ชาวบ้านปรี๊ด! เข้าร้องนายอำเภอตรวจสอบ "กรรมการหมู่บ้าน" เหตุบริหารไม่โปร่งใส
ชาวบ้านร้องนายอำเภอ ยื่นหนังสือให้ตรวจสอบคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านบริหารงานไม่โปร่งใส
วันที่ 12 ก.พ. 62 เมื่อเวลา 13.00 น. ณ ที่ว่าการอำเภอเบญจลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ตัวแทนชาวบ้านหนองฮางหมู่ที่ 3 ต.หนองฮาง อ.เบญจลักษ์ จำนวน 50 คน นำโดยนายโสภณ อายุ 56 ปี เดินทางมายื่นหนังสือถึง ว่าที่ ร.ต.สุรจิต เอี่ยมธรรม นายอำเภอเบญจลักษ์
เพื่อขอให้ตรวจสอบถอดถอนประธานกองทุนหมู่บ้าน และผู้ใหญ่บ้าน โดยกล่าวหาว่าปฏิบัติหน้าที่โดยไม่โปร่งใส ทุจริต และประพฤติมิชอบ จนชาวบ้านไม่ไว้วางใจ
นายโสภณ แกนนำชาวบ้าน กล่าวว่า ชาวบ้านหนองฮางเห็นว่า โครงการต่างๆ หลายโครงการในหมู่บ้าน อย่างเช่นโครงการซื้อวัวให้ชาวบ้านนำไปเลี้ยงด้วยเงินงบประมาณรายละ 33,000 บาท เวลาผ่านไปกว่า 3 ปียังไม่มีการคืนทุน
โครงการไทยนิยมยั่งยืน 300,000 บาท นำไปซื้อเครื่องเสียงให้ชาวบ้านที่มีงานบุญต่างๆ ไปใช้โดยไม่มีการทำประชาคมกันว่าจะคิดค่าเช่าเท่าไหร่ ให้ผู้ใหญ่บ้านหรือกรรมการที่นำไปให้ใช้เก็บเงินมาเองโดยตั้งราคาเอาเอง คิดราคาไม่เท่ากันแล้วเงินไปไหนอยู่กับใครก็ไม่มีการแจ้ง และโครงการร้านค้าชุมชนที่เปิดดำเนินการมาแล้วมีปัญหาการขาดทุน
ชาวบ้านได้ประชุมกันแล้วมีมติให้ผู้ใหญ่บ้านเป็นผู้เช่าดำเนินการ โดยให้จ่ายค่าเช่าปีละ 20,000 บาท เวลาผ่านไปหลายปีสมาชิกในหมู่บ้านไม่ทราบเรื่องเลยว่าเงินค่าเช่าร้านค้าชุมชนจ่ายให้กับใคร เงินอยู่ไหนจำนวนเท่าใด
นายโสภณ กล่าวอีกว่า ชาวบ้านเห็นว่าการบริหารจัดการไม่โปร่งใส ประธานกองทุนหมู่บ้าน, คณะกรรมการกองทุน และผู้ใหญ่บ้าน ปฏิบัติหน้าที่แบบไม่เป็นไปตามที่ควรจะเป็น โดยส่อไปในทางทุจริตต่อหน้าที่
ชาวบ้านเคยได้สอบถามรายละเอียดของแต่ละโครงการก็ไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน ประธานและกรรมการพยายามบ่ายเบี่ยงเรื่อยมา บางครั้งมีการข่มขู่ และดูถูก ดูหมิ่นดูแคลนชาวบ้าน
ซึ่งชาวบ้านทั้งหมดไม่อาจจะทนอีกต่อไปได้ จึงมายื่นหนังสือถึงนายอำเภอขอให้ตรวจสอบ ถอดถอนประธานกองทุนหมู่บ้าน พร้อมด้วยคณะกรรมการ และผู้ใหญ่บ้าน
ด้าน ว่าที่ ร.ต.สุรจิต เอี่ยมธรรม นายอำเภอเบญจลักษ์ กล่าวว่า ตนได้รับหนังสือเรื่องร้องเรียนของชาวบ้านหมู่ 3 ตำบลหนองฮางไว้แล้ว ซึ่งมีเรื่องโครงการกองทุนหมู่บ้าน เรื่องร้านค้าชุมชนที่อยู่ในความรับผิดชอบของผู้ใหญ่บ้าน ก็จะได้สั่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องที่ชาวบ้านร้องเรียนมา
โดยมอบหมายให้ปลัดอาวุโสเป็นประธานคณะกรรมการ ลงพื้นที่ไปสอบปากคำผู้ร้องซึ่งที่ลงชื่อมาในหนังสือร้องเรียนมีกว่า 100 คน เมื่อสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดแล้วก็จะได้ประชุมสรุปเรื่องราวแล้วแจ้งผู้ร้องให้ทราบต่อไป
อัลบั้มภาพ 4 ภาพ