สลดใจ-สาวใหญ่วัย 50 เดินลัดเลาะตามป่าจะไปเยี่ยมแม่-ถูกโขลงช้างป่ากระทืบดับอนาถ
(15 ก.พ. 62) นายสหชาติ ลิ้มเจริญภักดี ประธานมูลนิธิเพชรเกษมหัวหิน กล่าวว่า มูลนิธิฯ ได้รับแจ้งจาก สภ.บ้านหนองพลับ ว่า พบศพชาวบ้านเสียชีวิตกลางป่า เบื้องต้นคาดว่า จะถูกช้างป่าทำร้าย
โดยที่เกิดเหตุอยู่ที่บริเวณบ้านทุ่งกระทิง ม.10 ต.บึงนคร อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยเดินทางไปสนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่
โดยที่เกิดเหตุ พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ นางสายชล อายุ 50 ปี สภาพศพนอนคว่ำหน้า เสื้อผ้าฉีกขาด หัวไหล่ด้านขวาหักมีแผลฉีกขาดบริเวณท้องน้อย ส่วนที่บริเวณกะโหลกศีรษะเป็นแผลเปิด ขามีอาการผิดรูปทั้งสองข้าง เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ โดยรอบจุดที่พบศพ เจ้าหน้าที่พบร่องรอยของช้างป่า
จากการสอบถาม สามีของผู้เสียชีวิตเล่าให้ฟังว่า ระหว่างบ้านและที่เกิดเหตุห่างกันประมาณ 5 กิโลเมตร ผู้เสียชีวิตหายออกจากบ้านตั้งแต่เวลาประมาณ 17.00น. (14 ก.พ. 62) โดยแจ้งกับทางบ้านว่า จะเดินไปบ้านแม่เพื่อไปซักผ้าและเยี่ยมแม่ที่ป่วย แต่กลับหายตัวไปไม่ถึงบ้านแม่
จากนั้นจึงได้ออกตามหาแล้วแต่ไม่พบตัว จึงคาดว่า ระหว่างทาง ผู้เสียชีวิตอาจจะเจอกับโขลงช้างป่า ไม่ทราบจำนวน จนเกิดเหตุทำร้ายและเสียชีวิตในที่เกิดเหตุดังกล่าว
จนกระทั่งมีชาวบ้านมาพบศพ และแจ้งให้ทราบเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 15 ก.พ. 62 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ญาติได้มอบให้มูลนิธิเพชรเกษมนำศพส่งตรวจหาสาเหตุการเสียชีวิตที่โรงพยาบาลหัวหิน
ทางด้าน นายมานะ เพิ่มพูล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เปิดเผยว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ป่ารอยต่อกับเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ยึดผืนป่าบริเวณดังกล่าวที่เคยถูกบุกรุกปลูกสับปะรด กลับคืนมา กว่า 100 ไร่
ขณะนี้ป่าเริ่มฟื้นตัว ทำให้สัตว์ป่าและช้างป่ากลับมาอาศัยหากินตามธรรมชาติ โดยจุดที่เกิดเหตุเป็นเส้นทางลำรองไม่ใช่เส้นทางหลักที่ชาวบ้านใช้สัญจรไปมา
จึงคาดว่า ในช่วงเวลาที่ผู้เสียชีวิตเดินลัดเลาะมาทางเส้นทางลำรอง แทนที่จะใช้เส้นทางหลักตามปกตินั้น อาจจะเป็นช่วงเวลาที่โขลงช้างป่าออกหากินพอดี จนเป็นเหตุให้เกิดเรื่องเศร้าสลดดังกล่าวขึ้นมา