อาจโดนเนรเทศ นักศึกษาสาวจีนปาเต้าฮวยใส่ตำรวจ ห้ามไม่ให้เข้าสถานีรถไฟ

นักศึกษาจีนปา “เต้าฮวย” ใส่ตำรวจฟิลิปปินส์ ห้ามเข้ารถไฟใต้ดิน อาจโดนโทษ “เนรเทศ” ออกจากประเทศ

เมื่อวันที่ 12 ก.พ. สำนักข่าวประเทศจีนรายงานว่า นักศึกษาสาวชาวจีนวัย 23 ปีคนหนึ่งถูกจับ และอาจถูกเนรเทศออกจากฟิลิปปินส์ หลังก่อเหตุปาเต้าฮวยใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำสถานีรถไฟใต้ดิน ที่เมืองมันดาลูยอง ในเขตปริมาณมณฑลกรุงมะนิลา

รายงานระบุว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ (9 ก.พ.) ที่ผ่านมา นักศึกษาหญิงคนดังกล่าวทราบชื่อ จาง เจียเล่อ และกำลังศึกษาอยู่ที่สถาบันออกแบบ SoFA ในเมืองมาคาตี ได้ไปใช้บริการรถไฟใต้ดิน แต่เนื่องจากเธอถือเต้าฮวยติดมือไปด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสั่งห้ามไม่ให้เธอเข้า และบอกให้เธอทานเต้าฮวยนั้นให้หมดเสียก่อน ซึ่งตามกฎระเบียบไม่อนุญาตให้ผู้โดยสารนำขวดน้ำดื่ม น้ำและของเหลวต่างๆ เข้าไปบริเวณชานชาลา

แต่นักศึกษาสาวกลับไม่พอใจ โต้เถียงและถ้วยปาเต้าฮวยใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจจนเปื้อนเละเทะไปทั่ว ก่อนต่อมาเธอจะถูกจับกุมตัวในข้อหาทำร้ายร่างกาย ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ และก่อความเดือดร้อน

หลังจากถูกจับกุม จางอธิบายว่า ตอนนั้นตนอารมณ์ไม่ดี และไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตนเองได้ จึงกระทำการดังกล่าวลงไป พร้อมกับกล่าวขอโทษและขอโอกาสอีกครั้ง โดยบอกว่าตนชอบประเทศฟิลิปปินส์จริงๆ รวมถึงรักชาวฟิลิปปินส์ด้วย

ภายหลัง มีรายงานว่าจางได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว โดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของฟิลิปปินส์ระบุว่า อาจเนรเทศจางออกนอกประเทศ เนื่องจากมีพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อสาธารณชน ขณะที่ทางสำนักงานอัยการเมืองมันดาลูยองระบุว่า อาจมีการฟ้องข้อหาทำร้ายร่างกาย ซึ่งมีโทษจำคุกระหว่าง 6 เดือน ถึง 6 ปี

ขณะเดียวกันจางยังตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสังคมฟิลิปปินส์ ซึ่งมีความกังวลในหลายเรื่อง ทั้งการเข้ามาเพิ่มมากขึ้นของนักท่องเที่ยว นักลงทุน รวมถึงพากันแชร์ต่อข่าวออกไปอย่างกว้างขวาง ขณะที่เจ้าหน้าที่รัฐบาลได้เตือนว่าไม่ควรโหมกระพือกรณีดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง เพราะอาจทำให้จีนมีปฏิกิริยาโต้ตอบสำหรับชาวฟิลิปปินส์ที่อาศัยอยู่ในจีนได้

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบชื่อ วิลเลียม คริสโตบัล ผู้ถูกปาเต้าฮวยใส่ ได้รับคำยกย่องและเหรียญรางวัลจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์ สำหรับความสงบนิ่งไม่ตอบโต้นักศึกษาสาว พร้อมกล่าวว่าเจ้าหน้าที่วิลเลียมแสดงให้ทุกคนเห็นว่าตำรวจฟิลิปปินส์เป็นมืออาชีพและมีวินัย ไม่ว่าจะเผชิญกับคนในท้องถิ่นหรือชาวต่างชาติ เราจะปฏิบัติต่อทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน

อย่างไรก็ตาม คดีของนักศึกษาสาวคนดังกล่าวยังอยู่ในกระบวนสืบสวนและการพิจารณาของศาล ซึ่งยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าอนาคตของเธอจะเป็นอย่างไร