สิ้นชื่อ “ราชินีงาช้าง” หญิงจีนนอนคุก 15 ปี แทนซาเนียจับพร้อมของกลางอื้อ
ศาลแทนซาเนียตัดสินจำคุก 15 ปี หญิงจีนฉายา “ราชินีงาช้าง” ถูกจับพร้อมของกลางเป็นงาช้างแอฟริกาจำนวนมาก
สำนักข่าวประเทศจีนรายงานว่า เมื่อวันอังคาร (19 ก.พ.) ศาลแทนซาเนียได้พิพากษาจำคุก 15 ปี นางหยาง เฟิ่งหลาน หญิงชาวจีนวัย 70 ปี ผู้ได้รับฉายาว่า “ราชินีงาช้าง” หนึ่งในอาชญากรลักลอบค้างาช้างรายใหญ่ที่สุดในแอฟริกา
โดยนางหยางลักลอบขนงาช้างจำนวนมาก อย่างน้อย 800 กิ่ง ไปมาระหว่างทวีปแอฟริกากับประเทศจีนมานานกว่า 10 ปี ซึ่งมีรายงานว่าในเอเชียตะวันออกมีการใช้งาช้างมาทำเป็นเครื่องประดับและสิ่งของล้ำค่า
สำนักอัยการสูงสุดของแทนซาเนียกล่าวว่า นางหยางเป็นหัวหน้าเครือข่ายค้างาช้างข้ามชาติ โดยอาศัยเส้นสายติดต่อกับผู้มีอำนาจในการเคลื่อนย้ายงาช้าง
ต่อมานางหยางถูกจับกุมตัวเมื่อวันที่ 28 ก.พ. ปี 2558 ที่เมืองดาร์ เอส ซาลาม โดยนางหยางพร้อมกับจำเลยร่วมอีก 2 คน เป็นชาวแทนซาเนีย ยังถูกตัดสินจำคุกอีกคนละ 2 ปี ฐานละเมิดกฎหมายอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ของแทนซาเนีย ซึ่งการพิจารณาคดีใช้เวลานานกว่า 3 ปี ส่วนโทษนั้นถือเป็นโทษหนักที่สุดเท่าที่ศาลแทนซาเนียเคยใช้กับพลเมืองจีน
มีรายงานด้วยว่า นางหยางสามารถพูดภาษาสวาฮีลีได้อย่างคล่องแคล่ว เข้าไปในแทนซาเนียครั้งแรกในฐานะล่ามภาษาเมื่อปี 1970 จากนั้นเริ่มลักลอบค้าขายงาช้าง มีธุรกิจหลายอย่างรวมทั้งร้านอาหารขนาดใหญ่และบริษัทบริหารจัดการเงินลงทุนในดาร์ เอส ซาลาม เมืองใหญ่ที่สุดของแทนซาเนีย
ซึ่งการจับกุมตัวนางหยางทำให้หลายหน่วยงานออกมาชื่นชมทางการแทนซาเนียที่สามารถทะลวงขบวนการลักลอบขนสินค้าระหว่างประเทศรายใหญ่ได้ ขณะที่ทางองค์กรระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) กล่าวว่า เพราะการรุกล้ำนี้ทำให้จำนวนช้างแอฟริกาลดลงเหลือเพียง 415,000 ตัวเท่านั้น