ไฟไหม้วอดร้านน้ำมันขวด เจ้าของสงสัยเป็นวางเพลิงจากอดีตเพื่อนบ้าน
วางเพลิงร้านขายน้ำมันขวดกลางเมืองภูเก็ต เจ้าหน้าที่สามารถสกัดเพลิงเอาไว้ทัน ก่อนจะลามไปทั้งชุมชน คาดเป็นคนที่เคยอาศัยอยู่กันมาก่อน แอบลอบเข้ามาวางเพลิง โดยไม่ทราบโกธรเรื่องอะไรกัน
(21 ก.พ.) เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ภาพเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครภูเก็ต ภายใต้การสั่งการของ นายพงษ์ศักดิ์ ศิริทัพ หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครภูเก็ต นำรถดับเพลิงพร้อมรถน้ำรวม 5 คัน เดินทางไปยังจุดเหตุและเร่งทำการฉีดน้ำสกัดเพลิงที่กำลังลุกไหม้ร้านขายน้ำมันขวด
จุดเกิดเหตุอาคารชั้นเดียว บริเวณสี่แยกนรหัส ถ.ศรีเสนา ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ที่เพลิงกำลังโหมลุกไหม้อย่างหนักและรุนแรง เนื่องจากมีน้ำมันเบนซินเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี โดยได้ฉีดน้ำสกัดทั้ง 2 ข้างที่มีร้านและบ้านเรือนประชาชนอยู่เพื่อป้องกันไม่ให้เพลิงลุกลามไปติดยังบ้านเรือนร้านค้า ร้านอาหารของประชาชนที่ใกล้เคียงอย่างหนาแน่น อีก 2 คันฉีดสกัดตรงต้นเพลิง
โดยเจ้าหน้าทีได้ใช้เวลาประมาณ 25 นาที แต่เพลิงก็ได้เผาไหม้ทรัพย์สิ้นไปหมด เหลือแต่ซากหมดแล้ว จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ โดยมีเจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมือง จ.ภูเก็ต และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตคอยอำนวยความสะดวกด้านการจราจรและการปฏิบัติงาน
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบเป็นอาคารปูนชั้นเดียว ด้านหน้ามีชั้นสำหรับวางขวดน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อจำหน่าย ขณะเกิดเหตุเจ้าของบ้านได้เข้าไปนอนพักผ่อนภายในบ้าน ช่วงเกิดเหตุได้มีพนักงานร้านคาราโอเกะซึ่งอยู่ใกล้กันเห็นเพลิงลุกไหม้อยู่หน้าบ้านหลังดังกล่าว จึงได้ไปเรียกเจ้าของบ้าน ทราบชื่อคือ นางถวัลย์ อายุ 69 ปี ให้ออกมาทางด้านหลังร้าน พร้อมด้วยลูกชายและลูกสะใภ้ได้อย่างปลอดภัย
ส่วนของทรัพย์สินภายในบ้านเสียหายทั้งหมด เนื่องจากไม่สามารถนำอะไรออกมาได้ รวมถึงรถจักรยานยนต์ 1 คันด้วย
จากการสอบถามนางถวัลย์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุหลังจากที่ขายน้ำมันขวดไปได้ 2-3 ขวด ก็ได้เข้าไปนอนพักผ่อนในบ้าน ซึ่งปกติจะนอกเพียงลำพัง แต่เนื่องจากรู้สึกไม่สบาย ลูกชายและลูกสะใภ้มานอนเป็นเพื่อน ระหว่างนั้นก็ได้ยินพนักงานร้านคาราโอเกะซึ่งอยู่ติดกันมาตะโกนเรียกที่หลังบ้านว่า ไฟไหม้ให้รีบออกมา ด้วยความตกใจก็ไม่ได้หยิบอะไรออกมาเลย
จากการพูดคุยกับพนักงานร้านคาราโอเกะ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุเห็นผู้หญิงคนหนึ่งรูปร่างท้วม เดินถือแกลลอนน้ำมันมา จากนั้นก็เห็นไฟลุกไหม้ ทั้งนี้ตนก็พอทราบว่าเป็นใคร และลูกชายก็ไปดูที่ห้องพักของผู้หญิงดังกล่าวก็ไม่พบตัว จึงคิดว่าไม่น่าจะผิดตัว
ทั้งนี้ตนกับบุคคลดังกล่าวก็ไม่ได้มีเรื่องโกรธเคืองอะไรกัน และก่อนหน้านี้ก็เคยให้พักอาศัยอยู่ด้วยประมาณ 2 เดือน ก่อนที่อีกฝ่ายจะมีงานทำและย้ายออกเช่าบ้านอยู่เอง หากเป็นไปตามที่ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าให้ฟัง เชื่อว่าเป็นการวางเพลิงแน่นอน
ร.ต.อ.รณภูมิ เพิ่มพูนพนักงานสอบสวน สภ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้ทำเก็บหลักฐาน พร้อมสอบปากคำเจ้าของบ้านและผู้เห็นเหตุการณ์เบื้องต้น เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน หากสาเหตุการเกิดแพลิงไหม้ และติดตามผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำ เพื่อหาผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป