ปิดห้องสังหารโหด "สาวเมียฝรั่ง" จับมัดมือมัดเท้า คาดฝีมือผัวใหม่ชาวกรีซ

สาวร้านเสริมสวยกลายเป็นศพขึ้นอืดคาห้อง นอนคว่ำหน้าถูกมัดพันธการเอาไว้ ตำรวจสงสัยฝีมือผัวฝรั่งคนใหม่ ล่าสุดพบเบาะแสบินกลับไปกรีซแล้ว ตั้งปมฆ่าหึงหวง

เมื่อวานนี้ (16 ก.พ.) พ.ต.ท.วิวัฒน์ ชำนาญกิจ รองผกก.สส.สภ.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ร.ต.อ.ยุทธนา ยะฝา พนักงานสอบสวน สภ.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธร จ.ภูเก็ต แพทย์โรงพยาบาลถลง จ.ภูเก็ต และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรม จ.ภูเก็ต ได้ร่วมกันชันสูตรพลิกศพ นางนิรมล อายุ 44 ปี ช่างเสริมสวยใน จ.ภูเก็ต

หลังพบศพอยู่ในสภาพนอนคว่ำบนเตียงนอน มัดมือไพล่หลัง รวมทั้งมัดปากและเท้า บริเวณหน้าผากยังมีรอยฟกช้ำคล้ายถูกของแข็งกระแทก และส่วนอื่นๆ ของร่างกายก็พบรอยช้ำหลายแห่ง ภายในห้องยังเปิดแแอร์ทิ้งไว้ คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาหลายวันแล้ว

ขณะที่ภายในห้องพักยังพบว่าทรัพย์สินกระจัดกระจาย มีร่องรอยการต่อสู้ อีกทั้งยังพบว่าผู้เสียชีวิตไม่ได้สวมใส่กางเกงชั้นใน สันนิษฐานว่อาจจะถูกข่มขืนกระทำชำเราก่อนเสียชีวิต เจ้าหน้าที่จึงได้มอบศพให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิส่งให้แพทย์ทำการชันสูตรอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลถลาง จ.ภูเก็ต

ส่วนประเด็นสังหารนั้น เจ้าหน้าที่มุ่งไปที่ประเด็นหึงหวงหรือฆ่าชิงทรัพย์ แต่ใครเป็นผู้ต้องสงสัยนั้น ยังไม่สามารถระบุได้ว่า จะเป็นสามีใหม่ หรือสามีเก่าของผู้เสียชีวิต หรืออาจจะคนร้ายสวมรอยเข้ามาบุกฆาตกรรม แต่ถือว่าเป็นสถานการณ์ที่โหดเหี้ยม

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามหาสามีใหม่ของผู้เสียชีวิต เป็นหนุ่มชาวกรีซ ที่ติดต่อไม่ได้ในขณะนี้

ร.ต.อ.ยุทธนา ยะฝา พนักงานสอบสวน สภ.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ทราบว่า น้องสาวของผู้เสียชีวิตเป็นผู้มาพบศพคนแรก ระบุว่า พี่สาวเป็นช่างเสริมสวยในพื้นที่ ต.เชิงทะเล ได้เช่าห้องดังกล่าวอยู่กับสามีใหม่เป็นชาวกรีก ชื่อว่า นายดมิเทรียซ อายุ 43 ปี โดยห้องเช่าดังกล่าวมาหลายเดือนแล้ว

ก่อนหน้านี้ไม่สามารถติดต่อพี่สาวมาราวๆ 1 สัปดาห์แล้ว โทรศัพท์หาก็ไม่รับสาย วันนี้จึงตัดสินใจเดินทางมาดูพบพี่สาวกลายเป็นศพไปเสียแล้ว คาดว่าสามีใหม่น่าจะเป็นคนลงมือ เพราะในระยะหลังๆ สามีใหม่มักจะหึงหวงพี่สาว แทบจะไปพูดกับผู้ชายคนอื่นไม่ได้เลย โดยเฉพาะกับอดึตสามีที่ยังมาหาถึงร้าน เคยทำให้ นายดมิเทรียซไม่พอใจมาก และเกิดปากเสียงทะเลาะกันอย่างรุนแรง

จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่า นายดมิเทรียซ ได้เดินทางกลับไปประเทศกรีซ ไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทั้งที่ตามหนังสือเดินทางยังสามารถพำนักอยู่ได้จนถึง 27 กุมภาพันธ์ ทำให้เจ้าหน้าที่มั่นใจว่า นายดมิเทรียซ น่าจะเป็นผู้ก่อเหตุ หลังจากนั้นจึงรีบบินหนีกลับประเทศไป เบื้องต้นได้ตั้งประเด็นการสังหารในปมความหึวหวง