เผยปมทวงหนี้โหด 150 บาท! แทงดับหนุ่มเมียนมา-ฆาตกรเผยโมโหถูกด่า “แยะแม๊ะ”
(19 ก.พ. 62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี นายซอ อายุ 29 ปี แรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ถูกเจ้าหนี้บุกไปทวงเงินแล้วไม่มีจ่าย เลยโดนจ้วงแทงตายคาห้องแถวเช่าแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ถนนซอยจรูญราษฎร์ 5 หมู่ 9 ตำบลตากแดด อ.เมือง จ.ชุมพร เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 62 ที่ผ่านมา
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า คนร้ายน่าจะเป็นแรงงานชาวเมียนมาด้วยกัน หลังมาทวงหนี้แล้วเกิดมีปากเสียงกันจึงชักเหล็กขูดชาร์ปออกมาจ้วงแทงที่กลางอกซ้ายจนตายก่อนจะหลบหนีไป
ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.ธงชัย นุ้ยเจริญ ผกก.สภ.เมืองชุมพร พ.ต.ท.วิชิต ขำคชกรรณ รอง ผกก.(สืบสวน) พ.ต.ท.ปนินทร โชติ รอง ผกก.(สอบสวน) ได้สอบสวนพยาน ซึ่งเป็นชาวเมียนมาที่เช่าบ้านอยู่ห้องแถวติดกันจำนวนเกือบ 10 ปาก เนื่องจากช่วงแรก ตอนเกิดเหตุพยานทั้งหมดไม่กล้าให้การกับตำรวจเพราะกลัวได้รับอันตราย
แต่ต่อมาจึงยอมให้ความร่วมมือกับตำรวจโดยให้ข้อมูลว่า รู้จักและเคยเห็นฆาตกรผู้ก่อเหตุเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นคนไทยมีทั้งหมด 3 คน ช่วงก่อเหตุมือมีดได้ขับรถจักรยานยนต์มาคนเดียวและอีก 2 คน ขับรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ได้เข้ามาทวงหนี้ที่ นายซอ ติดค้างอยู่ แต่ยังไม่มีจ่ายจึงถูกรุมทำร้ายและแทงจนตายดังกล่าว
ต่อมาช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองชุมพร สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 คน คือ นายศุภชัย อายุ 22 ปี มือมีด พร้อมด้วย นายบุญคล่อง อายุ 38 ปี ผู้เป็นพ่อตา และ นายพรชัย อายุ 31 ปี คู่เขยซึ่งเป็นสามีของน้องเมียมือมีด ได้ที่บ้านเช่าแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองชุมพร โดยแจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายผู้อื่นเป็นเหตุให้เสียชีวิต
โดยเมื่อวันที่ 19 ก.พ. 62 ชุดสืบสวนได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน มาสอบปากคำเพิ่มเติม โดยเฉพาะ นายศุภชัย อายุ 22 ปี มือมีด ให้การรับสารภาพเป็นผู้ลงมือแทง นายซอ จนตายจริง แต่เป็นการป้องกันตัว เนื่องจากขณะไปท้วงหนี้ โดยมีพ่อตาและคู่เขยร่วมเดินทางไปด้วยกัน แล้วเกิดมีปากเสียงกับ นายซอ จนถูก นายซอ ด่าบุพการี แล้วชักมีดออกมาจะแทง
ตนจึงต่อสู้ป้องกันตัวและชิงมีดมาได้แล้วจ้วงแทงไป 1 ครั้ง โดยไม่คิดว่า จะตายก่อนจะพากันหลบหนีไป แต่อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อมากนัก เนื่องจากอาวุธมีดที่ใช้ก่อเหตุ นายศุภชัย อ้างว่า ระหว่างหลบหนีได้ขว้างทิ้งในป่าซึ่งจำไม่ได้ว่าจุดใด
โดยในวันที่ 20 ก.พ. 62 เจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ที่เป็นคู่เขยและพ่อตาได้ร่วมกันก่อเหตุในครั้งนี้ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังจุดเกิดเหตุ ก่อนจะนำตัวไปขออำนาจศาลจังหวัดชุมพรฝากขังผลัดแรกต่อไป
ด้าน นางหนูเล็ก อายุ 50 ปี แม่ของ นายศุภชัย อายุ 22 ปี มือมีด ได้มาเยี่ยมลูกชายกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ลูกชายตนมีอาชีพเป็นช่างไฟฟ้ารับจ้างติดตั้งตามอาคารบ้านเรือนและมีครอบครัวแล้วมีลูกสาว 1 คน อายุ 3 ขวบ
ปกติลูกชายตนไม่เคยไปมีเรื่องหรือมีปัญหากับใคร เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นลูกชายเล่าให้ตนฟังว่า คืนเกิดเหตุได้ไปกับพ่อตาและคู่เขย เพื่อจะไปทวงเงินที่ชาวเมียนมายืมไป ซึ่งลูกชายไม่ได้บอกว่าจำนวนเท่าไร
แต่ระหว่างทวงถามได้ถูกชายเมียนมาชี้หน้าด่าว่า “แยะแม๊” ซึ่งเป็นคำหยาบคายที่หมายถึงบุพการี จึงเกิดทะเลาะกันขึ้นแล้วถูกชาวเมียนมาชักอาวุธมีดออกมาจะแทง ลูกชายตนจึงต่อสู้ป้องกันตัวแล้วชิงมีดมาได้จึงจ้วงแทงไป 1 ที โดยไม่คิดว่าจะให้ถึงตายก่อนจะพาหลบหนีไป
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านหลังเกิดเหตุได้พบกับ นายอาร์ต อายุ 21 ปี น้องเมีย นายซอ ผู้ตายกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ได้มาเก็บข้าวของเพื่อจะย้ายออกจากบ้านหลังนี้ไปอยู่ที่อื่นเพราะกลัวความไม่ปลอดภัย
ช่วงเกิดเหตุตนอยู่หลังบ้านและได้ยิน นายซอ พี่เขยตนพูดคุยอยู่กับผู้ต้องหาทั้ง 3 คนอยู่ที่หน้าบ้าน และได้ยินเสียงขู่ว่า “มึงเอาเงินมาให้กู 1,000 บาทเดี๋ยวนี้” และ นายซอ พี่เขยตนก็ตอบกลับไปว่า “ไม่ให้”
จากนั้น พี่เขยตนได้วิ่งหนีเอามือกุมหน้าอกข้างซ้ายเข้ามาในบ้านแล้วล้มฟุบลงขาดใจตายต่อหน้าตน ส่วนคนร้ายทั้ง 3 คน ได้วิ่งไปขับรถจักรยานยนต์ 2 คัน หลบหนีออกไป โดยมีเพื่อนบ้านซึ่งเป็นพยานที่เห็นเหตุการณ์บอกว่าคนร้ายทั้ง 3 คน รุมทำร้ายก่อนแล้วชักมีดออกมาจ้วงแทงพี่เขยตนจนตาย
ขณะที่ นางพิว อายุ 27 ปี ภรรยา นายซอ ผู้ตายกล่าวว่า สามีตนเป็นคนนิสัยดี ไม่เคยมีเรื่องกับใคร มาทำงานรับจ้างอยู่ที่ร้านขายส่งข้าวสารในเขตเทศบาลเมืองชุมพรนานหลายปีแล้ว
วันเกิดเหตุผู้ต้องหาทั้ง 3 คน มาทวงหนี้จากสามีตนที่ติดค้างอยู่จำนวน 150 บาท โดยสามีไม่ได้บอกว่า เป็นค่าอะไร แต่ทั้ง 3 คนได้มาบังคับจะให้สามีตนจ่ายเงินให้ทั้งหมด 1,000 บาท ทั้งๆ ที่เป็นหนี้แค่เพียง 150 บาท เท่านั้น
สามีตนจึงไม่ยอมจ่ายจนถูกรุมทำร้ายและใช้มีดแทงตายดังกล่าว และก่อนเกิดเหตุสามีตนก็ถูกข่มขู่ว่า ถ้าไม่จ่ายเงินให้ 1,000 บาท จะตามมาทำร้ายที่บ้าน จนมาเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น
สำหรับศพของ นายซอ ได้นำไปบำเพ็ญกุศลสวดอภิธรรมตามศาสนา ที่ศาลาวัดสุบรรณนิมิต ตำบลตากแดด อ.เมืองชุมพร ซึ่งเป็นไปอย่างเงียบเหงา โดยมีบรรดาญาติๆ และเพื่อนกว่า 10 มาช่วยงาน โดยกำหนดฌาปนกิจศพในวันที่ 22 ก.พ.นี้