เปิดใจโสภณนโยบายเช่ารถเมล์4พันคัน
คมชัดลึก : โครงการรถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน กำลังสั่นคลอนเสถียรภาพรัฐบาลอย่างหนัก เมื่อรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยกำลังผลักดันสุดแรงเกิดให้รถเมล์วิ่งสู่ ครม.ให้ได้ ท่ามกลางแรงต้านจากพรรคประชาธิปัตย์ ส.ว. และภาคประชาชน ที่ยังติดใจเรื่องความโปร่งใสของโครงการ รายการ คม-ชัด-ลึก วันจันทร์ที่ 1 มิถุนายน 2552 เสนอตอน : เปิดใจนโยบายเช่า รถเมล์ 4,000 คัน โดยมี นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จากพรรคภูมิใจไทย มาตอบทุกคำถามที่ค้างคาใจประชาชน โสภณทวงสัญญา2สัปดาห์ต้องเข้า ครม.ลั่นโปร่งใส-ไม่เจ๊ง-ประชาชนใช้รถดีกว่าเดิม นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความโปร่งใสของโครงการนี้ ว่า สำหรับกระแสที่ว่าฝืนความรู้สึกของสังคมนั้น อยากจะตอบ และอยากจะชี้แจงมานานแล้ว วันนี้ การบริหารประเทศ ถ้าจะทำด้วยความรอบคอบ ถูกต้อง เป็นประโยชน์แก่ประชาชน และอยู่บนข้อเท็จจริง ผมก็พร้อมจะรับฟัง แต่ถ้าตั้งประเด็นไว้แล้ว ชี้แจงไว้แล้ว แต่ยังไงก็ไม่รับฟัง นั่นคือกระแส ซึ่งก็คงเหนื่อยที่จะชี้แจง เมื่อถามว่า จะผลักดันโครงการนี้เข้า ครม.ในวันที่ 3 มิถุนายนนี้ หรือไม่ นายโสภณ กล่าวว่า ถ้าไม่เข้าก็คือ ครม.เบี้ยวผม เพราะบอกให้กระทรวงคมนาคมกลับไปทบทวนดอกเบี้ย และค่าซ่อมภายใน 2 สัปดาห์ เราก็ส่งให้เข้าใน 2 สัปดาห์ จะไม่ให้เข้าได้ยังไง เมื่อถามถึงวงเงินงบประมาณที่จะนำเสนอต่อ ครม.ในครั้งนี้ นายโสภณ ชี้แจงว่า วงเงินที่คณะกรรมการ 3 ฝ่าย คือ กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และกระทรวงคมนาคม เห็นชอบร่วมกัน คือ 64,853 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่ปรับลดดอกเบี้ย 3% แล้ว ส่วนตัวเลขที่กระทรวงคมนาคมเสนอไปครั้งก่อน คือ 67,992 ล้านบาท ก็จะนำเสนอให้พิจารณาด้วย แต่หลังจากกลับไปทบทวนแล้วทางคณะกรรมการท้วงติงว่า รายได้จากโครงการนี้มีแน่นอน เพราะรัฐเป็นผู้ให้เช่า จึงไม่จำเป็นต้องกำหนดดอกเบี้ยค่าความเสี่ยงไว้ที่ 3% ขณะที่ประเด็นค่าซ่อมบำรุงที่ยังคงไม่มีการปรับลดจากตัวเลข 2,250 บาทต่อวันต่อคัน ทั้งที่มีการปรับลดดอกเบี้ยแล้ว เขายืนยันว่า ตัวเลขนี้เอามาจากผลการศึกษาของสถาบันพระปกเกล้า แต่ที่มีการปรับเพิ่มขึ้น คือ ยางต้องเปลี่ยนยางใหม่ทั้งหมด จากที่ให้ใช้ยางหล่อดอก ส่วนเครื่องยนต์ก็ต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งหมดเมื่อครบ 4 แสนกิโลเมตร ซึ่งของเดิมให้ใช้เครื่องมือสอง นอกจากนี้ยังมีค่าสำรองรถเพิ่มขึ้นมาด้วย ทั้งนี้ ผลการศึกษาของสถาบันพระปกเกล้า ยึดมาจากอัตราค่าซ่อมของ ขสมก. ที่ต้องเสียค่าซ่อมเฉลี่ยกิโลเมตรละ 7 บาท ซึ่งของเราวิ่งวันละ 300 กิโลเมตร บวกค่าซ่อมทุกอย่างรวมทั้งอี-ทิคเก็ตด้วยก็อยู่ประมาณนี้ ไม่ได้แพงอย่างที่คิด ประเด็นที่สมาคมรถเอกชนเผยข้อมูลว่า เขาเสียค่าซ่อมกิโลเมตรละ 4 บาทเท่านั้น นายโสภณ ตอบว่า อัตราของเอกชนคือ ซ่อมแล้วให้พอวิ่งได้ ซ่อมเมื่อมันเสีย แต่ของเราซ่อมตามอายุการใช้งาน และที่ไม่ใช้เครื่องมือสอง เพราะกำหนดสเปกและราคากลางไม่ได้ รมว.คมนาคม ระบุว่า ปัจจุบันมีคนขึ้นรถ ขสมก.เฉลี่ยวันละ 226 คนต่อวัน แต่เมื่อมีรถแอร์ และตั๋วอี-ทิคเก็ต เชื่อว่าจะมีคนขึ้นไม่ต่ำกว่า 350 คนต่อคันต่อวัน เพราะรถจะมีคุณภาพมากขึ้น และมาตรงเวลามากขึ้นจากการใช้ระบบจีพีเอสในการปล่อยรถ ส่วนที่ห่วงกันว่า การใช้ราคาเหมาจ่าย 30 บาททั้งวัน ซึ่งบางคนอาจไม่อยากจ่าย เพราะเขาอาจจ่ายน้อยกว่านั้น เชื่อว่า สำหรับคนส่วนนี้เราก็มีรถร้อนของ ขสมก. และรถร่วมเอกชนส่วนหนึ่ง รวมทั้ง รถเมล์ ฟรีให้บริการเป็นทางเลือกอยู่แล้ว จึงไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง อภิสิทธิ์ต้องพิสูจน์ความเป็นผู้นำที่กล้าหาญ คอร่ำลูกทุ่ง - ลูกทุ่งตกสมัย วาระซ่อนเร้น วาระรถเมล์ 6 หมื่นล. พธม.คัดเลือกหน.พรรคพรุ่งนี้เผย1ใน5แกนนำ หม่อมอุ๋ยหนุนนายกฯขวางโครงการรถเมล์ฉาว