5 ผู้บริหาร KBank เผยกลยุทธ์ปี 2019 ผนึกกำลังคน ไอที และดาต้า มุ่งหน้าสู่การเป็นธนาคารอัจฉริยะ

5 ผู้บริหาร KBank เผยกลยุทธ์ปี 2019 ผนึกกำลังคน ไอที และดาต้า มุ่งหน้าสู่การเป็นธนาคารอัจฉริยะ

5 ผู้บริหาร KBank เผยกลยุทธ์ปี 2019 ผนึกกำลังคน ไอที และดาต้า มุ่งหน้าสู่การเป็นธนาคารอัจฉริยะ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ปฏิเสธไม่ได้ว่าการต่อสู้ครั้งสำคัญได้เปิดฉากขึ้นแล้ว เมื่อเทคโนโลยีและพฤติกรรมของลูกค้าเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ธนาคารกสิกรไทยจึงเร่งประกาศกลยุทธ์ประจำปี 2019 เพื่อมัดใจลูกค้าด้วยการสร้างความประทับใจเหนือกว่ากับภารกิจ 5i ได้แก่ Incorporate , Insight , Ignite, Integrate และ Innovate พร้อมขนกำลังทัพคน ไอที ดาต้าและเหล่าพันธมิตร สู่ธุรกิจแบงก์ยุคใหม่ ที่แกร่งทั้งในประเทศ และพร้อมสยายปีกสู่ต่างแดนแบบไม่กลัวใคร

แน่นอนว่าไม่มีใครบอกเล่าเรื่องนี้ได้ดีไปกว่าทีมผู้บริหารของธนาคารกสิกรไทย ที่คราวนี้สามัคคีกันล้อมวงเล่าถึงกลยุทธ์เด็ดประจำปีนี้แบบไม่มีกั๊กบนเวทีเดียวกัน

และเพื่อให้สมกับบรรยากาศงาน A Year of i ก่อนเริ่มงานแถลงข่าว ชาว KBank เลยถือโอกาสชวนสื่อมวลชนเดินทัวร์ให้ทั่ว i-Mart เพื่อช้อปปิ้งสินค้าหลายชนิดไม่ว่าจะเป็น ข้าวหอมมะลิอินทรีย์ 100% จากทุ่งกุลาร้องไห้ ชาคาโมมายล์ออร์แกนิก ตุ๊กตาจากการ์ตูนดัง ฯลฯ งานนี้ช้อปเพลินในรูปแบบของ Coins ที่ KBank แจกคอยน์ให้เราช้อปได้คนละได้ไม่เกิน 100 เหรียญ และชำระเงินด้วยระบบ Face Pay หรือการสแกนใบหน้าเพื่อชำระเงิน คาดว่าไม่นานเกินรอ KBank จะนำระบบ Biometric Payment แบบนี้ มาใช้สำหรับเปิดบัญชีและถอนเงินเพื่อลดขั้นตอนการทำธุรกรรม ตลอดจนเพิ่มความสะดวกสบายสูงสุดให้กับลูกค้า

จากนั้นก็เข้าสู่การประกาศกลยุทธ์ทั้ง 5 ด้านบนเวที เริ่มที่ Incorporate หรือ ปรากฏการณ์ความร่วมมือ โดยนายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย รับหน้าที่บรรยายในส่วนนี้ ที่กล่าวโดยสรุปก็คือ ภาคธนาคารไทยกำลังเดินหน้าสู่การเป็นตัวกลางทางการเงินหลักที่มีประสิทธิภาพ ด้วยการร่วมมือสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นโครงการพร้อมเพย์ การสร้างมาตรฐานคิวอาร์โค้ด การขยายศักยภาพ ITMX ระบบกลางที่รองรับธุรกรรมข้ามธนาคารให้เป็น 1,000 รายการต่อวินาที โครงการสนับสนุนการชำระเงินด้วยบัตรเดบิตแทนเงินสด โครงการ TB-CERT เพื่อความมั่นคงและปลอดภัยของระบบไอทีของสถาบันการเงิน ฯลฯ

ที่สำคัญคือ ภายใน 2 ปีข้างหน้านี้ คนไทยจะได้รับบริการทางการเงินใหม่ๆ จากธนาคารไทยที่เกิดจากความร่วมมือกันอย่างต่อเนื่อง อาทิ การต่อยอดโครงการพร้อมเพย์สู่การให้บริการคิวอาร์โค้ดในประเทศ CLMV+3 ที่จะทำให้ผู้ชำระเงินสามารถสแกนชำระเงินนอกประเทศได้ และบริการร้านค้าสแกนคิวอาร์โค้ดของลูกค้าผู้ชำระเงิน (B Scan C) ที่จะช่วยให้การชำระเงินสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีการจัดทำ Blockchain เพื่อให้บริการด้านหนังสือค้ำประกัน (Letter of Guarantee) โดยมีสถาบันการเงินทั้งไทยและต่างประเทศ 22 ธนาคาร กลุ่มภาคธุรกิจและรัฐวิสาหกิจ 7 กลุ่มเข้าร่วม คาดว่าในปีนี้จะมียอดธุรกรรมประมาณ 40,000 รายการ ส่งผลให้ยอดธุรกรรมในปีต่อไปเติบโตแบบก้าวกระโดด นอกจากนี้ จะมีการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนไปต่อยอดในบริการรับรองเอกสารทางการศึกษา (E-Transcript) ที่จะช่วยสร้างความมั่นใจ เพิ่มความสะดวกให้แก่นิสิต นักศึกษาจบใหม่ รวมทั้งบุคคลที่ต้องการหาตำแหน่งงานและองค์กรที่กำลังเปิดรับบุคลากรอีกด้วย

ส่วนโครงการ National Digital ID (NDID) คือการที่ลูกค้าสามารถยืนยันตัวตนผ่านระบบออนไลน์ ช่วยให้เปิดบัญชีผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ทุกที่ทุกเวลา โดยไม่ต้องไปแสดงตนที่สาขา การขอสินเชื่อและการเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ทางออนไลน์ รวมทั้งโครงการเอทีเอ็มสีขาว (White-Label ATMs) ที่จะช่วยให้ธนาคารบริหารจัดการต้นทุนได้ดีขึ้น ตอกย้ำความก้าวหน้าของระบบธนาคารไทยที่อยู่ในระดับแนวหน้าของอาเซียนอีกด้วย

จากนั้นก็เข้าสู่โหมด Insight หรือ รู้จักเพื่อรู้ใจ บรรยายโดยคุณขัตติยา อินทรวิชัย กรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย ที่เผยถึง ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่เมื่อผนวกเข้ากับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่ใช้ช่องทางดิจิทัลมากขึ้น ทำให้ปริมาณข้อมูลเพิ่มขึ้นมหาศาล การใช้ชีวิตของลูกค้ามีความหลากหลายและมีความต้องการเฉพาะเจาะจงมากขึ้น ธนาคารจึงเดินหน้าเพิ่มศักยภาพด้าน Analytics ในการแปลงข้อมูลมาเป็น insight เพื่อให้รู้ใจลูกค้ามากยิ่งขึ้น เพื่อเสนอบริการที่ตอบสนองความต้องการเฉพาะบุคคลในหลายด้าน

อาทิ การสร้างประสบการณ์ที่สะดวกทุกที่และทุกเวลา (Frictionless, Anywhere, Anytime) ตอบสนองลูกค้าได้เฉพาะเจาะจงและเข้าถึงทุกคน ทำให้ธนาคารเสนอบริการที่ตรงใจกับลูกค้า และสามารถขยายการให้บริการไปสู่ฐานลูกค้าที่ใหญ่ขึ้นได้ โดยช่วยสร้างโอกาสในการเข้าถึงสินเชื่อให้กับลูกค้าที่มีการเดินบัญชีผ่านธนาคารน้อย หรือไม่มีหลักฐานแสดงรายได้ที่สม่ำเสมอ ด้วยบริการที่กระชับ อัตโนมัติ และใช้เอกสารน้อย ก้าวเข้าสู่การเป็น Data-Driven Bank อย่างเต็มตัว

มากไปกว่านั้น ธนาคารยังให้ความสำคัญสูงสุดต่อการรักษาความเป็นส่วนตัวของข้อมูลลูกค้า โดยพนักงานทุกคนจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด ข้อมูลที่ใช้ในการวิเคราะห์จะไม่สามารถระบุตัวตนของลูกค้าได้ และธนาคารจะไม่มีการแชร์ข้อมูลลูกค้าโดยเด็ดขาด หากปราศจากการให้ความยินยอมของลูกค้า

ดังนั้น เพื่อผลักดันให้การใช้ข้อมูลเป็นส่วนขับเคลื่อนการสร้างบริการที่เหนือความคาดหมายให้แก่ลูกค้า  ธนาคารกสิกรไทยได้สร้างความพร้อมทั้ง 4 ด้าน  ได้แก่ ด้านข้อมูล ด้านเทคโนโลยี ด้านบุคลากร และด้านวัฒนธรรมองค์กรแห่งการขับเคลื่อนด้วยข้อมูล เป็นการผสานความฉลาดของคนเข้ากับเทคโนโลยี (Augmented Intelligence) เพื่อก้าวไปสู่การเป็นธนาคารอัจฉริยะ (Cognitive Banking) ต่อไปในอนาคต

จากนั้น นายพิพิธ เอนกนิธิ กรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย รับไม้ต่อในการบรรยายถึง Ignite หรือการจุดประกายโอกาสในการก้าวข้ามพรมแดน ด้วยความที่ตอนนี้เราอยู่ในยุคเศรษฐกิจผสานมิติ (Augmented Economy) ที่เศรษฐกิจถูกขับเคลื่อนด้วยดิจิทัลเทคโนโลยี ที่มีการเชื่อมต่อโลกออนไลน์และออฟไลน์อย่างผสมกลมกลืน ธนาคารกสิกรไทยจึงปรับวิธีในการทำธุรกิจเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและเติบโตอย่างก้าวกระโดด  พร้อมผลักดันธุรกิจไทยสู่ต่างประเทศและเชื่อมโยงการค้าตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงผู้บริโภครายย่อย ด้วยแนวคิด 3 ด้าน ได้แก่ การมองถึงโอกาสในตลาดภูมิภาค โดยเฉพาะกลุ่มประเทศ CCLMVI (จีน กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา เวียดนาม และอินโดนีเซีย) การมองหาโอกาสทางธุรกิจที่จะเกิดขึ้นและวางเป้าหมายที่จะอยู่ในทุกๆ ช่องทางที่ลูกค้าใช้ชีวิต และการมองหาโอกาสร่วมมือกับพันธมิตรใหม่ๆ เพื่อยกระดับการให้บริการของธนาคารและเสริมศักยภาพให้ธุรกิจไทยสามารถเข้าสู่ตลาด CCLMVI ได้

และคงไม่มีใครรู้จักหัวใจของ Integrate หรือ การรวมพลังเพื่อเติบโต ได้ดีเท่า นายพัชร สมะลาภา กรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย อีกแล้ว โดยในปี 2562 ภารกิจสำคัญในการขับเคลื่อนธนาคารกสิกรไทยให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง คือการผนึกพันธมิตรแพลตฟอร์มขยายฐานลูกค้า เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตลูกค้าในทุกมิติ พร้อมรองรับลูกค้าทั้งบนแพลตฟอร์มของธนาคาร และเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มอื่น โดยธนาคารจะผสานความร่วมมือกับพันธมิตรสร้างประสบการณ์บริการที่ราบรื่นไร้รอยต่อ ช่วยให้เข้าถึงลูกค้าในทุกช่วงจังหวะชีวิต และทำความเข้าใจลูกค้าได้อย่างลึกซึ้ง

รวมถึงการเดินหน้าธุรกิจเพื่อหารายได้ใหม่ ตลอดจนบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยนำสินทรัพย์ที่มีมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ด้วยการปรับพอร์ตเพื่อสร้างผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้น การปรับปรุงกระบวนการติดตามหนี้ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญอย่างเหมาะสมต่ออัตราการฟื้นตัวของสินเชื่อ

และสุดท้ายเป็นเรื่องของ Innovate หรือ เทคโนโลยีเพื่อธุรกิจและชีวิตที่ดีกว่า ที่ นายเรืองโรจน์ พูนผล ประธานกสิกร บิซิเนส – เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) กล่าวย้ำถึงการสานต่อภารกิจของ KBTG ในการผลักดันธนาคารกสิกรไทยไปสู่เป้าหมายการเป็นผู้ให้บริการที่รู้ใจลูกค้าด้วยช่องทางดิจิทัลที่ล้ำสมัย โดยการนำเสนอแนวคิดแห่งนวัตกรรมใหม่ที่เรียกว่า Augmented Intelligence (AI) มาใช้ขับเคลื่อนองค์กร

เชื่อได้เลยว่า ธนาคารอัจฉริยะ ที่แท้จริงจึงต้องมาจากการผนวกประสบการณ์ของพนักงานธนาคาร เข้ากับความชาญฉลาดของปัญญาประดิษฐ์ อันนำมาซึ่งแนวคิดด้านนวัตกรรมทางการเงินใหม่ที่เรียกว่า Cognitive Banking ที่ส่งมอบคุณค่า 3 ด้านให้แก่ลูกค้า ประกอบด้วย บริการที่ฉลาด รู้ใจ (Highly Intelligence) บริการที่ปรับรูปแบบตามไลฟ์สไตล์ของลูกค้า (Highly Adaptive) เข้าใจ รู้ใจ ลูกค้าแต่ละคนอย่างลึกซึ้ง (Highly Personalized) 

นอกจากนี้ KBTG ยังคงเดินหน้าด้วยวิสัยทัศน์ “นวัตกรรมที่ดีต้องสร้างคุณค่าให้แก่ทุกคน” (Inclusive Innovation) สร้างสรรค์บริการเพื่อเพิ่มศักยภาพให้แก่ลูกค้าทุกระดับ  ด้วยการนำเทคโนโลยีมาลดต้นทุนเพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงบริการของธนาคารได้ และประยุกต์ใช้ข้อมูลเพื่อเพิ่มความสามารถในการให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าที่กว้างขวางขึ้น ก่อให้เกิดการนำเสนอสินเชื่อรูปแบบใหม่ผ่านช่องทางดิจิทัลให้กับลูกค้ากลุ่ม Underbanked ที่ในอดีตไม่สามารถรับบริการสินเชื่อจากธนาคารได้เพราะขาดคุณสมบัติ เช่น การเดินบัญชีไม่เพียงพอ หรือไม่มีรายได้ที่สม่ำเสมอ

นายเรืองโรจน์ กล่าวตอนท้ายว่า วิสัยทัศน์ทั้งหมดจะเป็นจริงได้ก็ด้วยศักยภาพทางเทคโนโลยีและบุคลากรของ KBTG จึงตั้งเป้าหมายการพัฒนา KBTG ไปสู่การเป็นองค์กรเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเปลี่ยนแกนเทคโนโลยีของโลกมาสู่ประเทศไทย ภายในปี 2565 โดยเริ่มจากงบลงทุนด้านนวัตกรรม เทคโนโลยี และบุคลากร ในปีนี้กว่า 5,000 ล้านบาท

และนี่ก็คือกลยุทธ์ประจำปีหมูทองนี้จากธนาคารกสิกรไทย ที่การันตีโดยทีมผู้บริหารว่า โปรดติดตามปรากฏการณ์ก้าวล้ำนำใครในครั้งนี้ให้ดีๆ

ชมภาพบรรยากาศในงาน A Year of i ได้ที่นี่เลย

(Advertorial)

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook