งัดข้อ รถเมล์-ที่ดินทำทีมมหาดไทยเกาเหลา

คมชัดลึก : ชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย เสี่ยจิ้น ผู้กุมบังเหียนหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้ประกาศยืนยันสรุปการผลักดันโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน เป็นเพียงเรื่องที่ไม่เข้าใจกันควรต้องให้ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เห็นถึงความโปร่งใสในโครงการ ได้ไปชี้แจงให้ประชาชนได้รับทราบในข้อเท็จจริง แต่ความขัดแย้งเริ่มเกิดขึ้นเมื่อโครงการต่างๆ ของพรรคภูมิใจไทยเริ่มถูก เบรก ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี อาทิ โครงการระบายสินค้าทางการเกษตรของกระทรวงพาณิชย์ถูกตีกลับไปพิจารณาใหม่ 2 โครงการ และโครงการ รถเมล์ เอ็นจีวี 4,000 คัน สร้างความไม่พอใจให้แก่ผู้ใหญ่ในพรรคภูมิใจไทย และเมื่อ พรรคประชาธิปัตย์ โดย มท.3 ถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย เสนอ โครงการให้เช่าที่ดินสาธารณะไร่ละ 10 บาท เป็นเวลา 5 ปีเพื่อแก้ปัญหาการบุกรุกที่ดินป่าสงวนแห่งชาติ จึงถูกเอาคืนจาก ศักดิ์สยาม ชิดชอบ น้องรัก เนวิน ชิดชอบ ซึ่งขณะนี้นั่งในตำแหน่งประธานคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ชวรัตน์ ชาญวีรกูล ออกมาท้วงติงโครงการดังกล่าว โดยเห็นว่าโครงการดังกล่าวจะทำให้รัฐบาลประชาธิปัตย์ไปก่อนเวลาอันควรและขาข้างหนึ่งก็เข้าคุกรอไว้แล้ว หากยังดื้อดึงทำเรื่องนี้โดยไม่ตรวจสอบให้ถ้วนถี่ แม้ข้อเท็จจริงแล้วจะเป็นโครงการที่กรมที่ดินได้ดำเนินการไปแล้วหลายปี ตั้งแต่รัฐบาล ทักษิณ ชินวัตร แต่ ถาวร ได้เตรียมเร่งรัดกรมที่ดินเปิดให้เช่าที่ดินมากขึ้นทั้งจำนวนที่ดินและจำนวนประชาชนที่เช่าที่ดินโดยเพิ่มเป้าหมายให้ครอบคลุมทั่วประเทศ แต่ทันทีที่ ถาวร มีแนวคิดเรื่องนี้ดูเหมือนภาพ ส.ป.ก. 4-01 ที่ จ.ภูเก็ต จะหวนกลับมาหลอกหลอน พรรคประชาธิปัตย์ อีกครั้ง หากยังจำกันได้ คนที่ออกมาเปิดประเด็นปมทุจริตเงื่อนงำการเช่า รถเมล์ เอ็นจีวี 4,000 คัน มูลค่าเกือบ 6.8 หมื่นล้านบาทเป็นคนแรกและนำไปสู่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทรงศักดิ์ ทองศรี อดีต รมช.คมนาคม ส.ส.บุรีรัมย์ มือไม้ของ เนวิน สมัย รัฐบาลสมัคร สุนทรเวช ที่ผลักดันโครงการเช่า รถเมล์ นี้ คือ ถาวร เสนเนียม และเป็นผลให้มีการปรับลดโครงการจากเดิมที่ตั้งไว้ 6,000 คัน จนปัจจุบันเหลือ 4,000 คันและทำให้โครงการถูกลดงบประมาณไปหลายหมื่นล้านบาท ไม่แปลกหาก พรรคภูมิใจไทย ย่อมติดใจที่ถูกรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคประชาธิปัตย์ขวางโครงการเช่า รถเมล์ เอ็นจีวี 4,000 คันอีกครั้ง และก่อนหน้านี้ ถาวร ในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งปี 2548 เคยทำเอา เนวิน เกือบสอบตกสมัยเป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ จ.พัทลุงเรียกประชุมข้าราชการ ขณะจะมีการเลือกตั้ง โดยที่ห้องประชุมข้างๆ มีการถ่ายรูปและบันทึกเสียงการประชุมไว้ตลอดโดยที่ เนวิน ไม่รู้ แต่ที่ รอดถูกดำเนินคดี เพราะเป็นยุคคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สมัย พล.ต.ท.วาสนา เพิ่มลาภ เป็นการรอดแบบค้านสายตาประชาชน จึงมีการมองกันว่าที่ น้องเนวิน ออกมาขวางโครงการของ ถาวร เพราะได้รับใบสั่งจาก พี่ชาย และการที่ ชวรัตน์ ออกมารับลูก ศักดิ์สยาม โดยเห็นว่าจะเป็นการเปิดช่องให้คนรวยสวมสิทธิ์ ยิ่งทำให้อุณหภูมิในกระทรวงมหาดไทยซีกภูมิใจไทยกับประชาธิปัตย์ ร้อนแรงขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงขั้นทวงคืน กรมที่ดิน จาก ถาวร อุณหภูมิร้อนแทบไม่หยุด ถาวร ได้ส่งทีมงานอย่าง วิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา สวนกลับ ศักดิ์สยาม ว่าถูกตัดสิทธิ์การเมือง 5 ปีไม่มีตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีออกมาแสดงบทบาทอะไรให้ยุ่งยาก แค่นั้นไม่พอยังสำทับที่ผ่านมา มท.1 แบ่งงานในความรับผิดชอบให้ ถาวร ไม่ค่อยสมน้ำสมเนื้อ เพราะให้แต่กรมที่ดินมาดูแลเพียงกรมเดียว ศึกการเมืองใน กระทรวงมหาดไทย ไม่จบเพียงเท่านี้ยังส่งผลให้ทั้ง รัฐมนตรี-ที่ปรึกษา-คณะทำงาน มองหน้ากันไม่ติด แม้จะพยายามกลบเกลื่อนสร้างภาพจากแกนนำมีการเคลียร์กันให้เรียบร้อย แต่จะเห็นชัดว่าจากนี้ไปสองแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลคงทำงานร่วมกันลำบากแน่นอน เพราะต้องยอมรับว่า 3 โครงการใหญ่ ที่ถูกตีกลับจาก ครม.มีงบประมาณมหาศาล กำลังเป็นเรื่องใหญ่ที่กำลังถูกจับตามองมากว่าจะเป็น ตัวชี้วัด การอยู่หรือไปของรัฐบาล การเช่า รถเมล์ เอ็นจีวี 4,000 คัน มูลค่าเกือบ 6.8 หมื่นล้านบาท ที่เวลานี้กำลังถูกชำแหละปมทุจริตและเงื่อนงำของผลประโยชน์ทุกแง่มุมโดยเฉพาะความไม่คุ้มค่าและมีการตั้งราคาที่สูงเกินกว่าปกติถึง 2 หมื่นกว่าล้านบาทจนมีการประกาศจาก ส.ว.ที่กำลังตรวจสอบโครงการนี้ว่า วันใดที่ ครม.อนุมัติโครงการนี้ ก็จะมีการล่าชื่อถอดถอน ครม.ทั้งคณะ ส่วนอีก 2 โครงการที่ภูมิใจไทยโดนขวางกลางลำก็คือโครงการที่อยู่ในการดูแลของ กระทรวงพาณิชย์ ที่มีรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงคือ พรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ ในฐานะเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย คือโครงการระบายจำหน่ายข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตามโครงการแทรกแซงตลาดข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2551/2552 จำนวน 342,856 ตัน มูลค่า 2,041.052 ล้านบาท และโครงการประมูลขายข้าว 2.6 ล้านตัน ที่สุดแล้ว 3 โครงการของภูมิใจไทย รถเมล์ -ข้าวโพด-ระบายข้าวเปลือก ที่ถูกตีตก ยิ่งล่าสุด นายกฯ อภิสิทธิ์ ออกมาสวน ชวรัตน์ และ โสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม โดยยืนกรานจะไม่ให้นำเรื่อง รถเมล์ เข้าที่ประชุม ครม.นัดพิเศษวันพุธที่ 3 มิถุนายนนี้ ทั้งที่ ชวรัตน์-โสภณ ก็ประกาศในวันเดียวกันว่า เป็นตายร้ายดีต้องเอาเข้าที่ประชุมและต้องผ่านความเห็นชอบให้ได้ แค่นี้ก็เห็นแล้วว่าปัญหาของความ ไม่ลงตัว ภายในพรรคร่วมรัฐบาลหนักขึ้นทุกวัน คงเป็นงานหนักของสองแกนนำ สุเทพ-เนวิน ในการเจรจา เพื่อทำให้ปัญหานี้ไม่บานหากจะให้ รัฐบาล อยู่นานกว่านี้ แต่สำหรับประชาชนแล้วคงต้องบอกว่ายิ่งนักการเมืองทะเลาะกันมากเท่าใด ขัดแย้งกันมากเท่าไหร่ย่อมมีการแฉเบื้องหลัง เงื่อนงำการหาประโยชน์กันมากเท่านั้น ถือเป็นเรื่องดีสำหรับประชาชน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง พาไปดูนักการเมืองแก้ปัญหาเศรษฐกิจ? สุเทพแนะรมต.ปชป.ระวังกลุ่มป่วนไม่รามือ สุเทพระบุเช่ารถเมล์ 4พันคันขัดแย้งถือเป็นเรื่องธรรมดา สว.ขู่ถอดถอนนายกฯหากไฟเขียวเช่ารถเมล์4พันคัน ปชป.หวั่นเสื้อแดงชุมนุมสร้างเงื่อนไขไม่สงบรอบใหม่