หนุ่มหายตัวปริศนา พบรองเท้า-รถจอดไว้ริมคลอง ชาวบ้านอ้างมีเสียงร้องดังตอนดึก

หนุ่มหายตัวปริศนา พบรองเท้า-รถจอดไว้ริมคลอง ชาวบ้านอ้างมีเสียงร้องดังตอนดึก

หนุ่มหายตัวปริศนา พบรองเท้า-รถจอดไว้ริมคลอง ชาวบ้านอ้างมีเสียงร้องดังตอนดึก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านออกตามหาชายหนุ่มหายตัวปริศนา พบแต่รถจักรยานยนต์และรองเท้าอยู่ริมคลอง หวั่นเกิดเหตุอันตราย หลังมีคนได้ยินเสียงร้องดังกลางดึก

(11 ก.พ.) ผู้นำท้องถิ่นและชาวบ้านได้ร่วมกันหาผู้สูญหาย บริเวณริมคลอง หมู่ที่ 3 ต.คลองน้อย อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี หลังได้รับแจ้งเหตุคนหายจากชาวบ้าน จึงร่วมกันประสานญาติช่วยกันออกตามหา โดยพบรถจักรยานยนต์และรองเท้าของผู้สูญหาถอดวางอยู่ริมคลอง จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยตรวจสอบที่เกิดเหตุ

จุดเกิดเหตุเป็นลานกว้างเพิ่มดิน ติดริมคลองน้อย พบรองเท้าแตะสีเขียวของผู้สูญหา ถอดวางเอาไว้อยู่ 1 คู่ และห่างออกไป 200 เมตร พบรถจักรยานยนต์ฮอนด้า คลิก สีแดง-ขาว ที่ผู้สูญหายขี่มาจอดอยู่ข้างถนนทางเข้าจุดเกิดเหตุ ส่วนผู้สูญหายทราบชื่อ นายณัฐพงษ์ ลอยเลื่อน อายุ 26 ปี หายออกจากบ้านไปตั้งแต่ช่วงเย็นของวันที่ 10 กุมภาพันธ์ และไม่สามารถติดต่อได้อีก

นายวสันต์ สมสกุล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 ต.คลองน้อย อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า หลังจากรับแจ้งได้ช่วยกันออกตามหาจนมาพบรถและรองเท้าของผู้สูญหาย ตรงจุดเกิดเหตุ เมื่อเวลา 07.30 น. เช้าวันนี้ จากการสอบถามชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง ทราบว่าเมื่อช่วงเวลาประมาณ 03.00 น.ได้ยินเสียงเหมือนมีคนร้องขอความช่วยเหลือ แต่ไม่ทราบว่าเป็นใครเพราะอยู่คนละฝั่งคลอง

จากการสอบถาม นายวรวรรณ อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นญาติคนสนิทและเป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์คันที่ผู้สูญหายนำมาจอดที่เกิดเหตุ เล่าว่า ช่วงบ่ายวานนี้ ผู้สูญหาได้ยืมรถจักรยานยนต์ไป ตนพยายามติดต่อตามเอารถคืนตั้งแต่ช่วงเย็น ลากยาวมาตลอดทั้งคืนก็ไม่สามารถติดต่อกับผู้สูญหายได้ จึงได้ประสานกับทางผู้ใหญ่บ้านช่วยออกตามหา

จนกระทั่งตามรอยมาพบรองเท้าและรถที่ถูกถอดทิ้งเอาไว้ โดยก่อนหน้านี้ผู้สูญหายเคยเล่าให้ฟังว่า เคยมีปัญหากับวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งในพื้นที่ แต่ไม่มีปัญหาในเรื่องส่วนตัว เกรงว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้นกับผู้สูญหายได้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ประสานเจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำเข้าตรวจสอบภายในคลองตรงจุดที่พบรองเท้า เพื่อค้นหาผู้สูญหายอยู่

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook