เลือกตั้ง 2562: ลือหึ่ง! ผู้บริหาร "ไทยรักษาชาติ" ลาออกยกชุด ขณะทีมกฎหมายหาทางสู้ยุบพรรค
หลังจากเมื่อวานนี้ (12 ก.พ. 62) ทุกสายตาเฝ้าจับจ้องไปที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในประเด็นการพิจารณากรณีพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) เสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี รวมไปถึงความเคลื่อนไหวของทางพรรคด้วยนั้น
ล่าสุดเว็บไซต์ The Bangkok Insight รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวในพรรคไทยรักษาชาติว่า กรรมการบริหารพรรคทั้งหมดมีข้อตกลงร่วมกันที่จะลาออก หลังเกิดปัญหาจากการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีต่อ กกต. เมื่อวันศุกร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จนสร้างปัญหาให้กับพรรค และทำให้มีผู้มายื่นคำร้องขอให้ตรวจสอบว่าการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีของพรรคไทยรักษาชาติเข้าข่ายผิดพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมืองมาตรา 92 (2) กระทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือไม่
ทั้งนี้ แหล่งข่าวคาดการณ์ว่า กรรมการบริหารพรรคทั้ง 14 คน จะประกาศลาออกอย่างเป็นทางการเร็วๆ นี้ ซึ่งก่อนหน้านี้มีกรรมการบริหารพรรค ทษช. ยื่นลาออกไปแล้ว 1 คน คือ นายรุ่งเรือง พิทยศิริ ที่เข้ายื่นหนังสือต่อ กกต. ขอลาออกจากการเป็นกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกพรรค ทษช. เมื่อวันที่ 11 ก.พ. ที่ผ่านมา
รายชื่อคณะกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติ ทั้ง 14 คน ประกอบด้วย
1. ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรค
2. นายฤภพ ชินวัตร รองหัวหน้าพรรคคนที่ 1
3. นางสาวสุณีย์ เหลืองวิจิตร รองหัวหน้าพรรคคนที่ 2
4. นายพฤฒิชัย วิริยะโรจน์ รองหัวหน้าพรรคคนที่ 3
5. นพ.พงษ์ศักดิ์ ภูสิทธิ์สกุล รองหัวหน้าพรรคคนที่ 4
6. รศ.ดร.รุ่งเรือง พิทยศิริ กรรมการบริหารพรรค (เข้ายื่นหนังสือต่อ กกต. ว่าลาออกแล้ว)
7. นายจุลพงศ์ โนนศรีชัย กรรมการบริหารพรรค
8. นายมิตติ ติยะไพรัช เลขาธิการพรรค
9. นายต้น ณ ระนอง รองเลขาธิการพรรคคนที่ 1
10. นายวิม รุ่งวัฒนจินดา รองเลขาธิการพรรคคนที่ 2
11. นายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ รองเลขาธิการพรรคคนที่ 3
12. นายพงศ์เกษม สัตยาประเสริฐ โฆษกพรรค
13. นางสาวชยิกา วงศ์นภาจันทร์ นายทะเบียนสมาชิกพรรค
14. นางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ เหรัญญิกพรรค
แหล่งข่าวระบุด้วยว่า การที่กรรมการบริหารพรรคทั้ง 14 คน ตัดสินใจยื่นลาออก ถือเป็นการแสดงความรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะเป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเห็นชอบให้มีการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีต่อ กกต.
อย่างไรก็ตาม เมื่อวานนี้มีรายงานข่าวว่า นายพิชิต ชื่นบาน ประธานที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายพรรคไทยรักษาชาติ เปิดเผยว่า วันนี้ (13 ก.พ.) จะให้ฝ่ายกฎหมายพรรคไปยื่นเรื่องต่อ กกต. ขอใช้สิทธิตามมาตรา 93 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ที่การให้นายทะเบียนพรรคการเมืองรวบรวมข้อเท็จจริงนั้นจะกระทำฝ่ายเดียวมิได้ เพราะต้องยึดหลักสากลที่ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ประกอบกับ มาตรา 4 ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 4 บัญญัติไว้ว่า ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาคของบุคคลย่อมได้รับความคุ้มครอง ปวงชนชาวไทยย่อมได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญเสมอกัน
เพราะฉะนั้นการยุบพรรคหรือไม่ จะมีผลกระทบต่อพรรคเเละสมาชิกพรรคจึงต้องฟังข้อมูลจากทุกฝ่าย การจะสรุปของนายทะเบียนพรรคการเมืองที่ให้ กกต.มีมตินั้นจะเป็นการฟังความข้างเดียว
นอกจากนี้ นายพิชิต ยังตั้งข้อสังเกตว่า การกำหนดให้นายทะเบียนพรรคการเมืองต้องรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเพื่อพิจารณาตามหลักเกณฑ์ที่ กกต.ระบุ แต่ กกต.มีหลักเกณฑ์พิจารณาเรื่องนี้เเล้วหรือไม่ หรือจะใช้หลักเกณฑ์ใดมาใช้ในการยุบพรรค ดังนั้น พรรคไทยรักษาชาติจะใช้สิทธิยื่นคำร้องต่อ กกต.ให้คุ้มครองสิทธิของผู้ถูกกล่าวหาตามรัฐธรรมนูญและแจ้งให้ กกต.ทราบถึงการใช้อำนาจด้วยความระมัดระวัง และใช้หลักฟังความจากทุกฝ่ายเพราะเป็นหลักสากล