เชือกหมอนข้าง รัดคอดับ คร่า ทารก หลับ!

เชือกหมอนข้าง รัดคอดับ คร่า ทารก หลับ!

เชือกหมอนข้าง รัดคอดับ คร่า ทารก หลับ!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สยองหมอนข้างคร่าชีวิตทารกขวบเศษ ลักษณะถูกสายรูดรัดหมอนข้างรัดคอตอนนอนหลับถึงตาย พ่อแม่ร่ำไห้โฮเผยก่อนเกิดเหตุ ยุ่งกับการทำอาหารจะนำไปขาย ปล่อยลูกสาวตัวน้อยนอนหลับในห้องนอนชั้นบนเพียงลำพัง พอขึ้นมาหาก็พบว่าสิ้นสติไปแล้ว นำส่งร.พ.ช่วยชีวิตก็ไม่ทันการณ์ เด็กสิ้น ลมขาดใจตายในที่สุด เผยบนลำคอมีรอยเชือดรัดเขียวช้ำเป็นทางยาว คงเกิดจากตอนเด็กนอนพลิกตัว แล้วสายหมอนข้างรัดคอพอดี

เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 30 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรับแจ้งมีเด็กอายุ 1 ขวบ 4 เดือน เสียชีวิต ถูกนำตัวส่งชันสูตรพลิกศพที่แผนกนิติเวช โรงพยาบาลศิริราช จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบร่าง ด.ญ.วรัญญา อักษร อายุ 1 ขวบ 4 เดือน อยู่ในสภาพไม่สวมเสื้อผ้า บริเวณลำคอมีร่องรอยเขียวช้ำเป็นทางยาว

จาก การชันสูตรพลิกศพเบื้องต้น พบว่าสาเหตุการเสียชีวิตมาจากขาดอากาศหายใจจากรอยรัดบริเวณลำคอ พบรอยช้ำบริเวณลำคอขนาดความกว้างไม่เกิน 3 ซ.ม. นอกจากนี้ พบว่าบริเวณใบหน้าและศีรษะ มีคราบเลือดเป็นจุดเล็กๆ หลายจุด

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 20.50 น. วันที่ 29 พ.ค. ร.ต.ต.ธีรุตน์ ใจเหล็ก พนักงานสอบ สวน สน.หลักสอง รับแจ้งเหตุมีเด็กเสียชีวิตที่ร.พ.เกษมราษฎร์ บางแค หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วยแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลศิริราช และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เมื่อไปถึงพบด.ญ.วรัญญา เสียชีวิตโดยมีร่องรอยถูกเชือกรัดบริเวณลำคอ จึงส่งชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดที่ร.พ.ศิริราช เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป

จากการสอบสวนนายพงษ์พัฒน์ อักษร อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 107/220 หมู่ที่ 16 แขวงบางมด เขตจอมทอง กทม. และนางบุษรากร ไพรบึง อายุ 26 ปี บิดามารดาของเด็กให้การด้วยสภาพน้ำตานองหน้าว่า ก่อนเกิดเหตุพวกตนกำลังจัดเตรียมข้าวสุกและอาหารต่างๆ เพื่อนำไปขาย ปล่อยด.ญ.วรัญญา ลูกสาวนอนอยู่บนห้องนอนชั้น 2 เพียงลำพัง เมื่อขึ้นไปดูพบว่าลูกสาวหมดสติไปแล้ว จึงรีบนำส่งร.พ.เกษมราษฎร์ บางแค แต่ไม่ทันเวลา ลูกน้อยเสียชีวิตในที่สุด

สำหรับสาเหตุเบื้องต้นเจ้า หน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า ขณะด.ญ.วรัญญานอนอยู่ น่าจะถูกสายรูดรัดหมอนข้างที่หลุดออกมา พันรัดคอตอนพลิกตัวจนเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม จะรอพิสูจน์ศพอย่างเป็นทางการจากแพทย์ และสอบสวนบิดามารดาอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้ จริงต่อไป

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook