คาดฟ้าผ่าแอร์ฟรานซ์ 228 ชีวิตส่อชะตาขาด

คาดฟ้าผ่าแอร์ฟรานซ์ 228 ชีวิตส่อชะตาขาด

คาดฟ้าผ่าแอร์ฟรานซ์ 228 ชีวิตส่อชะตาขาด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เครื่องบินโดยสารสายการบินแอร์ฟรานซ์ หายจากจอเรดาร์ ผู้โดยสาร 228 ชีวิตส่อชะตาขาด กองทัพอากาศฝรั่งเศสจับมือบราซิลค้นหา แต่ยังคว้าน้ำเหลว คาดฟ้าผ่าใส่กลางลำ ขณะที่ญาติ-ปธน.ฝรั่งเศสมารอลุ้นชีวิตที่สนามบินด้วยความระทึกทั้งคืน

คืบหน้าเกี่ยวกับการขาดการติดต่อของเครื่องบินโดยสารของ สายการบินแอร์ฟรานซ์ โดยเชื่อว่าน่าจะประสบอุบัติเหตุมากกว่าถูกจี้เครื่องบินนั้น เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน เจ้าหน้าที่ของสายการบินแอร์ฟรานซ์ คาดว่าเครื่องบิน แอร์บัสรุ่น 330-200 พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือบนเครื่องรวม 228 คนของสายการบินแอร์ฟรานซ์ ซึ่งขาดการติดต่อไปตั้งแต่บ่ายวันเดียวกัน น่าจะถูกสายฟ้าฟาดท่ามกลางพายุฝนฟ้าคะนอง จนทำให้เกิดปัญหาและตกลงในมหาสมุทรแอตแลนติค ซึ่งกองทัพอากาศทั้งของฝรั่งเศสและบราซิลได้ส่งเครื่องบินออกตามหาเครื่องบินลำนี้ที่หายไปแล้ว

ก่อนหน้านี้รายงานข่าวระบุว่า เครื่องบินแอร์บัสเที่ยวบินเอเอฟ 447 พร้อมผู้โดยสาร 216 คน และพนักงานบนเครื่องอีก 12 คน รวมเป็น 228 คน ของสายการบินแอร์ฟรานซ์ ขาดการติดต่อกับหอควบคุมการจราจรทางอากาศเมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. ตามเวลาในไทย ขณะบินข้าม มหาสมุทรแอตแลนติค หลังเดินทางออกจากนครริโอ เดอ จาเนโร ในบราซิล ไปยังกรุงปารีสของฝรั่งเศส โดยมีกำหนดเดินทางถึงเวลา 16.10 น.วันดียวกันตามเวลาในไทย

สายการบินแอร์ฟรานซ์ระบุว่า เครื่องบินได้ส่งข้อความว่า เกิดปัญหาไฟฟ้าลัดวงจรเมื่อเวลา 09.14 น.ตามเวลาในไทย หรือเพียง 4 ชั่วโมงหลังจากบินฝ่าพายุท่ามกลางสภาพอากาศแปรปรวนออกจากนครริโอ เดอ จาเนโร ในบราซิล เมื่อเวลา 19.00 น. ของวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับเวลา 05.00 น.ของเช้าวันที่ 1 มิถุนายน ตามเวลาในไทย โดยมุ่งหน้าไปยังกรุงปารีสของฝรั่งเศส ซึ่งอยู่ห่างกันเป็นระยะทาง 9,145 กม. โดยใช้เวลาในการเดินทางราว 10 ชั่วโมง 20 นาที และส่วนใหญ่เป็นการเดินทางข้ามมหาสมุทรแอตแลนติค


รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมฝรั่งเศส ฌอง-หลุยส์ บอร์โล บอกว่า เครื่องบินแอร์ฟรานซ์ที่หายไปจากจอเรดาร์ น่าจะประสบอุบัติเหตุมากกว่าถูกจี้ เพราะในช่วงเวลาที่เครื่องบินขาดการติดต่อ เป็นช่วงที่ทัศนวิสัยไม่ดีเกิดพายุรุนแรง เป็นปัญหาปกติสำหรับการบิน แต่เป็นไปได้ว่าสายฟ้าที่ฟาดเข้าใส่เครื่องบิน ท่ามกลางพายุรุนแรงอาจกระตุ้นให้เกิดปัญหาทางเทคนิคกับเครื่อง

ด้านกองทัพอากาศบราซิลได้ส่งเครื่องบินออกค้นหาในบริเวณน่านน้ำนอกชายฝั่งตะวันออก ซึ่งอยู่ห่างจากนครริโอ เดอ จาเนโรไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 2,400 กม. เช่นเดียวกับกองทัพอากาศของฝรั่งเศส โดยทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้รับแจ้งเหตุการณ์นี้แล้ว และสั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพยายามสืบหาเครื่องบินลำนี้โดยเร็ว

ขณะที่บรรดาญาติพี่น้องของผู้โดยสารบนเครื่องบิน ต่างรอฟังข่าวการหายไปของเครื่องบินอย่างใจจดใจจ่อ ที่สนามบินชาร์ลส์ เดอ โกล นอกกรุงปารีส เช่นเดียวกับผู้นำฝรั่งเศส ก็เดินทางไปยังสนามบินชาร์ลส์ เดอ โกล เพื่อปลอบขวัญญาติผู้โดยสารหลายคนให้ทำใจ เพราะเชื่อว่าเครื่องบินน่าจะประสบอุบัติเหตุตก และอาจไม่มีผู้รอดชีวิต

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน บรรดาญาติของผู้โดยสารบนเครื่องบินสายการบินแอร์ฟรานซ์ที่หายสาบสูญนอกชายฝั่งบราซิล รอคอยความคืบหน้าของเหตุการณ์ที่สนามบินทั้งในบราซิลและฝรั่งเศส โดยญาติหลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าตกใจ หลังทราบข่าวเครื่องบินโดยสารเที่ยวบิน 447 ของสายการบินแอร์ฟรานซ์ หายไปจากจอเรดาร์นอกชายฝั่งห่างจากทางตะวันออกเฉียงเหนือของบราซิล 565 กิโลเมตร และรีบเดินทางมายังสนามบินนี้ทันที เนื่องจากสายการบินแอร์ฟรานซ์ไม่สามารถให้รายละเอียดต่างๆ ได้

เจ้าหน้าที่รายหนึ่งระบุว่า ผู้โดยสารและลูกเรือทั้ง 228 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวบราซิล มีชาวฝรั่งเศสประมาณ 40-60 คน ชาวเยอรมันอย่างน้อย 20 คน เดนมาร์ก 6 คน อิตาลี 5 คน และอีกหลายคนเป็นชาวอังกฤษ ส่วนเครื่องบินน่าจะหายไปจากจอเรดาร์ขณะอยู่เหนือน่านฟ้าเซเนกัล ท่ามกลางสภาพอากาศแปรปรวนและอาจถูกฟ้าผ่า

แอร์ฟรานซ์เปิดเผยว่า ลูกเรือทั้ง 12 คนเป็นชาวฝรั่งเศสทั้งหมด ส่วนผู้โดยสาร 216 คน เป็นผู้ชาย 126 คน ผู้หญิง 82 คน มีเด็ก 7 คน และทารก 1 คน มีรายงานด้วยว่า ผู้โดยสารที่สูญหายรวมทั้งเจ้าชายเปโดร ลูอิส เดอ ออร์ลีนส์ อี บรากันซา พระชนมายุ 26 ชันษา ผู้สืบเชื้อสายมาจาก "ปีเตอร์ที่สอง" จักรพรรดิองค์สุดท้ายของบราซิล ผู้ถูกโค่นบัลลังก์ตั้งแต่เมื่อปี ค.ศ.1889 ก่อนที่บราซิลจะกลายเป็นสาธารณรัฐ

ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเห็นพ้องกันว่า แม้จะเป็นไปอย่างที่หัวหน้าโฆษกสายการบินแอร์ฟรานซ์คาดว่าเครื่องบินอาจโดนฟ้าผ่า แต่เครื่องบินถูกฟ้าผ่าเป็นประจำอยู่แล้ว และหายากที่ฟ้าผ่าจะทำให้เครื่องบินตก นอกจากจะมีปัจจัยอื่นร่วมด้วย รวมทั้งสภาพอากาศแปรปรวนที่เลวร้าย จนทำให้ระบบหลายอย่างบนเครื่องบินเสียพร้อมๆ กัน เพราะระบบ ACARS (Aircraft Commu nications and Addressing System) ที่ส่งข้อมูลอัตโนมัติจากเครื่องบินไปยังสถานีภาคพื้นดิน และถูกส่งไปที่สำนักงานใหญ่ของบริษัทพบว่า มีปัญหากับระบบความดันและระบบไฟฟ้าต่างๆ บนเครื่องบิน ก่อนที่เครื่องบินจะสูญหายไป

ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า พื้นที่ที่เครื่องบินสูญหาย ขึ้นชื่อเรื่องพายุและสภาพอากาศแปรปรวนตลอดทั้งปี ทำให้นักบินต้องได้รับการฝึกเป็นพิเศษให้บินผ่านพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งรวมทั้งพายุทอร์นาโดขนาดเล็ก ที่อาจเป็นสาเหตุให้จู่ๆ เครื่องบินลำนี้จึงหายไปโดยไม่ได้ส่งสัญญาณของความช่วยเหลือใดๆ จนทำให้ผู้เชี่ยวชาญบางคนไม่ตัดความเป็นไปได้เรื่องการก่อการร้าย และกำลังวิตกกันว่า หากเครื่องบินตกในน้ำลึก คงไม่อาจหากล่องดำพบ และไม่ทราบสาเหตุของการตก

แอร์ฟรานซ์ยังระบุว่า นักบินเครื่องบินลำนี้มีประสบการณ์บินสูงมาก มีชั่วโมงบิน 11,000 ชั่วโมง รวมทั้ง 1,700 ชั่วโมงกับเครื่องบินแอร์บัส A 330 และ A 340 และว่าขณะเกิดเหตุ เครื่องบินใช้ความเร็ว 840 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่ระดับความสูง 35,000 ฟุต หากมีการยืนยันว่าลูกเรือและผู้โดยสารทั้งหมด 228 คนเสียชีวิต จะเป็นเหตุที่มีผู้เสียชีวิตครั้งร้ายแรงสุดในประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศสและของการบินพลเรือนฝรั่งเศสในรอบกว่า 10 ปี หลังจากเดือนกรกฎาคม 2543 ลูกเรือและผู้โดยสารทั้งหมด 109 คน กับคนอีก 4 คน บนพื้นดินเสียชีวิตเพราะเครื่องบินความเร็วเหนือเสียงคองคอร์ดตกระหว่างบินขึ้นที่ท่าอากาศยาน "ชาร์ล เดอ โกล" ทำให้ในที่สุดได้มีการยกเลิกการให้บริการเครื่องบินคองคอร์ดทั้งหมด

ทั้งนี้ ฝรั่งเศสได้ขอความช่วยเหลือจากดาวเทียมสายลับกับศูนย์ดักฟังข้อมูลต่างๆ ของกองทัพสหรัฐในการค้นหาด้วย รวมทั้งเครื่องบินบราซิลได้พักการค้นหาทางอากาศช่วงคืนที่ผ่านมาเพราะ ทัศนวิสัยไม่ดี แต่อาจส่งเครื่องบินพิเศษติดเซ็นเซอร์อิเล็กทรอนิกส์ช่วยค้นหาแทน จนกว่าทัศนวิสัยจะดีขึ้น ส่วนเรือรบบราซิลอีกสามลำจะไปไม่ถึงจุดเกิดเหตุจนถึงคืนวันอังคาร ตามเวลาท้องถิ่น

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook