โจรแสบอ้างเป็นตำรวจตีสนิทชาวบ้าน ทำทีชวนทำบุญก่อนเชิดเงินหายจ้อย

เตือนภัย! โจรแสบอ้างตัวเป็นตำรวจตีสนิทผู้เฒ่าวัย 79 ปี ชวนทำบุญก่อนเชิดเงินครึ่งหมื่นหายจ้อย ญาติทราบเรื่องเร่งประสานแจ้งตำรวจก่อนโพสต์โซเชียลเตือนอย่าทิ้งผู้สูงอายุตามลำพัง

10 ก.พ. 2562 สังคมโซเชียลในพื้นที่จังหวัดอ่างทองแห่แชร์ข้อความเตือนภัยให้ระมัดระวัง หลังเกิดเหตุชายอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจทำทีตีสนิทผู้สูงอายุในหมู่ที่ 2 ต.ชัยฤทธิ์ อ.ไชโย จ.อ่างทอง ก่อนหลอกลวงเงินไป 5,000 บาทและหลบหนีหายไป

เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. ที่ผ่านมา ทำให้เกิดข้อวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมโซเชียลอย่างมากถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยหลังจากเกิดเหตุผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบในเรื่องดังกล่าว บริเวณบ้านแห่งหนึ่ง หมู่ที่ 8 ต.ชัยฤทธิ์ อ.ไชโย จ.อ่างทอง

ซึ่งเป็นบ้านของนายอนันต์ อายุ 79 ปี ผู้เสียหาย พบนายสมนึก อายุ 55 ปีบุตรชายโดยนายสมนึกบอกว่านายอนันต์ไม่อยู่ที่บ้าน เมื่อสอบถามถึงเรื่องดังกล่าวนายสมนึกเปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริงเมื่อคืนที่ผ่านมา

โดยขณะที่ตนเองกำลังเดินเข้าบ้านที่อยู่ด้านหลังของบ้านนายอนันต์พ่อของตน พบชายรูปร่างท้วม ใส่ชุดซาฟารี ถือวิทยุสื่อสาร ขับรถโตโยต้า โคโรน่า ไม่ทราบทะเบียน สีขาวเข้ามาในบ้านและทำทีเป็นบอกว่าจะเข้ามาเยี่ยมลุงอนันต์ รู้จักกันมานานเป็นตำรวจอยู่ที่ป่าโมกและย้ายมาอยู่ที่ สภ.ไชโยได้ไม่นาน ซึ่งตนเองก็ไม่ได้เอะใจ

จนกระทั่งตนเองขึ้นไปอาบน้ำบนบ้านและลงมานายอนันต์ได้เดินออกจากประตูบ้านมีท่าทีสะลึมสะลือ และบอกว่าคนที่มาเอาเงินไปหมดแล้ว ตนจึงสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

โดยชายคนดังกล่าวเมื่อเข้าไปหาพ่อของตนที่นอนอยู่ในบ้านก็ทำทีพูดหว่านล้อมและบอกว่าสนิทกับตน จำได้หรือไม่ ตอนนี้มาอยู่ที่ไชโย จะมาชวนทำบุญที่วัดแห่งหนึ่งใน อ.โพธิ์ทอง ซึ่งต้องใช้เงิน 10,000 บาท

แต่พ่อของตนบอกว่าเดี๋ยวรอถามลูกก่อน ชายคนดังกล่าวก็มีท่าทีร้อนรนก่อนที่จะบอกว่ามีเท่าไหร่ก็ทำมาแล้วกัน ก่อนที่จะหยิบกระเป๋าเงินพ่อของตนไปดูและพบว่ามีเงินอยู่ 6,000 บาท จึงดึงเงินไป 5,000 บาท ก่อนที่จะบอกว่าทำบุญร่วมกันคนละครึ่ง และรีบออกมาจากห้องโดยบอกว่ามีพระมาด้วยต้องรีบไป

โดยพ่อของตนซึ่งไม่สบายอยู่ก็งงๆ ก่อนที่จะเดินออกมาเรียกตนและบอกว่าชายคนดังกล่าวเอาเงินไป ตนจึงรีบโทรแจ้งญาติและผู้ใหญ่บ้านก่อนที่จะแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ก็ไม่ทันชายคนดังกล่าว

ทางตนพร้อมญาติๆ จึงเดินทางไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ก่อนที่ญาติๆ จะโพสต์ลงโซเชียลเพื่อเตือนภัยชาวบ้านโดยเฉพาะผู้สูงอายุไม่ให้หลงตกเป็นเหยื่ออีก

ขณะที่ทางผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถามเรื่องดังกล่าวกับ พ.ต.อ.โรจนินทร์ ทองใบ ผกก.สภ.ไชโย เนื่องจากคนร้ายอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ไชโย ปรากฏว่าทาง ผกก.สภ.ไชโยไม่อยู่

และเมื่อโทรศัพท์สอบถามในเรื่องดังกล่าว ปรากฏว่าทาง พ.ต.อ.โรจนินทร์ แจ้งว่ายังไม่ทราบเรื่องและยังไม่มีข้อมูล รวมถึงอ้างข้อบังคับ ตร.ว่าไม่สามารถให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนได้ แต่จะให้ชุดสืบสวนลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นก่อน