สรุปข่าวเด่นรอบสัปดาห์ ประจำวันที่ 3-9 ก.พ. 62
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวคราวที่น่าสนใจมากมาย หากใครพลาดการติดตามไปบ้าง วันนี้ sanook.com รวบรวมข่าวเด่นข่าวเด็ดมาให้ติดตามกันตรงนี้แล้ว ไปดูกันเลยดีกว่าว่าจะมีเรื่องราวอะไรบ้าง
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชโองการ "สถาบันกษัตริย์" อยู่เหนือการเมือง
เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 8 ก.พ. เวลาราว 22.40 น. โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย (ทรท.) เผยแพร่พระราชโองการ ประกาศ สถาบันพระมหากษัตริย์ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย โดยมีใจความสำคัญว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร โปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า สถาบันกษัตริย์ไทยเป็นศูนย์รวมและเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชนชาวไทย พระมหากษัตริย์และพระบรมราชวงศ์ทุกพระองค์ทรงดำรงสถานะอยู่เหนือการเมือง และทรงประกอบพระราชกรณียกิจเพื่อประเทศชาติและประชาชนมาโดยตลอด ดังนั้นการนำสมาชิกชั้นสูงในพระบรมราชวงศ์มาเกี่ยวข้องกับระบบการเมือง ไม่ว่าจะโดยทางใดก็ตาม จึงเป็นการกระทำที่ขัดต่อโบราณราชประเพณี ขนบธรรมเนียม และวัฒนธรรมของชาติ ถือเป็นการกระทำที่มิบังควร ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง โดยพระราชโองการฉบับประวัติศาสตร์ดังกล่าวได้รับการเผยแพร่หลังจากเมื่อช่วงเช้าของวันเดียวกัน ตัวแทนพรรคไทยรักษาชาติเข้ายื่นเสนอชื่อทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในบัญชีของพรรคต่อ กกต.
ทูลกระหม่อมฯ โพสต์ขอบคุณชาวไทยอีกครั้ง หลังมีพระราชโองการ
ช่วงเช้าของวันเสาร์ที่ 9 ก.พ. ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ ทรงโพสต์ภาพและข้อความผ่านบัญชีอินสตาแกรมส่วนพระองค์ @nichax โดยมีเนื้อหาสรุปได้ว่า ขอขอบคุณในความรักและน้ำใจที่คนไทยทุกคนมีให้ พร้อมทรงย้ำว่าอยากเห็นประเทศไทยเดินไปข้างหน้า และคนไทยทุกคนมีความกินดีอยู่ดี รวมทั้งความสุขทั่วถึงกัน อย่างไรก็ตามก่อนหน้านั้นเมื่อเวลา 15.54 น. ของวันที่ 8 ก.พ. หลังจากพรรคไทยรักษาชาติเสนอพระนามของพระองค์เป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ ทรงโพสต์ภาพและข้อความผ่านบัญชีอินสตาแกรมส่วนพระองค์ ที่สรุปได้ว่า ทรงซาบซึ้งที่ได้รับกำลังใจและการสนับสนุน พร้อมกับชี้แจงว่าได้ลาออกจากฐานันดรศักดิ์แห่งพระราชวงศ์ และอยู่ในฐานะสามัญชนแล้ว จึงขอใช้สิทธิและเสรีภาพอย่างสามัญชนภายใต้รัฐธรรมนูญ ด้วยการยินยอมให้พรรคไทยรักษาชาติใช้ชื่อเพื่อเสนอตัวเป็นนายกรัฐมนตรี
ไม่อยากปิดแล้ว "แจ๊ส ชวนชื่น" บอกความจริงที่อึดอัดใจมานาน "ผมมีลูก 4 คนครับ"
เซอร์ไพรส์แฟนคลับมากหลังจากที่ แจ๊ส ชวนชื่น ได้โพสต์เรื่องราวครอบครัวโดยบอกว่าแท้จริงแล้วตนเองมีลูก 4 คน แต่ส่วนใหญ่ทุกคนจะรู้จักแค่ น้องแตงไทย ที่ออกสื่อกันบ่อยๆ เท่านั้น พร้อมกับบอกว่าเป็นสิ่งที่อัดอั้นใจมานานมากจึงอยากขอปลดล็อกตัวเองในครั้งนี้ โดยเรื่องดังกล่าว แจ๊ส ได้เปิดเผยผ่านบัญชีอินสตาแกรมของตนเอง และระบุว่าหากทุกคนรักครอบครัวเขาโปรดอย่าไปรื้อประวัติของเด็กๆ อีกเลย โดยตลกชื่อดังอธิบายว่าลูกคนโตชื่อ เจแปน คนรองชื่อ ต้นหลิว คนต่อมาชื่อ แตงโม ส่วนลูกคนเล็กคือ แตงไทย พร้อมย้ำว่าตนสบายใจแล้วที่ได้เปิดเผยความจริง พร้อมกับไม่ต้องการชี้แจงหรือแถลงข่าวใดๆ ในเรื่องนี้
แมวอโศก "ไปสบายแล้ว" คอนเฟิร์ม! หลังยื้อสุดกำลัง แฟนคลับอาลัย ไม่ต้องทรมานอีกแล้ว
เมื่อเวลาราว 19.19 น. ของวันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา เพจ Kingdom Of Tigers: ทูนหัวของบ่าว ยืนยันว่า แมวอโศก ขวัญใจคนรักแมวที่ติดตามเพจนี้ จากโลกนี้ไปแล้ว หลังจากพยายามยื้อชีวิตเอาไว้ ซึ่งก่อนหน้านั้นในวันที่ 6 ก.พ. เพจดังกล่าวถ่ายทอดสดอาการของแมวอโศก ที่แลดูไม่น่าไว้วางใจนัก เพราะมีเลือกไหลกบปาก ท่าทีนิ่งสงบ และหายใจโรยริน จนพระสงฆ์ที่ผู้ดูแลนิมนต์มาสวดทำพิธีให้ คิดว่าแมวตัวนี้เสียชีวิต ก่อนที่จะฟื้นอีกครั้งหนึ่งในเวลาไม่นานหลังจากนั้น เมื่อผู้ดูแลนำมารักษาตัวที่โรงพยาบาล กลับมีสัญญาณบ่งชี้ว่าอาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และแมวอโศกสามารถนั่งได้ แต่ยังเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างเชื่องช้า ก่อนข่าวร้ายที่ไม่มีใครอยากได้ยินจะกลายเป็นความจริงในเวลาต่อมา ด้านผู้ใช้อินเทอร์เน็ตที่ติดตามชีวิตของแมวตัวดังกล่าว ต่างแสดงความอาลัยพร้อมข้อความว่า ขอให้ไปสู่ภพภูมิที่ดี หลายคนมองในแง่บวกว่า หลังจากนี้แมวอโศกจะไม่ต้องทุกข์ทรมานจากโรคที่ตัวเองเผชิญอีกแล้ว
ผัวเมียโวยถูกรางวัล "มัจฉากาชาด" ได้มอเตอร์ไซค์ สุดท้ายมีแค่ถ่ายภาพรับมอบ
สองสามีภรรยาเข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม กรณีที่เจ้าตัวถูกรางวัลมัจฉากาชาดงานฤดูหนาวได้มอเตอร์ไซค์ แต่กลับไม่ได้รับจริง ทั้งที่ถ่ายภาพรับมอบกันไปแล้ว แต่จนถึงวันนี้กลับไม่ได้รับรางวัลตามที่ระบุไว้ แถมทราบว่าทางจังหวัดได้มอบให้กับคนอื่นไปแล้ว โดยทั้งคู่นำภาพถ่ายตอนรับมอบรถจักรยานยนต์บนเวทีงานฤดูหนาวประจำปี 2562 มายืนยันเป็นหลักฐาน แต่หลังจากนั้นกลับมีเจ้าหน้าที่มาบอกว่าเป็นการเข้าใจผิด ตนไม่ได้รับรางวัลนี้แต่เป็นบุคคลอื่นได้ จึงคิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ตัดสินใจเข้าร้องเรียนและต้องการสอบถามข้อเท็จจริงถึงกรณีดังกล่าว