แม่ค้าโวย! คดีล่าช้า-กรณีรถ 2 คันซิ่งแซงแต่ไม่พ้น ก่อนเสียหลักพุ่งชนบ้านพังยับ

แม่ค้าโวย! คดีล่าช้า-กรณีรถ 2 คันซิ่งแซงแต่ไม่พ้น ก่อนเสียหลักพุ่งชนบ้านพังยับ

แม่ค้าโวย! คดีล่าช้า-กรณีรถ 2 คันซิ่งแซงแต่ไม่พ้น ก่อนเสียหลักพุ่งชนบ้านพังยับ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(15 ก.พ. 62) ผู้สื่อข่าวรายงาน กรณีอุบัติเหตุรถกระบะพุ่งชนบ้านของแม่ค้าร้านอาหารพังเสียหาย โดยเหตุการณ์ดังกล่าวได้รับการเปิดเผยจาก นางสาวขวัญฤดี อายุ 24 ปี ภูมิลำเนา ต.เขาค่าย อ.สวี จ.ชุมพร

ว่า ตนเองเปิดร้านอาหารตามสั่ง โดยใช้พื้นที่หน้าบ้านต่อเป็นโรงเรือนยื่นออกไปด้านหน้าใกล้ถนน โดยเปิดร้านอาหารมานานกว่า 5 ปีแล้ว และในวันเกิดเหตุเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 62 เวลาประมาณ 11 โมงเศษๆ หลังจากที่ตนได้ทำอาหารตามสั่งให้ลูกค้าเสร็จ ก็ได้มานั่งเล่นกับลูกอยู่บริเวณหน้าบ้านได้สักครู่ ก็ได้ยินเสียงโครมใหญ่ดังขึ้น จึงเห็นรถยนต์ 2-3 คัน ชนกันแล้วเสียหลัก ไปคนละทิศละทาง

นางสาวขวัญฤดี กล่าวว่า ตนเองตกใจมากอุ้มลูกไว้แนบอก ไปไหนไม่ถูก เพราะเห็นรถยนต์ที่เสียหลักพลิกคว่ำหมุนเคว้งลอยสูงเฉียดปลายต้นไม้มาทางตนเอง ก่อนจะหล่นลงมาแน่นิ่งอยู่หน้าร้านใกล้บ้าน

และต้องมาตกใจซ้ำ เมื่อมีรถยนต์อีกคันพุ่งตรงมาทางบ้าน แล้วพุ่งชนเข้าตัวบ้านด้านข้างจนฝาผนังทะลุเข้าไปถึงห้องนอนในบ้าน จนทำให้ข้าวของไม่ว่าจะเป็น รถจักรยานยนต์ที่จอดในบ้านพัง ตู้เย็นและทรัพย์สินอื่นๆ พังเสียหายจำนวนมาก แต่ก็ยังโชคดีที่รถยนต์ไม่พุ่งไปชนถึงที่นอนของพี่ชายซึ่งป่วยนอนอยู่ใกล้ห้องนอนที่ถูกชนพัง

นางสาวขวัญฤดี กล่าวต่อว่า หลังจากที่เกิดเหตุตั้งแต่วันนั้นจนกระทั่งถึงวันนี้ เป็นเวลาร่วมสัปดาห์แล้ว ยังไม่มีใครออกมารับผิดชอบค่าเสียหาย ตนเองได้สอบถามไปที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ได้รับคำตอบว่า ทางผู้ต้องหาที่ขับชนบ้านได้ปฏิเสธที่จะรับผิดชอบเพราะเค้าถูกรถยนต์คันที่หมุนพลิกคว่ำชนจนเค้าเสียหลักพุ่งมาชนบ้าน ต้องรอส่งฟ้องศาล

ซึ่งก็ทำให้ตนเองและครอบครัวเดือดร้อนอย่างหนัก เพราะความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นต้องใช้เงินจำนวนมากในการซ่อมแซม ตนเองเป็นแม่ค้าหาเช้ากินค่ำ ไม่มีเงินพอที่จะนำเงินมาซ่อมแซมบ้านที่พังก่อนได้

ตอนนี้ก็แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าคือซื้อผ้าใบมาปิดกั้นเพื่อบังแดดบังฝนไปก่อน จึงอยากให้ทางเจ้าหน้าที่เร่งรัดคดีเพื่อให้ผู้ก่อเหตุได้เข้ามาชดใช้และเยียวยาให้กับครอบครัวตนให้เร็วที่สุดเพื่อจะได้ใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุขดังเดิม

ต่อมาทางผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ สภ.นาสัก อ.สวี จ.ชุมพร ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบ ได้พบ ร.ต.อ.สัมฤทธิ์ ศักดิ์แสง รอง สว.สอบสวน สภ.นาสัก เจ้าของคดี ได้เปิดเผยว่า จากการสอบสวนสถานที่เกิดเหตุเป็นถนนสายหมู่บ้านเป็น 2 เลนวิ่งสวนทาง

และก่อนเกิดเหตุ ได้มีรถยนต์ขับตามกันมา 4 คัน โดยคันที่ 4 ได้ขับแซงขึ้นมา จนผ่านคันที่ 3 แล้วและกำลังจะขับแซงคันที่ 2 แต่เกิดคันที่ 2 ก็ได้กำลังแซงรถคันที่ 1 พอดี ทำให้รถคันที่ 3 และคัน 2 เกิดชนกัน แล้วพุ่งไปชนคันที่ 1 ก่อนรถยนต์ทั้ง 3 คันก็เสียหลักไปคนละทิศละทาง

ร.ต.อ.สัมฤทธิ์ กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา กับรถทั้ง 2 คัน ฐานความผิด คือ ขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อนและทำให้ทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหาย

ซึ่งรถคันที่ 4 เป็นรถที่มีประกัน ได้ตกลงพร้อมยินดีชดใช้ค่าเสียหายให้กับทาง นางสาวขวัญฤดี เจ้าของบ้าน แต่ต้องประเมินความเสียค่าตามความจริง

ส่วนทางรถยนต์คันที่ 2 ซึ่งไม่มีประกัน ยังให้การปฏิเสธโดยให้เหตุผลว่า ผู้ก่อเหตุคือรถยนต์คันที่ 4 ที่ขับรถโดยประมาทไม่ใช่มาจากตน แต่ยอมช่วยเยียวยาเป็นเงิน 3 หมื่นบาท ให้กับทาง นางสาวขวัญฤดี เป็นการเบื้องต้น อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่จะเร่งสรุปสำนวนส่งฟ้องต่อศาลเพื่อตัดสินคดีนี้ต่อไป

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ ของ แม่ค้าโวย! คดีล่าช้า-กรณีรถ 2 คันซิ่งแซงแต่ไม่พ้น ก่อนเสียหลักพุ่งชนบ้านพังยับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook