โชเฟอร์ 2 แถวสีหน้าเศร้า-ชี้ฝากระโปรงถูกโจรลักแบตเตอรี่กลางวันแสกๆ
(15 ก.พ. 62) พ.ต.ท.มนตรี สีสุธรรม สารเวรสอบสวน สภ.เมืองยโสธร ได้รับแจ้งว่า มีเหตุลักทรัพย์แบตเตอรี่รถยนต์ที่เจ้าของจอดเอาไว้ริมถนนภาย ในซอยสหาพัฒนา เขตเทศบาลเมืองยโสธร จึงเดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สายตรวจรถจักรยานยนต์และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองยโสธร
พอไปถึงที่เกิดเหตุ พบรถยนต์สองแถวโดยสาร สายยโสธร-ตาดทอง ยี่ห้อ โตโยต้า สีฟ้า หมายเลขทะเบียน 10-1911 ยโสธร จอดอยู่ริมถนนภายในซอย สหพัฒนา โดยมี นายวินัย อายุ 55 ปี ชาวตำบลสำราญ อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร เจ้าของรถยืนหน้าตาเศร้าอยู่ข้างรถของตัวเอง
พร้อมกับชี้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูร่องรอยของคนร้ายที่เปิดกระโปรงหน้ารถ แล้วลักเอาแบตเตอรี่ที่อยู่บริเวณห้องเครื่องยนต์หลบหนีไป
ซึ่งจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุคาดว่า ผู้เสียหายอาจจะลืมล็อกประตูรถ จึงทำให้คนร้ายฉวยโอกาสเข้าไปเปิดประตูรถแล้วเข้าไปเปิดล็อกฝากระโปรงรถ แล้วเข้าไปลักเอาแบตเตอรี่ที่อยู่บริเวณห้องเครื่องยนต์ก่อนจะหลบหนีไป
จากการสอบถาม นายวินัย ผู้เสียหาย บอกว่า ตนได้นำรถสองแถวโดยสารของตนไปจอดเอาไว้ที่ริมถนนภายในซอย สหพัฒนา ในช่วงเวลาประมาณ 9 นาฬิกา ซึ่งเป็นสถานที่จอดประจำ
จากนั้นจึงเข้าไปอยู่ในบ้านพักที่บริเวณใกล้เคียง จนกระทั่งช่วงเย็น ตนจะเคลื่อนรถเข้าไปเก็บภายในบ้าน แต่สตาร์ทรถไม่ติดจึงไปตรวจดูที่ห้องเครื่องยนต์ จึงพบว่า แบตเตอรี่ถูกลักหายไป ซึ่งเป็นไปได้ว่า ตนอาจจะลืมล็อกประตูทางฝั่งซ้ายจึงทำให้คนร้ายเข้าไปก่อเหตุได้ง่าย
ขณะที่กล้องวงจรปิดที่ติดตั้งเอาไว้บริเวณหน้าบ้านของชาวบ้านที่อยู่บริเวณฝั่งตรงข้ามสามารถบันทึกภาพของคนร้ายเอาไว้ได้ โดยคนร้ายเป็นชายวัยกลางคน ใช้รถจักรยานยนต์แบบหญิงเข้าไปจอดทางด้านหลังรถสองแถวของผู้เสียหาย ก่อนจะเดินอ้อมมาทางฝั่งประตูทางด้านซ้ายแต่ภาพหลุดรัศมีของกล้องวงจรปิดไป
และมีกล้องอีกตัวที่ติดตั้งภายในบ้าน สามารถบันทึกภาพ เห็นคนร้ายเปิดฝากระโปรงหน้ารถ แล้วใช้เครื่องมือที่เตรียมมาขันน็อตแล้วถอดเอาแบตเตอรี่ของจากช่องใส่แบตเตอรี่แล้วนำขึ้นรถจักรยานยนต์ขับหลบหนีไปทางตลาดใหม่ยโสธรทันที โดยใช้เวลาก่อเหตุไม่ถึง 2 นาที เหตุเกิดเวลา 10.20 น.
เจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่า คนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ น่าจะเป็นมืออาชีพ เพราะใช้เวลาก่อเหตุไม่นาน อีกทั้งยังมีการเตรียมเครื่องมือมาพร้อม และคาดว่าน่าจะมีการติดตามดูรถคันนี้มานานแล้ว และคงจะรู้ว่า ผู้เสียหายลืมล็อกประตูฝั่งซ้ายจึงมุ่งตรงไปที่ประตูฝั่งซ้าย เพื่อเข้าไปปลดล็อกฝากระโปรง ก่อนจะลักแบตเตอรี่หลบหนีไปทันที
ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เร่งตรวจสอบหมายเลขทะเบียนรถให้ชัดเจนอีกครั้งเพื่อจะได้ติดตามตัวผู้ก่อเหตุไปลงโทษตามกฎหมายต่อไป
อัลบั้มภาพ 4 ภาพ