ลุงป้าเกือบเอาชีวิตไม่รอด ช้างป่าบุกเข้าไร่ประชิด นึกว่าไม่ดุ เตะใส่ลุงกระเด็น
ผัวเมียรอดตายมาเล่านาทีชีวิต เจอช้างป่าโขลงใหญ่บุกเข้าไร่สับปะรด ป้าวิ่งหนีกระเจิงปีนขึ้นไปอยู่บนต้นไม้ ลุงนึกว่าช้างมาดี สุดท้ายโดนตามล่า เจอพลังเท้าเตะกระเด็น-เจ็บสาหัส
เมื่อวานนี้ (17 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สามีภรรยาเก็บขยะขายในพื้นที่ อ.เขาชะเมา จ.ระยอง ถูกโขลงช้างป่ากว่า 30 ตัว ตามไล่ทำร้าย ฝ่ายสามีวิ่งหนีไม่ทันต้องหลบซ่อนตัวอยู่กับต้นยางพารา แต่ปรากฏว่าโดนถูกช้างป่าไล่ทันและใช้ขาเตะเข้าซี่โครงหักบาดเจ็บสาหัส
เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นบริเวณขนำเพิงพักกลางไร่สับปะรด บ้านเขาไผ่ หมู่ 3 ตำบลเขาน้อย อำเภอเขาชะเมา จังหวัดระยอง นายทองคำ อายุ 50 ปี และ นางจำเนียร อายุ 54 ปี ซึ่งเป็นสามีและภรรยา อาชีพเก็บขยะนั่งอยู่ในเพิงที่พัก ระหว่างนั้นมีโขลงช้างป่ากว่า 30 ตัว พากันส่งเสียงร้องเดินออกมาริมชายเขา และเดินผ่านสวนยางพารา เข้ามายังไร่สับปะรด และพากันกัดกินสับปะรด
โดยจุดดังกล่าวอยู่ใกล้กับเพิงที่พักของนายทองคำและนางจำเนียร กระทั่งเมื่อโขลงช้างเดินมาใกล้เพิงที่พัก นางจำเนียร จึงบอกให้นายทองคำวิ่งหลบหนีไป แต่สามียังใจดีสู้เสือ บอกว่าช้างไม่ทำอันตรายอะไร เพราะแค่จะมากินสับปะรดเท่านั้น
เมื่อนางจำเนียร เห็นว่าสามีไม่หนี จึงได้ออกวิ่งและปีนขึ้นไปอยู่ต้นไม้ ห่างจากที่พักประมาณ 200 เมตร ต่อมาช้างได้มองเห็น นางจำเนียร ที่วิ่งหลบหนีไปแล้ว แต่ นายทองคำ ยังอยู่หลังเพิงที่พัก โขลงช้างป่าจึงมุ่งหน้าไล่ทำร้ายนายทองคำ ทำให้ตกใจและวิ่งหลบหนี
แต่เนื่องจากโขลงช้างป่าไล่ติดตามมากระชั้นชิด นายทองคำจึงซ้อนตัวกับต้นยางพารา ก่อนจะถูกช้างป่าใช้ขาเตะใส่อย่างจัง ทำให้ร่างกระเด็นออกมาจากต้นยาง จากนั้นจึงรีบกลิ้งตัวเข้าไปหลบในที่ที่ปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นโขลงช้างป่าพากันออกจากแปลงไร่สับปะรดไป นางจำเนียรจึงได้ลงจากต้นไม้และวิ่งเข้าไปดูอาการของสามี เป็นจังหวะเดียวกับที่มีชาวบ้านผ่านมาพอดี นางจำเนียรจึงเข้าไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านให้แจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยมารับตัวสามีส่งโรงพยาบาลเขาชะเมาเฉลิมพระเกียรติ 80 ปี
เบื้องต้นแพทย์พบว่า นายทองคำ มีบาดแผลที่ชายโครงด้านซ้าย และซี่โครงหัก 2 ซี่ จากนั้นแพทย์จึงส่งนายทองคำไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลแกลง
นอกจากนี้ นางจำเนียร ยังเปิดเผยอีกว่า คาดว่าโขลงช้างป่าอาจจะหงุดหงิด ที่เข้ามาในไร่สับปะรดแต่ไม่เห็นผล เนื่องจากชาวไร่เก็บเกี่ยวผลผลิตไปหมดแล้ว