๆ เค้าคงเครียดกันมา 1 ปี คงจะมีการมาพักร้อน 1 ครั้ง โปรดดูและพิจารณากันเองว่าสมควรหรือไม่"

สำหรับ เกาะหวายอยู่ทางใต้ของเกาะช้าง ใกล้กับเกาะเหลายา ใช้เวลาเดินทางจากแหลมงอบประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง แนวชายหาดสวยงาม มีแนวปะการังขนาดใหญ่และสมบูรณ์ ส่วนเกาะหวายปะการัง รีสอร์ต ตั้งอยู่ริมหาดบนเกาะหวาย มีบังกะโลและห้องพักที่เป็นส่วนตัวทั้งหมด 31 ห้อง เป็นห้องแอร์หรือพัดลม มีห้องน้ำในตัว มีมุ้ง และตู้เสื้อผ้ากับโต๊ะเครื่องแป้ง มีไฟฟ้าและน้ำจืดสะอาดบริการตลอด 24 ชั่วโมง

วันเดียวกัน นายอำนาจ บัวศิริ ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า การที่พระสงฆ์เดินทางไปต่างจังหวัดเพื่อประกอบกิจกรรมทางศาสนาถือว่าไม่ผิด แต่หากพักผ่อน ไปตากอากาศแบบฆราวาสถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะถือว่าไม่ใช่กิจของสงฆ์ และเป็นกิริยาที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง เนื่องจากสถานที่ตากอากาศจัดเป็นสถานที่อโคจรสำหรับพระสงฆ์ ขณะที่การลงเล่นน้ำทะเลก็เป็นเรื่องที่ไม่สมควรอยู่แล้ว เพราะแม้แต่พระเวลาอาบน้ำยังต้องตักอาบ ฝักบัวยังใช้ไม่ได้เลย แต่หากเป็นสามเณรก็จะมีการอนุโลม เพราะเห็นว่าเป็นเด็กอยู่ เวลาที่สำนักงาน พศ.มีการจัดสัมมนาพระสงฆ์ที่วัดติดทะเล ก็จะมีการกำชับอยู่ตลอดเวลา ตนสันนิษฐานว่ารูปพระสงฆ์จากฟอร์เวิร์ดเมล์นี้ ไม่น่าจะเป็นพระสงฆ์ใน จ.ตราด เพราะพระสงฆ์ที่ จ.ตราด น่าจะเห็นทะเลบ่อยแล้ว จึงคิดว่าอาจจะเป็นพระสงฆ์จากภาคอื่น

"จะต้อง ดูด้วยว่าพระสงฆ์กลุ่มดังกล่าวน่าเป็นพระบวชใหม่ เพราะหากเป็นพระบวชใหม่อาจจะไม่รู้ว่าสมควรหรือไม่สมควร หรือบางทีอาจจะเป็นญาติโยมพาไปเที่ยว เพราะในช่วงที่ผมบวชที่วัดสระเกศ ก็เคยมีญาติโยมนิมนต์ไปทะเล แต่ก็ไม่กล้าลงไป เลยต้องนั่งอยู่ในรถอย่างเดียว สำหรับเรื่องโทษนั้นไม่ร้ายแรง แต่จะต้องให้เจ้าคณะผู้ปกครองเรียกไปว่ากล่าวตักเตือน หากยังไม่เชื่อฟังก็ต้องขับออกจากวัด" นายอำนาจกล่าว

นายอำนาจกล่าว อีกว่า ผมกำลังติดตามเมล์ดังกล่าวอยู่ อยากดูว่าภาพดังกล่าวเป็นอย่างไร เพราะถ้าภาพดังกล่าวถูกเปิดเผยออกไปถือว่าไม่เหมาะสม เพราะถือเป็นกิจกรรมของฆราวาส ทางพุทธศาสนาเรียกว่าโลกติเตียน เมื่อคนธรรมดาเห็นแล้วเชื่อว่ายอมรับไม่ได้ สังคมจะติเตียน เพราะไม่ใช่กิจของสงฆ์ แต่ความผิดดังกล่าวเป็นเพียงความผิดขั้นเบาไม่ถึงกับต้องสึกออกจากความเป็น พระ อย่างไรก็ตาม หากพระผู้ใหญ่เห็นเข้าคงไม่สบายใจเท่าไหร่ ทั้งนี้ เชื่อว่าหากภาพถูกเผยแพร่ออกไปพระที่อยู่ด้วยกันเห็นคงจำได้ว่าเป็นใคร พระรูปวัดนั้นคงว่ากล่าวตักเตือนกัน

ด้านพระธรรมกิตติเมธี โฆษกมหาเถรสมาคม (มส.) กล่าวว่า การที่พระสงฆ์ไปทะเลถ้าไปในลักษณะการทัศนศึกษาก็สามารถทำได้ แต่ถ้าถึงขั้นลงไปเล่นน้ำทะเลถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม ส่วนแนวทางในการลงโทษต้องยอมรับว่าหากมีพระสงฆ์ที่มีพฤติกรรมตามรูปดังกล่าว จะมีโทษก็คงไม่หนัก แต่เจ้าคณะผู้ปกครองก็ควรที่จะต้องเรียกไปว่ากล่าวตักเตือน เพราะถือว่ามีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ทำให้โลกติเตียนพระได้