จี้ร้าน108 แคชเชียร์มีดไล่ฟันหนีกระเจิง

จี้ร้าน108 แคชเชียร์มีดไล่ฟันหนีกระเจิง

จี้ร้าน108 แคชเชียร์มีดไล่ฟันหนีกระเจิง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โจรควงปืนปลอมบุกเดี่ยวจี้ร้าน 108 SHOP ย่านรามคำแหง สาวแคชเชียร์ฮึดสู้คว้ามีดดาบไล่ฟันก่อนคนร้ายถอดใจ สู้ไม่ไหวคว้าตู้บริจาคมีเงินกว่า 1 พันขึ้นรถกระบะซิ่งหนี เผยเคยเข้ามาก่อเหตุแล้ว 2 ครั้ง ตร.ตรวจภาพวงจรปิดประสานสายสืบไล่ล่า ระบุสาวแคชเชียร์เรียนรามฯ ปี 3 เอกภาษาอังกฤษทำงานล่วงเวลาเพื่อหาเงินเรียน

เหตุการณ์คนร้ายใช้ปืนปลอมบุกจี้ชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อย่านรามคำแหงถูกเปิดเผยเมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 28 พฤษภาคม ร.ต.อ.วินัย สุโขพืช ร้อยเวร สน.หัวหมาก รับแจ้งเหตุจี้ชิงทรัพย์ร้าน 108 SHOP สาขารามคำแหง 60 ชั้นล่างอาคารพฤกษาแมนชั่น เลขที่ 305/1 ปากซอยรามคำแหง 60 แยก 6 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมกับ พ.ต.ท.พิพัฒน์ เต็งถาวร สว.สส.สน.หัวหมาก และเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สน.หัวหมาก

ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบ น.ส.อัญชลี แสงพิทยา อายุ 27 ปี แคชเชียร์ของร้านดังกล่าวยืนรอให้การด้วยอาการตื่นตระหนก เบื้องต้นเจ้าตัวให้การว่า ขณะเกิดเหตุเวลาประมาณ 13.15 น. มีคนร้ายเป็นชาย สูงประมาณ 180 ซม. ผิวคล้ำ สวมเสื้อทีมฟุตบอลของอินเตอร์มิลาน ลายทางน้ำเงินดำ ข้างหลังสกรีนหมายเลข 1 นุ่งกางเกงขาสามส่วนสีดำ สวมรองเท้าผ้าใบสีดำ เดินเข้ามาในร้านทำทีซื้อน้ำอัดลมขวดหนึ่ง โดยตนสแกนและเก็บเงินเข้าลิ้นชักเรียบร้อย หลังจากนั้นเขาก็ชักปืนสีดำขึ้นมาขู่ว่า "ไม่อยากฆ่าใคร กำลังตกงานอยู่ เอาเงินมาให้หมด" พร้อมกับหยิบเอาสินค้าตัวอื่นๆ ที่อยู่บนเคาน์เตอร์ มาให้ตนสแกนเพื่อจะได้เปิดลิ้นชักเก็บเงินได้

"ช่วงนั้นรู้สึกตกใจ แต่พยายามตั้งสติ คนร้ายพยายามใช้อาวุธปืนข่มขู่ว่าจะยิงอยู่หลายครั้ง และบอกให้ส่งเงินมาให้ หากไม่ส่งมาให้จะยิง แต่ก็ไม่ยิงสักที จนสังเกตได้ว่าเป็นปืนปลอม จึงตัดสินใจคว้ามีดดาบที่วางใต้โต๊ะเก็บเงินฟันคนร้าย แต่คนร้ายก็ใช้ร่มบัง จนเกิดต่อสู้กันสักพัก ฉันก็พยายามที่จะออกจากโต๊ะเคาน์เตอร์เพื่อร้องขอความช่วยเหลือ เนื่องจากตอนนั้นทำงานอยู่ในหน้าร้านเพียงคนเดียว เมื่อคนร้ายเห็นดังนั้นก็รีบคว้าตู้บริจาคเงินมูลนิธิสันติสุขที่ตั้งอยู่บนเคาน์เตอร์วิ่งหลบหนีไป มีชาวบ้านเห็นว่าคนร้ายวิ่งขึ้นรถกระบะยี่ห้อเชฟโรเลต สีดำ จำหมายเลขทะเบียนได้แค่ 939 ส่วนหมวดอักษรกับจังหวัดไม่ทันสังเกต แล้วขับออกไปทางซอยรามคำแหง 60 แยก 6 อย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงรีบแจ้งตำรวจ" น.ส.อัญชลี กล่าว

น.ส.อัญชลี กล่าวอีกว่า ทำงานหาเงินไปเรียนหนังสือ ปัจจุบันศึกษาอยู่คณะมนุษยศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ ชั้นปีที่ 3 มหาวิทยาลัยรามคำแหง ทำงานที่ร้านแห่งนี้มาได้ประมาณ 1 ปีแล้ว เหตุการณ์คนร้ายเข้ามาจี้ชิงทรัพย์เกิดขึ้นมาแล้ว 3 ครั้ง เจ้าหน้าที่สามารถจับคนร้ายได้ครั้งเดียว ส่วนครั้งที่ 2 และ 3 เป็นคนร้ายคนเดียวกันก็อยากจะให้เจ้าหน้าที่ติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้เพราะจะได้ไม่ต้องไปก่อเหตุที่ร้านอื่นอีก อย่างไรก็ตามหลังจากเกิดเหตุการณ์ขึ้นก็รู้สึกไม่สบายใจเพราะเกรงว่าพ่อกับแม่ที่อยู่ต่างจังหวัดจะเป็นห่วงและไม่อยากให้ทำงานอีก เพราะท่านกลัวว่าจะเป็นอันตราย

หลังเกิดเหตุ น.ส.นงคราญ นุตะภิบาล อายุ 22 ปี เพื่อนพนักงานประจำร้านดังกล่าว ได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิด พร้อมยืนยันว่าเป็นคนร้ายคนเดียวกันกับที่เคยก่อเหตุลักษณะเดียวนี้ในร้านเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม เวลา 23.00 น. และก่อนหน้านี้ก็เคยมีคนร้ายมาก่อเหตุชิงทรัพย์ในร้านแล้ว 2 ครั้ง ซึ่งครั้งแรกสามารถจับคนร้ายได้ ส่วนครั้งที่สองและที่สามเป็นฝีมือของคนร้ายคนเดียวกัน อย่างไรก็ตามหลังจากที่ร้านดังกล่าวถูกคนร้ายชิงทรัพย์หลายครั้ง ทำให้ทางร้านมีการระมัดระวังตัว พร้อมกับมีการนำมีดดาบวางไว้ใต้โต๊ะเก็บเงินเพื่อใช้ป้องกันตัว

ด้าน ร.ต.อ.วินัย กล่าวว่า จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า ในระหว่างที่เกิดเหตุนั้นมีพนักงานอยู่หน้าร้านเพียงคนเดียว ส่วนคนร้ายนำตู้บริจาคหลบหนีไป โดยใช้รถกระบะสีดำเป็นยานพาหนะในการหลบหนี ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็จะตรวจสอบรถคันดังกล่าวว่าเป็นของใคร ส่วนตู้บริจาคที่คนร้ายเอาไปทราบว่ามีเงินอยู่ในตู้บริจาคประมาณพันกว่าบาท อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบกล้องวงจรของร้านแล้ว พบรูปพรรณสัณฐานของคนร้ายอย่างชัดเจน

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งวิทยุทำการสกัดจับรถกระบะคันดังกล่าวแล้วแต่ยังไร้วี่แวว เจ้าหน้าที่คาดว่าคนร้ายน่าจะมาดูลาดเลาก่อนแล้ว จากนั้นจึงขับรถมาจอดไว้ที่ซอยรามคำแหง 60 แยก 6 ก่อนจะลงมือก่อเหตุ โดยหลังจากนี้จะเก็บร่มที่คนร้ายทิ้งเอาไว้ไปตรวจสอบลายนิ้วมือแฝง เพื่อเป็นแนวทางในการติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้ต่อไป

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook