กัปตัน รักหวานเปิดตัวแฟนนอกวงการคบ1ปี

เผยคบกันมา 1 ปี แม่ไฟเขียว อุบว่าที่ภรรยา ยังไม่คิดแต่ง

เพื่อนในกลุ่มนักแสดงเค้าก็มีคู่กันไปจะหมดแล้ว แต่หนุ่ม กัปตัน-ภูธเนศ หงษ์มานพ เพิ่งจะเจอเนื้อคู่ หลังจากหวงชีวิตโสดอยู่หลายปี ล่าสุดยอมรับแล้วว่ากำลังดูใจสาวนอกวงการ สร้างตำนานรักวัยเยาว์ เพราะดันไปปิ๊งเพื่อนสาวช่วงวัยเด็กสมัยยังถีบจักรยาน กับแก๊งแฟนฉัน อู๊ย...ฟังแล้วขนลุก ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ พรหมลิขิตแผลงฤทธิ์กับพระเอกหนุ่มของเราเข้าอย่างจังเลย "เค้าก็เป็นคนธรรมดา คนนอกวงการครับ รู้จักกันตั้งแต่เด็กๆแล้ว ก็ไม่ได้เจอกันมาเป็น 14 ปี"

แล้วฟ้าบันดาลให้เจอกันอีกครั้ง "อันนี้เรื่องมันยาวอ่ะ มันต้องเขียนเป็นพอกเก็ตบุ๊คก่อน (หัวเราะ) คือมันเป็นเรื่องบันเอิญมากกว่า แต่ว่าก็กลับมาคุยกันอะไรอย่างเนี่ย พอคุยกันมันก็มีความรู้สึกที่ดี เราก็ค่อยๆ ดูกันไปด้วยแล้วก็ดูแลกันไป" กลับมาเจอกันครั้งนี้ใช้เวลารู้จักกันนานไหม "จริงๆแล้วผมว่าคนเราใช้เวลาศึกษากันอยู่แล้วทุกวัน ไม่ว่าเราจะเป็นสามี ภรรยากัน เป็นอะไรกัน เป็นเพื่อนกัน ทุกวันมันก็คือเราศึกษาเรียนรู้เค้าไปเรื่อยๆอยู่แล้ว ก็เป็นชีวิตที่ปกติไม่ได้มีอะไรหวือหวา แปลกแตกต่างจากคนอื่นอะไรอย่างเนี่ย" คบกันได้นานแค่ไหนแล้วค่ะ"ก็น่าจะประมาณปีนึงแล้วครับ"ชอบตรงไหนที่เป็นเค้าบ้างค่ะ"ก็ผมว่าเขาเป็นคนจริงใจ แล้วก็จะเป็นอารมณ์แบบแมนๆ หน่อย ตรงๆ แต่ว่าก็จะมีอารมณ์ที่เป็นผู้หญิงสูง แล้วจะห้าวๆ"

อันนี้จากความเป็นเพื่อนแล้วมาเจอกันอีก พี่เดินเข้าไปจีบเขายังไง"คือเค้าจะเป็นรุ่นน้องครับ เจอกันตอนเด็กๆ แบบขี่จักรยานกันในหมู่บ้านอะไรอย่างเนี่ย ตอนนั้นเด็กมากด้วยกันทั้งคู่ แล้วผมก็ 7-8 ขวบ อะไรอย่างเนี่ย มันก็เป็นเหมือนขี่เล่นกันในกลุ่มเดอะแก๊งเด็กๆ ผมว่าทุกคนก็ต้องมีความรู้สึกอย่างนั้นนะขี่จักรยาน ไปดูบ้านผี"

แบบแฟนฉันไหมค่ะ"ใช่มันจะมีอารมณ์นิดๆ กลิ่นๆ"พอจะบอกชื่อได้ไหมค่ะ คือหลายคนลุ้นว่าเมื่อไหร่พี่กัปตันจะมีแฟนเสียที "เดี๋ยวให้เพื่อนผมไปก่อน ให้เพื่อนผมไปก่อนคนนึงเดี๋ยวผมจะตามไป"คบกันนานแค่ไหนถึงจะมีข่าวดีค่ะพี่"ก็ยังบอกไม่ได้จริงๆนะครับ เพราะว่ามันต้องขึ้นอยู่กับความพร้อมหลายๆอย่าง แล้วก็เราอยู่ในช่วงเรียนรู้ ค่อยๆรู้จักกันไป ดูกันไป ใช้เวลาก่อน "ใช่หรือยังค่ะ "ถ้าบอกว่าแม่ของลูกก็อนาคตเริ่มไม่อยากมีลูกแล้วอ่ะ"โห(หัวเราะ)"

แล้วจะมีข่าวดีไหมค่ะสำหรับสาวคนนี้"คือก็จริงใจล่ะกันนะครับ ก็จริงใจก็พยายามเป็นตัวเองให้มากที่สุด พยายามจะประคับประคองจะให้มันดีที่สุด เพราะว่าผมก็ไม่เคยคบใครไปเล่นๆอยู่แล้ว ยังไงก็ต้องดูกันไป เพราะทุกอย่างอยู่ในขั้นพื้นฐานของความถูกต้องของความเหมาะสมอะไรยังเนี่ย ผู้ใหญ่รู้จักกันอะไรอย่างเนี่ย มันก็เป็นเรื่องปกติ" พาไปให้เพื่อนๆ ดูแล้ว ว่ายังไงบ้างผ่านไหม"(หัวเราะ)เพื่อนๆบอกว่าโอเค เพราะว่าเขาก็ไม่ค่อยได้ไปเจอเท่าไหร่ เพราะว่าทำงานด้วยอะไรด้วย ช่วงนี้ผมก็ไม่ค่อยได้ไปไหนกับเขา"

ครอบครัวทั้ง2ครอบครัวว่าไงบ้างค่ะ คุณพ่อ คุณแม่ ได้เจอกันแล้วหรือยัง "เจอครับเจอ ก็ปกติอ่ะครับ ก็ทานข้าวรู้จักกัน ก็ให้เกียรติซึ่งกันและกันเพราะไม่ได้มีไรต้องปิดบังกัน" คุณแม่ยอมรับแล้วว่าที่ลูกสะใภ้อะไรอย่างนี้ "คุณแม่ก็ยิ้มตลอด เขาก็คงกลัวผมต้องอยู่คนเดียว ก็คงกลัวเหมือนกัน แต่ว่าคุณแม่ก็แฮปปี้ดีครับ ก็ดี" คุณแม่มีถามไหมค่ะว่าจะหมั้นกันไหม จะมีข่าวดีหมั้นกันไว้ก่อน "แม่ไม่ค่อยถามน่าจะเขินลูก เขาจะไม่ค่อยถามเรื่องพวกนี้สักเท่าไหร่ แต่ว่าก็อยู่ในสายตาก็คงเป็นห่วงงั้นแหละ แต่ว่าคือเราเป็นผู้ชายด้วย ก็คงจะไม่รีบร้อนอะไรก็คงดูให้แน่ใจแล้วก็พยายามให้แน่ใจให้โอเคจริงๆ ก็วันนึงคงอาจจะมีข่าวดี"

เป็นผู้หญิงคนแรกไหมค่ะที่พาเข้าบ้าน"เราก็ให้เกียรติทุกคนที่รู้จักกัน แต่ว่าก็เหมือนเป็นเหมือนช่วงนึงของชีวิตตอนนี้ที่เราดูแล เราจริงใจกับคน คนนึง คนๆนี้มันก็เป็นช่วงนี้เท่านั้นเอง เพราะว่าอย่าพูดว่าเป็นคนแรกหรือไม่คนแรกเลย"ดูพี่กัปตันตอบถึงเรื่องความรักนี้มีความสุขมาก"ช่วงนี้ชีวิตก็ไม่ได้มีความทุกข์ไร แต่ว่าทุกอย่างก็มีปัญหานะเหมือนคนทั่วๆไป มีทะเลาะกันบ้าง มีปัญหากันบ้าง แต่ว่ามันก็อยู่บนพื้นฐานของธรรมชาติ ของความเป็นจริง ถ้าเราจะเดินไปพร้อมกันเนี่ย เราจะเดินทางไปด้วยกันเนี่ยเราก็ต้องพร้อมที่จะแก้ปัญหาด้วยกัน พร้อมที่จะพูดจากัน ผมว่ามันก็แค่นี้เอง"

เรียกว่า เลิฟๆ เลยไหมค่ะช่วงนี้"ไอ้เลิฟๆมันไม่มีแล้วนะ มันไม่ใช่อารมณ์แบบเด็กๆแล้วอ่ะ มันบอกไม่ถูก เหมือนความรับผิดชอบมันยิ่งใหญ่สักอย่างนึงอ่ะ ที่เรามีต่อๆคนๆนึง มันเหมือนกับอะไรสักอย่าง แต่ไม่ใช่ปั๊ปปี้เลิฟต้องโทรหากันตลอดเวลา แต่มันเป็นอะไรที่เป็นผู้ใหญ่ที่ต้องรับผิดชอบต่อคนๆนึงแค่นั้นเอง"