ภท.ยัดรถเมล์เข้า ครม.! อภิสิทธิ์ ขวางลำ
ปชป.-ภท.เปิดศึกรถเมล์ 4 พันคัน "ชวรัตน์" เล็งเข้า ครม.3 มิ.ย. พร้อมเบรกเช่าที่ดิน อ้างหวั่นซ้ำรอย ส.ป.ก.4-01 นายกฯ เชื่อเข้าไม่ทันแน่ เหตุสำนักงบฯ-สศช.ยังดูไม่เสร็จ ครม.ปชป.ก็ประชุมต้านอีกแรง "ทักษิณ"กล่อม "สุเมธ"นั่ง หน.เพื่อไทย เสื้อแดงชุมนุมใหญ่ 27 มิ.ย. ผุดทีวีดาวเทียม-เอสเอ็มเอส 1 มิ.ย.นี้
ความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาลเป็นไปอย่างเข้มข้น เมื่อรัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทยขอชะลอโครงการให้เช่าที่ดินสาธารณะไร่ละ 10 บาท และเดินหน้ากดดันต่อด้วยการผลักดันโครงการรถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันพุธที่ 3 มิถุนายน ไม่สนใจว่าเรื่องนี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แสดงท่าทีชัดเจนว่าไม่ต้องการให้นำเรื่องนี้เข้าพิจารณาตราบใดที่ยังตอบคำถามคาใจของสังคมไม่ได้
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการผลักดันโครงการเช่ารถเมล์ 4,000 คัน ว่า เท่าที่ทราบคิดว่าพรรคจะเสนอโครงการดังกล่าวเข้าหารือในที่ประชุม ครม.อีกครั้งในวันพุธที่ 3 มิถุนายน เพราะเรื่องนี้ล่าช้ามานานแล้ว ส่วนกรณี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และ ส.ว.บางส่วนออกมาคัดค้าน โดยจะล่าชื่อประชาชน 2 หมื่นรายชื่อ เพื่อยื่นถอดถอน ครม.ทั้งคณะคิดนั้น เป็นเรื่องที่ไม่เข้าใจกัน กระทรวงคมนาคมจะต้องชี้แจงให้ชัดเจน แต่คงต้องใช้เวลา
ดูเหมือนว่านายกรัฐมนตรีจะตั้งแง่กับโครงการนี้ นายชวรัตน์ตอบว่า ไม่ได้ตั้งแง่อะไร เพียงแต่นายกฯ ต้องการความกระจ่าง เพราะในฐานะหัวหน้ารัฐบาลต้องเป็นคนชี้แจงให้ประชาชนทราบว่า โครงการนี้มีความโปร่งใสแค่ไหน คิดว่าไม่มีปัญหา
เบรกเช่าที่ดิน หวั่นซ้ำรอย ส.ป.ก.4-01
นายชวรัตน์กล่าวถึงโครงการจัดสรรที่ดินเช่าที่สาธารณะไร่ละ 10 บาท ซึ่งเป็นโครงการของนายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จากพรรคประชาธิปัตย์ด้วยว่า โครงการดังกล่าวจะเกิดขึ้นได้ต้องมีการเคลียร์เรื่องการสำรวจแผนที่ก่อน เนื่องจากการทำแผนที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายกระทรวงยังไม่ลงตัว ขณะนี้มี 3 กระทรวงที่เข้ามาเกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม ยังไม่ได้หารือกับนายถาวร เพราะแต่ละคนติดราชการต่างจังหวัด คาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะมีการพูดคุยกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า โดยส่วนตัวเห็นด้วยกับโครงการนี้หรือไม่ นายชวรัตน์ กล่าวว่า ก็ต้องดูว่าโครงการนี้สามารถจัดสรรที่ดินให้แก่ผู้ที่ต้องการที่ดิน หรือผู้ที่ยากจนจริงๆ หรือไม่ เพราะหากจัดสรรที่ดินดังกล่าวไปให้คนที่มีฐานะร่ำรวย ก็จะเข้าข่าย ส.ป.ก.4-01 อย่างไรก็ตาม จะต้องเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงก่อนจะนำเรื่องนี้ให้ ครม.พิจารณา
เมื่อถามว่าจะเป็นความขัดแย้งครั้งใหม่ระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า "ไม่มี เราทำงานอย่าไปนึกถึงความขัดแย้ง เพียงแต่ความเห็นไม่ตรงกัน ก็ต้องมาจูนให้ตรงกัน เหมือนคลื่นวิทยุถ้าจูนคลื่นไม่ดีเสียงก็จะซ่า ถ้าจูนดีแล้วก็ฟังรู้เรื่องทุกคน สื่อชอบทำให้มันซ่าๆ อยู่เรื่อย"
"โสภณ" ยันส่งรถเมล์ 4 พันคันต้องเข้า ครม.
นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวยืนยันว่า จะนำโครงการเช่ารถเมล์ 4,000 คัน ที่มีการปรับลดราคากลางมาอยู่ที่ 67,992 ล้านบาท เข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุม ครม.ในสัปดาห์หน้าอย่างแน่นอน ส่วนจะได้รับความเห็นชอบหรือไม่คงไม่อาจให้คำตอบได้ เพราะตนมีหน้าที่ชี้แจงถึงข้อเท็จริงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับโครงการให้ที่ประชุมได้รับทราบ
"หากผมไม่สามารถชี้แจงได้ ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่โครงการดังกล่าวจะไม่ได้รับความเห็นชอบ และหากเป็นเช่นนั้นจริง ก็พร้อมที่จะยอมรับความเห็นต่างของบรรดาพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์" นายโสภณ กล่าว
ส่วนจะมีการแก้ไขโครงการ โดยการปรับลดราคากลางลงมาอีกหรือไม่นั้น นายโสภณ ยืนยันว่า คงเป็นไปไม่ได้ เพราะเพียงแค่เกิดกระแสข่าวต่างๆ ในทางลบที่เกี่ยวข้องกับโครงการดังกล่าวในปัจจุบันก็แทบจะไม่มีเอกชนรายใดให้ความสนใจที่จะเข้าร่วมอยู่แล้ว
นายกฯ ปราม คนเอือมความขัดแย้ง-ทุจริต
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายชวรัตน์ออกมาคัดค้านโครงการจัดสรรที่ดินสาธารณะให้เกษตรกรเช่าไร่ละ 10 บาท ซึ่งเป็นข้อเสนอของนายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย จนถูกมองเป็นการเอาคืนทางการเมือง หลังพรรคภูมิใจไทยถูกเบรกโครงการสำคัญหลายโครงการก่อนหน้านี้ ว่า เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็น แต่การตัดสินใจของตนเอาเรื่องงานเป็นหลัก การตัดสินใจเกี่ยวกับงานของกระทรวงพาณิชย์ หรือโครงการของกระทรวงที่พรรคประชาธิปัตย์รับผิดชอบ ตนเอาเรื่องงานเป็นหลัก คงไม่ไปดูว่าเป็นของพรรคไหน และไม่ไปดูว่าพรรคนี้มีคนมาฟ้อง ลูกพรรคประชาธิปัตย์คงไม่ทำอย่างนั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้ได้ข้อสรุปหรือยังว่าจะเดินหน้าโครงการเช่าที่ดินหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นโครงการที่สานต่อกันมา 2-3 ปีแล้ว ถ้ามีปัญหาอุปสรรคก็ต้องแก้ไข แต่ยังไม่เห็นมีใครเสนอแนวคิดให้เลิก เพราะเป็นโครงการที่เป็นประโยชน์ในการทำให้ประชาชนเข้าถึง และมีที่ดินทำกิน ได้สอบถามนายถาวรเมื่อ 2 วันก่อน ก็บอกว่าไม่ได้มีปัญหาอุปสรรคอะไร และถ้ามีข้อท้วงติงอะไรก็จะชี้แจง
เมื่อถามว่า เรื่องดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อการทำงานของรัฐบาลหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า "ไม่ ผมต้องเดินต่อ งานมันรอไม่ได้ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลอยากจะฝากถึงทุกคนในรัฐบาลว่า สิ่งที่ประชาชนไม่ชอบที่สุดคือ ความขัดแย้งกับการทุจริต เวลามีข่าวความขัดแย้งกับข่าวการทุจริต นักการเมืองทุกคนเสียหาย"
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้ภูมิใจไทยกับประชาธิปัตย์ยังเป็นพันธมิตรที่เหนียวแน่นกันใช่หรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เรียบร้อยดี ตนพบกับสมาชิกภูมิใจไทย ก็ปกติทุกอย่าง
ขวางรถเมล์ เชื่อเข้า ครม.ไม่ทัน 3 มิ.ย.
ส่วนกระแสข่าวว่าแกนนำพรรคภูมิใจไทยกับพรรคประชาธิปัตย์ได้ตกลงกันว่าใครจะเอาผลงาน ใครจะหาทุนทางการเมืองเป็นอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีเรื่องทุนทางการเมือง ไม่เคยมีการพูดเรื่องทุนทางการเมืองแน่นอน พูดแต่เรื่องงานอย่างเดียว
"ตอนจัดตั้งรัฐบาลโครงการต่างๆ เช่น รถเมล์เอ็นจีวี ก็มีการพูดคุยกันว่า สมัยที่ผมเป็นฝ่ายค้านเคยทักท้วงโครงการไว้ว่าอย่างไร ขอให้รับข้อท้วงติงไปแล้วไปดูว่าอะไรมันจะดีที่สุด ก็พูดกันชัดเจนตั้งแต่ตอนนั้น" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
เมื่อถามว่า โครงการรถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน จะเดินหน้าต่อไปหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้สอบถามสำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ทราบว่ายังไม่ได้ข้อยุติ กำลังดูอยู่ หลัง ครม.มอบหมายเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ยังไม่เรียบร้อย ดังนั้นไม่น่าจะเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุม ครม.ได้ทันในวันที่ 3 มิถุนายนนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อถามย้ำว่าขณะนี้สบายใจหรือไม่ นายกฯ ปฏิเสธที่ตอบคำถาม และรีบเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าทันที
ประชุม ครม.ปชป.ถกรถเมล์ 4 พันคัน
นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการประชุมคณะรัฐมนตรีในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ในช่วงเช้าวันที่ 31 พฤษภาคม ที่พรรคประชาธิปัตย์ ว่า เป็นการหารือเพื่อประเมินผลงาน และดูกรอบนโยบายหลักของพรรค ที่ให้คำมั่นต่อประชาชนไว้ โดยเฉพาะ 1.ปัญหาการว่างงานและเลิกจ้าง โดยจะหามาตรการเร่งด่วนรองรับผลกระทบที่ พ.ร.ก.กู้เงินยังไม่ผ่านการวินิจฉัยจากศาลรัฐธรรมนูญ 2.ปัญหาค่าครองชีพในภาวะปัจจุบัน
3.ปัญหาความยากจนที่จะมีการหารือเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจภาคชนบท เช่น กองทุนชุมชนพอเพียง 4.การสร้างความมั่นใจในการจัดการบริหารโครงการต่างๆ ที่สังคมให้ความสนใจ โดยยึดหลักโปร่งใส ตรวจสอบได้ อาทิ การระบายสินค้าเกษตร โดยเปลี่ยนจากการแทรกแซงและรับจำนำเป็นการรับประกันสินค้าเกษตรแทน เพื่อให้เกษตรกรได้รับประโยชน์ที่แท้จริง หรือโครงการรถเมล์ 4,000 คัน ก็จะมีการพูดคุยถึงมาตรฐาน ประสิทธิภาพของการบริการ หากพิสูจน์ได้ว่าเป็นโครงการเช่าหาและซ่อมบำรุงโดยมีการบริหารจัดการที่โปร่งใส จะให้ท้องถิ่นทั้งส่วนของ กทม. และเทศบาลเมืองของจังหวัดปริมณฑลรอบ กทม.ร่วมมีบทบาทอย่างไร
เมื่อถามว่า การประชุมครั้งนี้เพื่อขัดขวางโครงการรถเมล์เช่า 4,000 คัน หรือไม่ นพ.บุรณัชย์ ตอบว่า ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกสำหรับการประชุม ครม.ของพรรค เพราะมีการประชุมมาหลายครั้งเพื่อประเมินงานต่างๆ ส่วนปัญหาความขัดแย้งภายในพรรคร่วมรัฐบาลที่มีกระแสข่าวรายงานออกมา ส่วนตัวคิดว่าภาพที่ออกมาถือเป็นการร่วมรับผิดชอบของ ครม. การวิพากษ์วิจารณ์ในเชิงสร้างสรรค์ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาในการทำงาน เพราะจะเป็นประโยชน์ที่แสดงให้ประชาชนสังคมโดยรวมเห็นว่าเป็นการเห็นต่างเพื่อประโยชน์สูงสุดที่ประชาชนจะได้รับ
นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ส.ส.กทม. และรองโฆษกพรรค กล่าวถึงโครงการรถเมล์ 4,000 คัน ว่า ถ้ามีความโปร่งใสตอบโจทย์ของสังคมและประชาชนได้ว่าประชาชนจะได้ประโยชน์อะไร และถ้าสามารถตอบโจทย์ของนายกรัฐมนตรีได้ในการประชุม ครม. ส่วนตัวคิดว่า เรื่องที่จะผ่านรถเมล์ 4,000 คันนี้ไม่ใช่เรื่องที่น่ารังเกียจ ไม่ใช่ว่าโครงการนี้เคยได้ชื่อว่าเป็นโครงการที่เหม็นมาในอดีตแล้วจะไม่ผ่าน แต่ต้องตอบให้ได้ว่าในวันนี้โครงการที่คุยกันนี้โปร่งใสหรือไม่ อย่างไร ถ้าตอบได้หมดการจะผ่านรถเมล์ 4,000 คันนี้ไม่ใช่เรื่องที่น่ารังเกียจแต่อย่างใด
"เฉลิมชัย"พา 3ส.ส.จูบปาก ภท.ชื่นมื่น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงค่ำวันที่ 29 พฤษภาคม หลังจากนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ประธานคณะทำงาน เดินทางมาเป็นประธานโครงการปกป้องสถาบันสำคัญของชาติ ได้มี ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ พรรคประชาธิปัตย์ นำโดยนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ซึ่งมีข่าวว่าจะนำทีม ส.ส.ในกลุ่มย้ายพรรค มาต้อนรับตลอดทั้งวัน ซึ่งในงานเลี้ยงรับรองที่โรงแรมไพรเวซี่ รีสอร์ทแอนด์สปา นายเฉลิมชัย และนายมนตรี ปาน้อยนนท์ ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ ได้อยู่ร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ พร้อมร้องเพลงอย่างสนุกสนานร่วมกับนายศักดิ์สยาม ซึ่งมีข่าวว่าเป็นผู้ทาบทามให้ 3 ส.ส.มาอยู่พรรคภูมิใจไทย จนถึงเวลา 03.00 น. ทั้งนี้ นายศักดิ์สยามพูดทำนองทีเล่นทีจริงกับนายเฉลิมชัยว่า สนใจมาร่วมงานกับภูมิใจไทยหรือไม่ ซึ่งนายเฉลิมชัยไม่ตอบ แต่หัวเราะอย่างอารมณ์ดี
นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ขณะนี้ไม่อยากพูดอะไรเกี่ยวกับปัญหาภายในพรรค เพราะถือว่าเลยมาแล้ว แต่ที่ออกมาพูดก่อนหน้านี้เป็นเพราะนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค ไม่ทราบข้อเท็จจริงว่าเกิดอะไรขึ้น จึงต้องออกมาชี้แจง
"ผมไม่ได้เรียกร้องตำแหน่งรัฐมนตรีภายในพรรค หรือต้องการแสดงบารมีว่ามี ส.ส.อยู่ในมือ 40 คน เพราะถ้าพูดถึงบารมีในพรรคแล้ว ผมมีบารมีมากกว่ารัฐมนตรีในรัฐบาลของพรรคบางคนเสียอีก" นายเฉลิมชัย กล่าว
"อภิสิทธิ์" เชื่อ ภท.ไม่ตีท้ายครัว
นายอภิสิทธิ์กล่าวถึงกรณีนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไปต้อนรับนายชวรัตน์ที่เดินทางไปราชการที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมีข่าวมาจีบเข้าพรรคภูมิใจไทยว่า ยังไม่ได้สอบถามเรื่องนี้กับใคร ถือว่าเป็นเรื่องปกติที่นักการเมืองจะพบปะกัน
ส่วนกรณีที่นายเฉลิมชัยระบุว่าคนประจวบฯ เลือกคน ไม่เลือกพรรค นายกฯ กล่าวว่า ไม่ได้ยินเรื่องนี้ แต่ที่ผ่านมานายเฉลิมชัยในฐานะรองหัวหน้าพรรคมีการพูดคุยกัน และมาร่วมกิจกรรมในพรรคตลอด รวมทั้ง ส.ส.อีก 2 คน คือ นายมนตรี ปาน้อยนนท์ และนายประมวล พงศ์ถาวราเดช ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ พรรคประชาธิปัตย์ ก็พูดคุยกับสมาชิกพรรคกันตลอด
เมื่อถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นการตีท้ายครัวของพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นการลงพื้นที่ตามปกติ อย่างตนลงพื้นที่ก็เจอสมาชิกพรรคการเมืองอื่นตลอด ก็ไม่เป็นไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะพูดคุยกับนายเฉลิมชัยในเรื่องที่เกิดขึ้นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เวลาที่เราประชุมพรรคก็จะมีโอกาสได้พบและพูดคุยกันอยู่แล้ว
ปชป.ปัด "เฉลิมชัย" โผซบ ภท.
นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในกรณีเดียวกันว่า ขอยืนยันในเอกภาพในพรรคประชาธิปัตย์ว่า อยู่บนพื้นฐานของการวิจารณ์ตามสังคมประชาธิปไตย ส่วนที่มีข่าวออกมาก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ ส.ส.ในพื้นที่จะให้ความร่วมมือสวมใส่เสื้อสีน้ำเงินซึ่งไม่ใช่เสื้อของพรรค แต่เป็นเสื้อรณรงค์ให้ปกป้องสถาบัน ตามโครงการที่ รมว.มหาดไทย ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยได้ลงพื้นที่ด้วยตนเอง
ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นการนัดหมายกันหรือไม่ เพราะเพิ่งจะเกิดกรณีกลุ่ม 40 ส.ส.ในพรรคประชาธิปัตย์ นพ.บุรณัชย์ ตอบว่า เป็นแผนงานการตรวจราชการของกระทรวงมหาดไทยมาก่อนหน้านี้แล้ว ก่อนที่จะมีกระแสข่าวดังกล่าว และพรรคยืนยันว่าไม่มีกลุ่ม 40 ส.ส.อย่างที่เป็นข่าว ส่วนกรณีที่มีการพูดถึงขนาดว่ามีขอดูตัวก่อนหรือไม่นั้น เข้าใจว่าเป็นการหยอกล้อกันมากกว่า
"ทักษิณ"กล่อม "สุเมธ"นั่ง หน.พท.
พล.อ.อ.สุเมธ โพธิ์มณี ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เปิดใจถึงกระแสข่าวที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เตรียมผลักดันให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ ในรายการ "ลับ ลวง พราง" ทางสถานีวิทยุเอฟเอ็ม 100.5 เมกะเฮิรตซ์ ว่า ส่วนตัวคิดว่ายังอ่อนในเรื่องการเมือง แต่ยินดีช่วยทุกอย่าง จะทำหน้าที่อะไรก็ไม่เกี่ยง คิดว่าหลังเกษียณแล้วก็อยากจะทำให้บ้านเมืองบ้าง ไม่จำเป็นต้องเป็นตำแหน่งอะไร ส่วนที่มีข่าว พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นตัวเต็งที่จะดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค คิดว่ามีความเหมาะสม เพราะเป็นคนที่มีความอาวุโสทางการเมือง เป็นผู้ใหญ่ที่น่านับถือ และคนในพรรคก็ยอมรับได้
เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะให้ดำเนินการอย่างไร พล.อ.อ.สุเมธ กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยกัน เพียงแต่ให้ดูแลพรรค และหาทางทำให้พรรคมีความสัมพันธ์ที่ปรองดองกัน ให้อยู่อย่างมีสันติ และให้ช่วยกันคิดหาทางดูแลประเทศชาติ
อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวแจ้งว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โทรศัพท์ติดต่อมายัง พล.อ.อ.สุเมธ ซึ่งเป็นเพื่อน ตท.10 โดยเบื้องต้น พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการให้ พล.อ.อ.สุเมธ มาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ มีความไว้วางใจมากที่สุด แต่การพูดคุย พล.อ.อ.สุเมธ ได้เสนอชื่อ พล.อ.ชวลิต ขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทน เนื่องจากมีความอาวุโสทางการเมือง เป็นที่ยอมรับของคนในพรรค
"เสื้อแดง" นัดชุมนุมใหญ่ 27 มิ.ย.
นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง แถลงว่า วันที่ 1 มิถุนายน เวลา 09.00 น. กลุ่มคนเสื้อแดงที่ถูกดำเนินคดีทั้งหมดจะเดินทางไปยังสำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อขอความเป็นธรรม โดยขอให้มีการสอบสวนพยานเพิ่มเติม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับคนเสื้อแดง ไม่ว่าจะเป็นที่พัทยา เชียงใหม่ เชียงราย และจังหวัดอื่นๆ รวมทั้งกรุงเทพฯ ทุกคดีจะเป็นไปอย่างรีบเร่ง เป็นการสอบพยานฝ่ายเดียวคือผู้กล่าวหา แต่พยานฝ่ายจำเลยไม่มีการตรวจสอบแต่อย่างใด ส่วน 240 คดีกลุ่มคนเสื้อเหลืองไม่มีการรีบเร่ง ไม่มีการดำเนินคดี ถ้าสำนักงานอัยการสูงสุดให้ความเป็นธรรมเราจะขอยื่นเปลี่ยนตัวหัวหน้าพนักงานสอบสวนและผู้รับผิดชอบคดีนี้ เพราะการสอบสวนเป็นไปด้วยความอยุติธรรม
นายจตุพร ระบุว่า การที่นายกฯ ไปบรรยายให้นักธุรกิจฟัง และระบุว่าในเดือนมิถุนายน จะมีการก่อความวุ่นวาย สร้างความรุนแรงนั้น อยากจะบอกว่า นายอภิสิทธิ์กำลังกล่าวเท็จ ใส่ร้ายคนเสื้อแดง
"เมื่อนายอภิสิทธิ์พูดเช่นนี้ก็ต้องเจอกับกลุ่มคนเสื้อแดง โดยจะมีการนัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 27 มิถุนายน ตั้งแต่เวลา 16.00 น. ที่ท้องสนามหลวง โดยจะระดมกลุ่มคนเสื้อแดงทั้งแผ่นดินอีกรอบ ถ้าเป็นไปได้ครั้งต่อไปจะนัดหมายให้เต็มไปถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และครั้งที่ 3 ยาวไปถึงกองทัพบก และครั้งที่ 4 ไปถึงทำเนียบรัฐบาลอีกรอบหนึ่ง โดยระหว่างนี้จะมีการสัญจรยังไปต่างจังหวัด ซึ่งนายอภิสิทธิ์ก็จะพบกับกลุ่มคนเสื้อแดง แต่คนกลุ่มเสื้อแดงจะไม่ไปเผาบ้านเผาเมือง นายอภิสิทธิ์ต่างหากที่จะต้องไปห้ามปรามไม่ว่าจะเป็นกลุ่มสีน้ำเงินหรือกลุ่มที่ใช้กลไกทหาร ตำรวจ มาสร้างสถานการณ์ให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าวเสีย สิ่งต่างๆ ก็จะไม่เกิดขึ้น" นายจตุพร กล่าว
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวว่า เดือนมิถุนายนนี้ รัฐบาลเจอศึกหนักแน่นอน แต่ไม่ใช่จากคนเสื้อแดง แต่ศึกหนักที่รัฐบาลแก้ไม่ตก คือ ปัญหาเศรษฐกิจที่รัฐบาลยังไม่มีความชัดเจน และขอเป็นโหรทำนายว่า ถ้านายอภิสิทธิ์ผ่านเดือนมิถุนายนไปได้ก็สะบักสะบอมเต็มที จะเจอของจริงทุกด้าน จะเจอเวลาที่พรรคร่วมรัฐบาลเขาเอาคืนเขาทำกันอย่างไร นายอภิสิทธิ์จะไปเจอว่า เมื่อไปขวางทางที่อ้อยจะเข้าปากช้างก็จะเจอการง้างอ้อยที่กำลังจะกลืนลงคอจากพรรคร่วมรัฐบาล เช่น เรื่องรถเมล์ 4,000 คัน เรื่องการเช่าที่ดินของเกษตรกร หรือโครงการต่างๆ ที่กำลังจะทยอยเข้า ครม.ในเดือนมิถุนายน เพราะฉะนั้น สิ่งเหล่านี้เป็นปัญหาแท้จริงของรัฐบาล
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า วันที่ 1 มิถุนายน นอกจากจะเดินทางไปร้องขอความเป็นธรรมให้แก่กลุ่มคนเสื้อแดงที่ถูกดำเนินคดีแล้ว ในเวลา 18.30 น. จะเริ่มออกอากาศเพื่อนพ้องน้องพี่ทางสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม เอ็มวี 5 ทั้งนี้ การจัดรายการจะมี นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร และตน ที่จะดำเนินรายการสด นอกจากนั้นรายการความจริงวันนี้จะกลับเข้าสู่จออีกครั้งช่วงสัปดาห์หน้า และจะมีเอสเอ็มเอส ความจริงวันนี้ที่จะเป็นช่องทางในการกระจายข่าว สื่อสารโดยตรงระหว่างแกนนำกับกลุ่มคนเสื้อแดง
นายณัฐวุฒิ ระบุว่า เรากำลังเตรียมผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์การสลายการชุมนุม โดยเฉพาะคนที่ถูกยิงด้วยอาวุธสงครามจากมือทหารไปแจ้งความดำเนินคดี โดยจะแจ้งความดำเนินคดีนายอภิสิทธิ์ ฐานสั่งการให้มีการทำร้ายประชาชน
เสื้อแดงป่วน "ประจักษ์" ที่กาฬสินธุ์
วันเดียวกัน นายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะเหรัญญิกพรรคภูมิใจไทย เป็นประธานเปิดศูนย์ประสานงานพรรคภูมิใจไทย เขต 1 กาฬสินธุ์ ที่สนามโรงเรียนทุ่งศรีเมืองประชาวิทย์ โดยมี นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ พร้อมกลุ่มผู้สนับสนุนทั้งนักการเมืองท้องถิ่นและประชาชนในเขตเลือกตั้งที่ 1 ของ จ.กาฬสินธุ์ เข้ารับฟังการปราศรัยกว่า 6,000 คน
นายประจักษ์กล่าวยืนยันถึงแนวทางนโยบายประชานิยมของพรรคภูมิใจไทย โดยเฉพาะแนวทางการจัดหาแหล่งน้ำ ซึ่งหลังจากตั้งพรรคมาเพียง 4 เดือน กระแสตอบรับล้นหลาม มีสมาชิกพรรคทั่วประเทศเกือบถึงล้านคน คาดว่าปลายปีนี้ก็ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ผู้สมัคร ส.ส.ที่มีการเปิดตัวในครั้งนี้ ได้แก่ นายชัย คูสกุลรัตน์ อดีตประธานสภา อบจ.กาฬสินธุ์ จะลงเขตเลือกตั้งที่ 1 ส่วนผู้สมัครคนอื่นมีทั้งอดีต ส.ส.และ อดีต ส.ว.ในพื้นที่ เช่น สองพี่น้อง นายวิทยาและนายเกรียงไกร ภูมิเหล่าแจ้ง และนายบวร ภูจริต ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 2 มีชื่อ น.ส.ภัทรา วรามิตร ลูกสาว นางชะม้อย วรามิตร นายก อบจ.กาฬสินธุ์ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการเปิดตัวพรรคภูมิใจไทยมีรถกระบะประมาณ 10 คัน นำกลุ่มคนเสื้อแดงถือป้ายขับไล่นายประจักษ์ไปรอบเมืองกาฬสินธุ์ โดยเฉพาะบริเวณจุดการปราศรัย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้กันพื้นที่ไม่ให้เข้าไปบริเวณปราศรัย ทำให้กลุ่มคนเสื้อแดงเปลี่ยนแผนใช้วิธีขับรถเปิดเครื่องขยายเสียงปลุกระดมขับไล่นายประจักษ์ไปรอบเมือง และเผาเสื้อสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นสีสัญลักษณ์ของพรรคภูมิใจไทยด้วย
นายกฯรับจับตานักธุรกิจหนุนเสื้อแดง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีกลุ่มเสื้อแดงจะออกมาเคลื่อนไหวในเดือนมิถุนายนนี้ ว่า หวังและเชื่อว่าคนที่มาชุมนุมส่วนใหญ่ไม่ใช่คนที่ต้องการทำผิดกฎหมายอยู่แล้ว ซึ่งก็หวังว่าแกนนำหลายคนคงจะยอมรับกติกาของบ้านเมือง
เมื่อถามว่า ในการพูดกับนักธุรกิจ นายกรัฐมนตรีระบุถึงขนาดว่าจะเป็นการเผาบ้านเผาเมือง ในทางการข่าวประเมินว่าการชุมนุมจะรุนแรงถึงขนาดนั้นหรือไม่ นายกฯ กล่าวปฏิเสธว่า ไม่ใช่ ตนเพียงแต่บอกว่าเวลาที่มาทำผิดกฎหมายในอดีตนั้นถึงขั้นที่จะนำไปสู่ความรุนแรงอย่างนั้น ก็อยากบอกว่าอย่าทำ แต่จนถึงวันนี้ในทางการข่าวยังไม่มีสัญญาณที่จะมีความรุนแรงเกิดขึ้น แต่เราก็ต้องไม่ประมาท
ผู้สื่อข่าวถามว่า ยังมีกลุ่มธุรกิจใดที่ยังให้การสนับสนุนการเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ อีกหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวยอมรับว่า ตามรายงานก็มีบ้าง ซึ่งฝ่ายที่เกี่ยวข้องก็ต้องมีหน้าที่ที่ต้องตรวจสอบต่อไปให้ชัดเจน
นายกฯไปเกาหลี ประชุมอาเซียนสมัยพิเศษ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 30 พฤษภาคม ที่ท่าอากาศยานทหารกองบิน 6 (บน.6) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายเกียรติ สิทธีอมร ผู้แทนการค้าไทย ออกเดินทางโดยเครื่องบินพิเศษของกองทัพอากาศ เพื่อเดินทางไปร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี สมัยพิเศษ ที่เกาะเชจู สาธารณรัฐเกาหลี ระหว่างวันที่ 30 พฤษภาคม-2 มิถุนายน
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า รัฐบาลเกาหลีจัดการประชุมครั้งนี้เพื่อฉลอง 20 ปีความสัมพันธ์อาเซียน และสร้างความเป็นหุ้นส่วนด้านการค้าและการลงทุนคู่ขนานไประหว่างภาครัฐและเอกชน โดยมีอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ และอยู่ในความสนใจของทั้ง 2 ฝ่าย อาทิ อุตสาหกรรมพลังงาน สิ่งแวดล้อม บันเทิง ภาพยนตร์ ฯลฯ อีกทั้งยังเป็นการแสวงหาและพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเชื่อมั่นว่าความร่วมมือระหว่างอาเซียน-เกาหลี จะมีส่วนสำคัญยิ่งในการส่งเสริมการเศรษฐกิจในภูมิภาคนำไปสู่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกรัฐมนตรีมีกำหนดการเข้าหารือกับนายลี มยอง บัค ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี โดยจะหยิบยกความร่วมมือด้านต่างๆ ขึ้นหารือ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์ ซึ่งเกาหลีมีความเชี่ยวชาญ นอกจากนั้นนายกฯ ยังมีกำหนดกล่าวปาฐกถาในพิธีเปิดการประชุมสุดยอดภาคธุรกิจอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี และพบปะกับตัวแทนภาคเอกชนของไทยที่เดินทางเข้าร่วมประชุมด้วย โดยการเดินทางครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีมีกำหนดเดินทางกลับประเทศไทยในช่วงค่ำวันที่ 2 มิถุนายน
พท.จี้"สุเทพ" ลาออก อ้างกลัว ตร.อึดอัด
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวเรียกร้องให้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ลาออกจากทุกตำแหน่ง จนกว่าคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ฟ้องนายสุเทพจากกรณีที่ศาลอุทธรณ์ภาค 8 แผนกคดีอาญาเลือกตั้งให้ใบเหลือง นายธานี เทือกสุบรรณ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นน้องชายนายสุเทพ จะแล้วเสร็จ ว่า หากนายสุเทพไม่ลาออกก็จะทำให้ตำรวจอึดอัดใจ ไม่สามารถตรวจสอบเรื่องนี้ได้อย่างเต็มที่ เพราะนายสุเทพถือเป็นผู้บังคับบัญชา ดังนั้น อย่าลูบหน้าปะจมูก ควรลาออกจากทุกตำแหน่ง เพราะถือว่ามีส่วนได้ส่วนเสีย
นายพร้อมพงศ์ยังตั้งข้อสังเกต กรณีตั้งนางกานดา วัชราภัย รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นคณะกรรมการสอบสวน นายวิฑูรย์ นามบุตร อดีต รมว.พัฒนาสังคมฯ และนายวัลลภ พลอยทับทิม ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ กรณีปลากระป๋องเน่า ว่า เป็นการช่วยเหลือกันในลักษณะลูกน้องกับเจ้านาย ซูเอี๋ยกันหรือไม่
"ผมทราบว่ารัฐบาลได้เข้าไปตรวจสอบภาษีเงินได้ของนายวิเชนทร์ สมมาตร ที่บริจาคปลากระป๋อง 5,000 ชุด ซึ่งผมจะไปขอเอกสารสรุปผลการสอบสวนจากนางกานดา และหากพบว่านางกานดามีพฤติการณ์ให้ความช่วยเหลือบุคคลทั้งสองก็จะยื่นเรื่องให้กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบว่า เข้าข่ายขัดมาตรา 157 ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ต่อไป" นายพร้อมพงศ์ กล่าว
"มาร์ค"ชี้ใบเหลืองธานีเป็นความผิดเฉพาะตัว
ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี กกต.มีมติให้แจ้งความดำเนินคดีกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี นายชุมพล กาญจนะ และนายประพนธ์ นิลวัชรมณี หลังจากศาลอุทธรณ์ภาค 8 มีคำพิพากษาให้ใบเหลืองนายธานี เทือกสุบรรณ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี ว่า ยังไม่มีโอกาสพูดคุยกับนายสุเทพเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เพราะนายสุเทพเพิ่งกลับจากการเดินทางลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อคืนวันที่ 29 พฤษภาคม และในช่วงบ่ายวันที่ 30 พฤษภาคม ตนจะออกเดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่ประเทศเกาหลีใต้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ห่วงหรือไม่กรณีนายสุเทพจะส่งผลกระทบต่อพรรค นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้เป็นคดีของนายธานี เป็นการวินิจฉัยในส่วนของนายธานี ขั้นตอนต่อไป กกต.ก็ต้องนำข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการกับผู้ที่อยู่ในสำนวนอีกครั้งหนึ่ง ก็ต้องรอดูตรงนั้นอีกที
เมื่อถามอีกว่า ถ้าผลการตัดสินออกมาในทางลบ จะพิจารณาอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ตอบคำถามถ้าอย่างนั้น ถ้าอย่างนี้ จะดูข้อเท็จจริงไป และจะพิจารณาตามความเหมาะสม ซึ่งขณะนี้ยังมีอีกหลายขั้นตอน มีความซับซ้อนพอสมควร
รำลึกยุบทรท.2 ปี จับตา พธม.ตั้งพรรค
วันเดียวกัน สถาบันศึกษาการพัฒนาประชาธิปไตย จัดการอภิปรายเนื่องในโอกาสครบ 2 ปี ยุบพรรคไทยรักไทย ในหัวข้อ "พรรคการเมืองไทยสิ่งจำเป็น หรือส่วนเกินในระบอบประชาธิปไตย" มี นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย นายนิกร จำนง อดีตรองหัวหน้าพรรคชาติไทย นายคณิน บุญสุวรรณ อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ปี 2540 นายธีระ สุธีวรางกูร อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นวิทยากร
นายจาตุรนต์ กล่าวในตอนหนึ่งว่า การยุบพรรคไทยรักไทยยุบโดยอาศัยกลไกที่คณะรัฐประหารได้ตั้งขึ้น รวมถึงมีการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรค 5 ปี โดยการลงโทษย้อนหลัง จากนั้นมีการนำประเด็นดังกล่าวไปบรรจุใส่ในรัฐธรรมนูญปี 2550 ทำให้มีพรรคการเมืองถูกยุบอีก 3 พรรคอย่างชอบธรรมภายใต้รัฐธรรมนูญ ทั้งที่เรื่องดังกล่าวถือว่าขัดต่อหลักนิติธรรมเป็นอย่างยิ่ง และมีปรากฏการณ์ที่น่าสนใจ 2 ประเด็น คือ การที่พรรคการเมืองถูกทำลาย จนระบบพรรคการเมืองอ่อนแอ และอีกประเด็น คือ กลุ่มการเมืองที่เคลื่อนไหวนอกสภาอย่างกลุ่มพันธมิตร มีมติที่จะจัดตั้งพรรคการเมือง ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีอุดมการณ์และนโยบายที่ชัดเจนในการปกป้องรัฐธรรมนูญปี 2550 รวมถึงยังเสนอแนวคิดการเมืองใหม่ ซึ่งการเมืองใหม่ได้ต่อต้านระบบพรรคการเมืองอย่างเปิดเผย แต่ขณะนี้กลุ่มการเมืองนี้กำลังจะก่อตั้งพรรคการเมืองขึ้น ขอถามว่ากลุ่มพันธมิตรต้องการจะใช้ประโยชน์อะไรจากการดำเนินการทางการเมืองหรือไม่